1เด็กข้างห้อง

1325 คำ
คอนโดมิเนี่ยมสายธารเวลา07.00น. “คิกๆ” เสียงหัวเราะคิกคักดังเข้ามาในโสตประสาท ในขณะที่แก้มผมรู้สึกเหมือนโดนอะไรบางอย่างจิ้มเบาๆอยู่หลายที ผมขมวดคิ้วก่อนค่อยๆ ลืมตาขึ้นด้วยความหงุดหงิด แล้วภาพแรกที่เห็นก็คือเด็กผู้หญิงหน้าจิ้มลิ้มคนหนึ่งที่กำลังหัวเราะขำอยู่ตรงหน้า แถมยังเอานิ้วชี้จิ้มแก้มผมอย่างไม่มีมารยาทอีก “เฮ้ย! เด็กบ้า เธอเป็นใครวะ มาวุ่นวายกับคนอื่นแบบนี้ได้ยังไง ไม่เคยมีใครสอนเรื่องมารยาทรึไง” น้ำเสียงผมเข้มขึ้นตามอารมณ์หงุดหงิดที่พุ่งขึ้นทันที จนเธอหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย “ชิ!! คนอุตส่าห์หวังดี เห็นว่านอนอยู่หน้าห้องหรอก รู้แบบนี้ปล่อยให้นอนต่อก็ดี!” พูดจบ ยัยเด็กนั่นก็สะบัดตูดเดินหายเข้าห้องไปในห้องข้างๆ ปิดประตูดัง ปัง! เหมือนประชด ผมมองรอบตัวแล้วสบถออกมาอย่างหงุดหงิด “เวรละ…นี่มันหน้าห้องนี่หว่า” เมื่อคืนผมเมาจนจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ ถึงได้มานอนสลบอยู่หน้าห้องแบบนี้ ถ้าเด็กนั่นไม่มาปลุก ผมคงหลับยาวแน่ ใครต่อใครเดินผ่านไปมา คงเห็นกันหมด “สวัสดีครับ ผมชื่อ ภูภัทร ลูกชายคนเล็กของป๊าภูมิกับม๊าเกล มีพี่สาวอยู่หนึ่งคน นั่นก็คือ เจ๊พักพิง ผมเรียนคณะวิศวะ ปีสาม เรื่องหล่อรวยผมก็ไม่แพ้ใคร ผมมีเพื่อนกลุ่มเดียวกันอีกสี่คน คูเปอร์ ปอร์เช่ ธีร์ธัช และวาคิม พวกเราห้าคนถือเป็นหนุ่มฮอตประจำมหาลัย และสาเหตุที่ผมต้องเมาจนภาพตัดเมื่อคืน ก็เพราะไอ้เพื่อนตัวดีของผมธีร์ธัชนั่นแหละครับ มันฉลองวันเกิด แล้วบังคับผมดื่มไม่เมาไม่เลิก แล้วเป็นไงละสภาพ ดีที่ผับนั้นเป็นของเฮียไดม่อนพี่เขยผมเอง “อาส์!!ปวดหัวชิบหาย” พอสติผมกลับมา ผมคลำหาคีการ์ดในกระเป๋า แต่ซวยแล้วสิ ของผมหายหมด ทั้งกุญแจรถ คีการ์ด มือถือ ไม่มีเหลือแม้แต่อย่างเดียว “ของหายไปไหนหมดวะเนี่ย…” ซวยแล้ว ของหายหมดแบบนี้จะเข้าห้องยังไง “เฮ้อ…” ผมถอนหายใจยาว สมองตอนนี้ตื้อไปหมด นั่งกุมขมับอยู่หน้าห้องพักสักพัก ก่อนจะปรายตามองไปยังห้องข้างๆ ห้องที่ยัยเด็กหน้าจิ้มลิ้มเดินหายเข้าไปเมื่อครู่ “แล้วยัยเด็กนั่นย้ายมาอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่…” ผมนั่งคิดอยู่พักหนึ่ง มองประตูห้องเธออยู่หลายรอบ ก่อนตัดสินใจกดออด ติ๊งน็อง! ติ๊งน็อง! ไม่นานประตูก็เปิดออก พร้อมกับเด็กสาวคนนั้นที่มองหน้าผมตาใสแป๋ว ก่อนเอ่ยขึ้นเสียงกวนๆ “มีอะไรคะ” เธอยืนกอดอกพร้อมเบือนหน้าหนีอย่างไม่ใส่ใจ “ขอยืมมือถือหน่อย จะโทรหาเพื่อน” ผมยอมเสียฟอร์มหน่อยก็ได้วะ ขอยืมมือถือเธอ “ทำไมต้องให้ยืมคะ!เมื่อกี้พี่ยังด่าหนูว่าไม่มีมารยาทอยู่เลย แล้วตอนนี้จะมาขอยืมมือถือเหรอ ฝันไปเถอะค่ะ!” น้ำเสียงเธอทั้งเอาแต่ใจทั้งกวนประสาท จนผมต้องรีบลดท่าทีลง “ขอโทษ เมื่อกี้โมโหไปหน่อย” พอผมพูดขอโทษเท่านั้นแหละ ปากเล็กๆ ของเธอก็คลี่ยิ้มออกมา แล้วส่งมือถือสีชมพูหวานแหววมาให้ เหอะครั้งเดี๋ยวเท่านั้นแหละที่ผมจะใช้ของสีชมพู “ขอบใจ” ผมรับมือถือมากดโทรหาเพื่อนทันที ตอนนี้แค่อยากได้ของคืนกับอยากนอนเต็มแก่ ครืด~ ครืด~ “เชี้ยธีร์! ทำไมไม่รับวะ!” ผมพยายามโทรอยู่หลายครั้ง แต่เพื่อนตัวดีนั่นก็ไม่ยอมรับสายสักที ห้องก็เข้าไม่ได้ เพื่อนก็ไม่รับ ผมหันไปมองหน้าเธอที่ยืนกอดอกรออยู่ แล้วเห็นคิ้วเรียวเล็กของเธอเลิกขึ้นก่อนถามว่า “แล้วไงต่อ” “เพื่อนไม่รับ…” ผมตอบแค่นั้นเพราะไม่รู้จะทำยังไงต่อดี สายตาเหลือบมองเข้าไปในห้องเธอแวบหนึ่ง ไม่รู้ว่าเธออยู่กับใคร ตอนนี้ขอแค่มีที่ให้นอนพักต่อสักนิดก็ยังดี “สรุปว่ายังไงคะ” “ขอเข้าไปก่อนได้ไหม…รอเพื่อนเอาของมาให้” เธอทำหน้านิ่ง แต่ก็ยอมขยับออกจากหน้าประตูให้ผมเดินเข้าไป “พี่ไปนอนตรงโซฟานั่น” เธอชี้ไปที่โซฟาตัวยาวกลางห้อง ผมเดินไปนั่งอย่างหมดแรง สายตากวาดมองไปรอบๆ ห้องที่เต็มไปด้วยของสีชมพู ขนลุกชะมัด “พักอยู่กับใคร” “คนเดียวค่ะ นี่หมอน” เธอส่งหมอนคิตตี้สีชมพูมาให้ “ขอบใจ” ผมรับหมอนแล้วเอนตัวลงทันที โซฟามันเล็กหรือขาผมยาวเกินก็ไม่รู้ เพราะขาโผล่เลยออกไปตั้งไกล แต่ช่างเถอะ ตอนนี้ขอแค่ได้นอนก็พอ ถึงต้องหนุนหมอนคิตตี้ก็ยอม “หนูชื่อสมายด์ แล้วพี่ชื่ออะไรคะ” “ภูภัทร” ผมตอบสั้นๆ เพราะขี้เกียจคุย ตอนนี้อยากนอนมากกว่า “ยินดีที่ได้รู้จักนะ หนูพึ่งย้ายมาใหม่ ยังไม่รู้จักใครเลย มีเพื่อนบ้านเป็นพี่คนแรก แล้วพี่เรียนอะไรเหรอ” “วิศวะ” “มหาลัยใกล้ๆ นี่เหรอ” “อืม” เธอถามไม่หยุด ส่วนผมก็ตอบไปเรื่อยแบบคนง่วงจัด เด็กนี่พูดเก่งสุดๆ ด้วยความเพลียผมหลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ครืด~ ครืด~ “สวัสดีค่ะ นี่ใครคะ” {พอดีเห็นเบอร์นี้โทรมาตอนเช้าครับ ไม่ทราบว่าได้โทรเข้ามารึเปล่า} พอได้ยินปลายสายพูดแบบนั้น ฉันก็นึกออกทันที ว่าต้องเป็นเพื่อนของพี่สุดหล่อคนนั้นแน่ๆ “อ้อ โทรค่ะ พี่ใช่เพื่อนพี่ภูภัทรรึเปล่าคะ” {ใช่ครับ แล้วน้องเป็นใครครับ ทำไมถึงอยู่กับเพื่อนพี่ได้…เสียงน่ารักเชียวนะ} “ขอบคุณค่ะ หนูเป็นเพื่อนบ้านคนใหม่ของพี่ภูภัทรค่ะ พึ่งย้ายมาอยู่ใหม่” {ครับ งั้นพี่ขอคุยกับเพื่อนพี่หน่อยสิ} “แป๊บนึงนะคะ หนูขอปลุกพี่เขาก่อน” ฉันค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้คนที่ยังหลับสนิท ลมหายใจของเขาสม่ำเสมอ คนบ้าอะไร หน้าตาหล่อดีแต่ดุเป็นบ้า ฉันแอบมองใบหน้าคมๆ ของเขาอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะยื่นมือไปเขย่าเบาๆ “พี่คะ…พี่คะ!” “อืม…” “เพื่อนพี่โทรกลับมาแล้วค่ะ” ฉันยื่นโทรศัพท์ให้คนตัวโต ทั้งที่เขายังงัวเงียอยู่ ก่อนเดินหายเข้าไปในครัว “อืม…เชี้ยธีร์ ของกูอยู่ไหนวะ แม่งไม่มีอะไรซักอย่างเลย แล้วกูกลับยังไง” {ของมึงอยู่ในรถกู กูส่งมึงแล้วกูก็ไม่ได้ดู มึงบอกว่าขึ้นห้องเองได้ กูก็เมาเหมือนกัน ขับรถพามึงกลับได้ไม่ชนเสาไฟฟ้าข้างทางก็บุญแล้ว} “เออ แล้วรถกูอ่ะ” {จอดอยู่ผับเฮียไดม่อน กุญแจก็อยู่ในรถกูนั่นแหละ} “ขับเอาของมาให้กูด้วย กูเข้าห้องไม่ได้” {นี่อย่าบอกนะว่ามึงนอนอยู่ในห้องน้องนั่น…เฮ้ย ไอ้นี่ใช้ได้ว่ะ! ขนาดเสียงยังน่ารักขนาดนี้ หน้าตาน้องเป็นไงบ้างวะ สวยป่ะ} “มึงนี่ไร้สาระ เอาของมาให้กูด้วย แค่นี้แหละ กูจะนอน” ผมวางสายใส่เพื่อนตัวดีอย่างหงุดหงิด รู้ทั้งรู้ว่าผมเข้าห้องไม่ได้ ยังไม่เอาของมาให้อีก ช่างเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ จ้อก~~ หลังวางสายจากเพื่อนผมก็ได้กลิ่นหอมลอยมาจากในครัว ทันใดนั้นท้องผมก็ร้องจ้อกขึ้นมาดื้อๆ ยัยเด็กสมายด์ทำอะไรกินวะ กลิ่นหอมเชียว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม