2ไม่คิดว่าจะไม่อร่อยขนาดนี้

1462 คำ
เพียงไม่นาน สมายด์ก็ถือจานอาหารออกมาจากในครัว ก่อนนั่งลงที่โต๊ะแล้วตักข้าวเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ ไม่แม้แต่จะหันมาชวนผมสักคำ “หิวเหรอคะ” เธอเลิกคิ้วถามเสียงห้วน เหมือนไม่ได้สนใจคำตอบจริงๆ “มีอะไรกินรึเปล่า เดี๋ยวเพื่อนเอาของมาคืนแล้วฉันจ่ายให้” “หนูทำข้าวผัดไว้ จะกินก็มานั่งสิ เดี๋ยวไปตักให้” ผมเดินไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร อย่างน้อยเด็กนี่ก็ยังมีน้ำใจอยู่บ้าง “นี่ค่ะ หนูทำไม่ค่อยอร่อยหรอกนะ ทำอาหารไม่ค่อยเป็น” เธอรีบวางจานข้าวลงตรงหน้า พร้อมออกตัวไว้ก่อนว่าทำกับข้าวไม่ค่อยเป็น “ไม่เป็นไร ฉันกินอะไรง่ายๆ” ตอนนี้แค่ได้กินอะไรก็พอ ไม่ได้สนใจเรื่องรสชาติเท่าไร ผมตักข้าวเข้าปากทันที แล้วก็เกือบอยากคายออกมาทันทีเหมือนกัน ที่เธอบอกว่าไม่อร่อย ผมไม่คิดว่าจะไม่อร่อยขนาดนี้ “ไม่อร่อยเหรอคะ” เสียงเธอแผ่วลง จ้องผมด้วยแววตาเหมือนลูกหมาถูกดุ “อืม…” ผมตอบเพียงสั้นๆ เคี้ยวอย่างเชื่องช้า ลังเลว่าจะกลืนดีไหม แต่พอเห็นหน้าเสียๆนั่น ก็จำใจกลืนลงคออย่างยากลำบาก ผมหันมามองหน้าเธอ พลางถอนหายใจเบาๆ “มีข้าวกับหมูเหลือไหม” เธอพยักหน้ารัว “พี่จะทำใหม่เหรอคะ” “อืม… รสชาติแบบนี้ กินได้ที่ไหนกัน” ผมลุกเดินเข้าไปในครัว มองหาอุปกรณ์กับวัตถุดิบ เธอก็รีบลุกตามมา คอยช่วยจับนู่นนี่แต่ก็เก้ๆกังๆไปหมด “ว้าว! ต้องทำแบบนี้เหรอคะ หนูนึกว่าต้องใส่หมูทีหลังซะอีก!” เธออุทานอย่างตื่นเต้น ดีนะที่ยังไม่ทำให้ท้องเสียกันไปก่อน ไม่นานข้าวผัดก็เสร็จ เธอยิ้มกว้างพร้อมทำจมูกฟุตฟิต “ยกออกไปก่อน ฉันจะทำพริกน้ำปลาแป๊บเดียว” “ได้ค่ะ พี่เก่งมากเลย!” เสียงใสๆของเธอดังขึ้น พร้อมยิ้มจนตาหยี ผมมองแล้วได้แต่ส่ายหน้า เด็กนี่ยังทำอะไรไม่เป็นเลย พ่อแม่ปล่อยให้มาอยู่คนเดียวได้ยังไงกัน ผมกลับออกมาพร้อมกับพริกน้ำปลา ส่วนเธอก็ตักข้าวใส่จานรอ “กินเลยสิ ” ผมบอกเธอ ตอนนี้ไม่รู้ใครเป็นเจ้าของห้องกันแน่ “ขอบคุณค่ะ…หื้มมม…อร่อย…พี่ทำกินเองบ่อยเหรอคะ ” “อืม..” สมายด์ตาโตชมผมใหญ่ ที่ผมทำมันไม่อร่อยขนาดนั้นหรอก แต่ที่เธอทำรสชาติมันห่วยแตกต่างหาก “แล้วพ่อแม่เธอคิดยังไง ถึงให้ลูกย้ายออกมาอยู่คนเดียว พึ่งจะอายุเท่าไหร่เอง ” แล้วผมก็อดที่จะถามไม่ได้ ความจริงผมมองว่ายังไม่สมควรด้วยซ้ำ “หนูอายุ18แล้วค่ะ พ่อมีแฟนใหม่ เลิกกับแม่ตอนหนูอยู่ป.6 หลังจากนั้นแม่ก็มีแฟนใหม่ ตอนหนูอยู่ม.5 แฟนแม่เป็นนักธุรกิจ ต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศและแม่ก็ต้องไปด้วย ส่วนที่บ้านคุณป้าไม่ค่อยชอบหนูรวมทั้งลูกสาวคุณป้าด้วย อยู่ไปก็มีแต่ทะเลาะกัน ก็เลยขอแม่ย้ายออกมาอยู่คนเดียว ” เธอตอบไปพลางเคี้ยวข้าวไปพลาง ครอบครัวแตกแยกว่างั้น “แล้วเธอเรียนที่ไหน” “โรงเรียนมัธยมปลาย ฝั่งตรงข้ามกับมหาลัยพี่ค่ะ ” หลังจากนั้นผมก็ไม่ถามอะไรเธอต่อ ความจริงเธอจะอายุเท่าไหร่ก็ไม่เกี่ยวกับผมหรอก ปกติผมก็ไม่ชอบสุงสิงกับใครอยู่แล้ว ครืด~ครืด~ “พี่คะ เพื่อนพี่โทรมาอีกแล้ว ” เธอยื่นมือถือมาให้ผมอีกครั้ง ก่อนที่ผมจะกดรับสาย “ว่าไง” {กูอยู่ข้างล่าง ลงมา} “อืม ” “เพื่อนพี่มาแล้วเหรอคะ ” “อืม ฉันไปนะ แล้วทีหน้าทีหลัง ก็อย่าให้ผู้ชายเข้าห้องง่ายๆแบบนี้นะ มันอันตราย เข้าใจไหม ” “เข้าใจค่ะ ” แล้วผมก็เดินออกจากห้องเธอไป ด้านล่างคอนโด ปัง!! “ไง!!นอนห้องสาวทั้งวันเลยนะมึง ” พอผมขึ้นมาบนรถ ไอ้เพื่อนตัวดีก็แซวทันที “สาวอะไร เด็ก18ไม่ใช่สเปคกู ” ผมตอบเพื่อนไป เพราะผมไม่ชอบเด็กอยู่แล้ว งี่เง่าวุ่นวาย ต้องคอยเอาอกเอาใจ “แล้วไอ้พวกนั้นกลับตอนไหนวะ ” คือผมจำอะไรไม่ได้เลย ไม่เคยเมาขนาดนี้มาก่อน “กลับพร้อมเรานี่แหละ พวกนั้นไม่เมาเท่าไหร่ ไอ้คูเปอร์เมา แต่แอลลี่เป็นคนขับ ” ในระหว่างทางผมก็งีบอีกครั้ง รู้สึกว่ามันเหนื่อยแล้วมันก็เพลียมากด้วย พอมาถึงผับเฮียไดม่อน ผมก็แยกย้ายกับเพื่อน แล้วขับรถกลับคอนโด -สมายด์ - วันต่อมา “คุณตาคะ ขนของรอบนี้เสร็จ หนูก็ไม่ค่อยได้กลับมาแล้วนะคะ คุณตาดูแลสุขภาพด้วย ” วันนี้ฉันกลับมาที่บ้านหลังใหญ่อีกครั้ง เพื่อเอาของที่ยังขนไปไม่หมด แต่รอบนี้ก็รอบสุดท้ายแล้วละ คงไม่ได้กลับมาที่นี่บ่อยๆ “ดูแลตัวเองดีๆนะลูก อยู่คอนโดคนเดียวก็ระวังตัวให้มากหน่อย ตาเป็นห่วง” “รับทราบค่ะคุณตา” ตาคือคนเดียวในบ้านที่เป็นห่วงฉัน ส่วนคนอื่น พอแม่ไม่อยู่ก็รุมแซะรุมแขวะ ซึ่งกับผู้หญิงอายุแค่18 ฉันพยายามทนแล้วนะแต่มันไม่ไหวจริงๆ “โอ๋กันเข้าไป คุณพ่อคงลืมไปแล้วมั้งคะ ว่ายังมีหลานคนอื่นด้วย ” พูดยังไม่ทันขาดคำป้าศศิก็มา และก็พูดแซะแบบนี้ตลอด “เดี๋ยวนี้ปีกกล้าขาแข็งย้ายออกไปอยู่คนเดียวแล้วเหรอ แล้วกลับมาทำไมละ ” “มายด์กลับมาเอาของค่ะ อีกเดี๋ยวก็จะไปแล้ว ” ฉันตอบป้าศศิทั้งที่ไม่หันไปมองหน้า “ศศิ!!เธอนี่ก็จะอะไรกับหลานนักหนา เด็กไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วนเลยนะ ” ปู่หันไปเอ็ดป้าศศิเบาๆ “ ไม่รู้เรื่องแล้วยังไงคะ สุดท้ายยัยมายด์ก็ต้องได้บ้านพักตากอากาศอยู่ดี ถ้ายัยสุนีย์ไม่ยอมขายแล้วแบ่งครึ่งกัน พ่อก็อย่าหวังว่าชาตินี้ หนูจะญาติดีกับเด็กนี่และสุนีย์เลยค่ะ ” แล้วป้าศศิก็เดินตึงตังออกไปอย่างไม่พอใจ “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อสมายด์ อัญญารินทร์ กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมปลายปีที่6 . หน้าตาสะสวยตัวเล็กน่ารัก แต่บอกเลยว่าอกไม่เล็กนะ หลังจากที่แม่บินไปอยู่ต่างประเทศกับสามีใหม่ ฉันก็ต้องย้ายไปอยู่คอนโดคนเดียว เพราะทนอยู่กับสภาพแวดล้อมแบบนี้ไม่ไหว ปัญหาก็เป็นเรื่องเดิมๆนั่นแหละ เรื่องสมบัติที่แบ่งสันปันส่วนกันไม่ลงตัว แต่นั่นมันก็เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ฉันเองก็ไม่ได้อยากยุ่งอะไร “ งั้นหนูกลับนะคะ เอาไว้หนูจะมาเยี่ยมคุณตาบ่อยๆ” พอเก็บข้าวของเสร็จ ฉันก็ร่ำลาคุณตา เพราะไม่อยากอยู่ที่นี่นาน ยังมีลูกพี่ลูกน้องกัน ก็ลูกสาวของป้าศศินั่นแหละ ที่เจอกันทีไรก็ต้องทะเลาะกันทุกที “ มาหาตาบ่อยๆนะ ตาคิดถึง ” “ค่ะ แล้วหนูจะมาหาบ่อยๆนะคะ ” ร่ำลาตาเสร็จ ฉันก็ขับรถกลับคอนโด ความจริงบ้านกับคอนโดก็ไม่ได้ไกลกันมากเท่าไหร่หรอก ครืด~ครืด~ “ ค่ะแม่” {มายด์ ย้ายของเสร็จหมดหรือยังลูก} “ เรียบร้อยแล้วค่ะ ตอนนี้กำลังขับรถกลับคอนโด” {อยู่คนเดียวระวังตัวหน่อยนะลูก ถ้าคิดถึงคุณตา เอาไว้เวลาป้าไม่อยู่หนูค่อยกลับไป } “ เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะแม่ หนูรู้ หนูไม่อยากให้แม่กังวลจนเกินไปนะคะ” {แม่รักลูกนะ อยู่คอนโดไปก่อน ไว้แม่จะกลับไปหาบ่อยๆนะลูก รอลูกเรียนจบม.6 แม่จะไปรับลูกมาอยู่ที่นี่ด้วยกัน อดทนหน่อยนะอีกแค่ไม่กี่เดือนเราก็ได้อยู่ด้วยกันแล้ว} “ ค่ะแม่ หนูรอวันนั้นนะคะ หนูไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว” {จ๊ะ แม่รับปาก อดทนนะเด็กดีของแม่} “รักแม่นะคะ บ๊าย” ฉันวางสายจากแม่ มุ่งหน้ากลับคอนโด บ้านพักตากอากาศ สมบัติที่คุณยายรักมากที่สุด ก่อนที่คุณยายจะเสีย คุณยายทำพินัยกรรมมอบให้กับแม่ของฉัน ซึ่งแน่นอนว่านั่นทำให้คนอื่นไม่พอใจ แต่ยายก็คงคิดมาดีแล้วแหละ ว่าแม่จะสามารถปกป้องสมบัติที่ท่านรักเอาไว้ได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม