“ว้าว!!วันนี้เฮียภูใจดี เดี๋ยววันหลังกูจ่ายเอง ”
พี่อีกคนพูดขึ้น แต่ฉันไม่กินฟรีหรอก เดี๋ยวค่อยโอนให้พี่เขาทีหลังแล้วกัน
“ไปเถอะแฟนกูอยากไปคีบตุ๊กตา ” แล้วพี่คูเปอร์ก็ชวนทุกคน บอกคนอื่นๆว่าแฟนอยากคีบตุ๊กตา
หือ พี่สองคนนี้เป็นแฟนกันเหมาะกันมาก เขายืนขึ้นพร้อมจับมือกันด้วยอะ โอ้ยน่ารักไม่ไหว
“สมายด์ ไปคีบตุ๊กตากัน”
พี่แอลลี่เรียกฉันอย่างใจดี ฉันพยักหน้ารัวรีบลุกตามพี่ไป คีบตุ๊กตาเหรอ ฉันชอบอยู่แล้วคีบทีหมดเป็นพัน ไม่ได้ซักตัวยังมี ฉันเดินตามพี่แอลลี่กับพี่คูเปอร์ไปยังฝั่งคีบตุ๊กตา มันมีหลายตู้มากๆ พี่คูเปอร์เข้าประจำตู้แล้ว และมีพี่แอลลี่ยืนลุ้นอยู่ข้างๆ
-ภูภัทร-
ผมเดินตามไอ้คูเปอร์ไปติดๆ เป็นประจำที่เวลามาห้างทีไร แอลลี่ก็อ้อนอยากคีบตุ๊กตา แล้วเพื่อนตัวดีผมก็ตามใจแฟนเด็กของมันด้วยนะ
ถ้าจำไม่ผิด ตุ๊กตาแอลลี่น่าจะมีซักร้อยตัวได้แล้วมั้ง
“เชี้ยภู น้องสมายด์โคตรสวยเลยวะ อยู่ม.6แต่มึงเห็นหน้าอกป่าววะ แม่งโคตรบึ้ม ”
ไอ้ธีร์เดินตามผมมาติดๆ แล้วกระซิบเบาๆอย่างตื่นเต้น
“ไอ้นี่มึงอย่าทะลึ่ง นั่นเด็ก18”
ผมหันไปเอ็ดมันพร้อมคิ้วที่ขมวดเข้าหากัน ไอ้นี่มันคิดอกุศลไปได้
“18แล้วยังไง ถ้ามึงไม่เอากูเอานะ เด็กแบบนี้หลอกง่ายอร่อยด้วย”
ไอ้นี่มันทะลึ่งไม่เลิก ผมนี่หันกลับไปมองหน้ามันแบบเอือมละอาสุดๆ
“มึงหยุดเลยไอ้ธีร์ อยากฟันเล่นๆมึงก็ไปหาเอาตามผับตามบาร์ ”
ผมพูดจริงจังขึ้นให้มันรู้ว่าผมห้ามจริงๆ
“มึงหวงไว้แดกเองก็บอกมาเหอะสัส กูรู้ทันมึงหรอก ”
ผมส่ายหัวเบาๆแล้วเดินหนีมันไป กินเด็กไม่เคยมีในหัวผมอยู่แล้ว ยิ่งเด็กซื่อแบบสมายด์อะนะ
ตัดออกไปได้เลย
“พี่คูเปอร์สู้ๆ พี่คูเปอร์ อีกนิด อีกนิด กรี๊ดดดดด!!!!ได้แล้ว เจ้าหมีน้อยสีน้ำตาลของหนู ”
นั่นไง คูเปอร์มันคีบตุ๊กตาได้อีกละ รอบนี้หมดเงินไปเท่าไหร่ไม่รู้
“พี่คูเปอร์ คีบให้น้องด้วยสิคะ ”
พอได้ของตัวเอง แอลลี่ยังมีน้ำใจให้แฟนตัวเองคีบให้เด็กสมายด์นั่นอีก
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหนูคีบเอง ”
แต่สมายด์กลับโบกไม้โบกมือปฏิเสธ แล้วรีบเดินไปแลกเงินที่เคาน์เตอร์ กลับมาพร้อมเหรียญเต็มอุ้งมือเล็กของเธอ
“น้องมายด์สู้ๆ อีกนิดนึง อีกนิด อุ้ยยย หลุดไปแล้วอ่ะ ”
หลายต่อหลายตัวที่สมายด์ทำพลาด ฝีมืออย่างอ่อน หมดไปกี่เหรียญแล้วนั่น
“พี่ว่าให้แฟนพี่คีบให้ดีกว่า หมดเหรียญไปตั้งเยอะแล้ว ”
พอแอลลี่พูดแบบนั้นแล้วสมายด์ก็ยอมขยับถอย
“เอานะ ฟุ้ววว ”
เพื่อนผมเข้าประจำที่ อย่างเท่อะ เหมือนพระเอกขี่ม้าขาวสุดๆ
“หือ!!พี่คูเปอร์ อร้าย!!”
แอลลี่กับสมายด์ลุ้นกันสุดขีด ผ่านไปหลายครั้ง
และในที่สุด
“กรี๊ด!!!ได้แล้ว เจ้าหมีน้อยตัวสีขาว ”
แอลลี่กรี๊ดดีใจแต่สมายด์กลับดูไม่ดีใจเท่าไหร
“นี่ น้องหมีของมายด์ ”
แอลลี่รีบยื่นหมีมาให้เธอ
“ขอบคุณนะคะพี่แอลลี่ แต่หนู…คือ…”
เอ้า อยู่ๆสมายด์ก็อ้ำๆอึ้งๆ
“หืม เป็นอะไรครับน้องสมายด์ ”
จนไอ้คูเปอร์ต้องถามขึ้นอย่างแปลกใจ
“คือขอโทษพี่สองคนด้วยนะคะ แต่พี่แอลลี่เก็บไว้เถอะค่ะ หนูชอบสะสมสีชมพู ไม่ใช่ไม่อยากได้นะคะ ”
สาเหตุที่ไม่ดีใจเพราะไม่ใช่สีที่ชอบ เด็กน้อยจริงๆเลย
“มานี่…เดี๋ยวคีบให้เอง”
ผมเห็นแล้วรำคาญลูกกระตา คีบสีชมพูให้จะได้จบๆ พอไอ้คูเปอร์ขยับออก ผมก็จัดการคีบอย่างใจเย็น
“หือ…พี่ภู มาแล้ว มาแล้ว อุ้ยเสียดายหล่นไปแล้ว ”
แอลลี่ลุ้นยิ่งกว่าผมซะอีก ผมแอบเห็นสมายด์กำหมัดแน่นเชียว แต่ดันไม่ได้นี่สิ เสียฟอร์มชิบหาย
“มีเหรียญอีกไหม ”
ผมหันไปถามสมายด์เสียงเรียบ แต่คำตอบที่ได้คือเธอส่ายหัวแล้วตอบเสียงเบา
“แลกมา200หมดแล้วค่ะ ”
แล้วทำหน้าหงอยด้วยนะ
“ไปแลกมาอีก100นึง ”
ผมยื่นเงินสดให้เธอ
“ไม่ต้องแล้วก็ได้ค่ะ หนูไม่อยากได้ขนาดนั้น ”
พอเธอไม่ยอมไปแลก ผมก็เลยเดินไปเอง
ผู้หญิงนี่เป็นอะไรที่เข้าใจยากที่สุด โดยเฉพาะผู้หญิงที่ยังยังเด็กอยู่ โกรธเก่งงอนเก่ง ผมเดินกลับมาพร้อมเรียญในมือ
“พี่ภูสู้ๆนะคะ ”
ผมเริ่มคีบตุ๊กตาอีกครั้ง พร้อมเล็งไปที่สีชมพูที่สมายด์อยากได้
“ว้าย!!!มาแล้ว อีกนิดนึงค่ะ ”
เสียงกรี๊ดของแอลลี่ทำผมแทบไม่มีสมาธิ แต่สุดท้ายก็สำเร็จ
“กรี๊ด!!!!ตุ๊กตาหมีสีชมพู ”
แอลลี่กรี๊ดใหญ่ ส่วนสมายด์ยิ้มออกแล้ว ผมก้มลงหยิบตุ๊กตาหมีแล้วส่งให้เธอ ยัยเด็กน้อยยิ้มจนเห็นฟัน
“ขอบคุณค่ะ ”
“ได้แล้วก็เลิกทำหน้าหงอยเป็นหมาป่วยได้แล้ว ”
ผมบอกเธออย่างไม้ใส่ใจ
“เฮียภูของเรานี่มันเจ๋งหวะ สาวอยากได้สีชมพูก็เอาสีชมพูจนได้ ”
ไอ้วาคิมแซวผม จนสมายด์ก้มหน้าหลบสายตา
“กูไม่ชอบเด็ก ”
ผมพูดออกตัวไว้ก่อนเลย เพื่อนผมโคตรปากเสีย เดี๋ยวเด็กก็คิดไปไกลหรอก ผมยืนรอแอลลี่กับสมายด์เล่นเกมส์กันต่อ จนผ่านไปพักใหญ่ๆก็เหนื่อย
“ ไปกินสเวนเซ่นส์กันไหม ”
“ไปคะ หนูชอบมากเลย เมื่อก่อนที่แม่ยังไม่ไปต่างประเทศ แม่ชอบพามากินบ่อยๆค่ะ ”
เอาเข้าไป แล้วผมจะได้กลับตอนไหนละ ชวนกันไปกินสเวนเซ่นส์อีกแล้ว
ในร้านสเวนเซ่นส์
“พวกพี่เอาอะไรกันคะ ”
สมายด์ถามคนอื่นๆตาใสแป๋ว
“พี่เอาเหมือนน้องสมายด์ ได้ไหมครับ ”
ผมหันไปมองหน้าไอ้ธีร์ เพื่อนเวรนี่มันจะฟันเด็กนี่จริงๆเหรอวะ
“แล้วพี่ภูละคะ เอ่อขอโทษค่ะ พี่ภูภัทรจะเอาอะไรคะ ”
แล้วเธอก็หันมาถามผม
“ไม่กิน ไม่ชอบอะไรหวานๆ รีบกินจะได้กลับ ”
ผมตอบแค่นั้นแล้วนั่งเขี่ยมือถือรอ
“เชี้ยภู แม่งอย่าทำเสียบรรยากาศดิวะ สงสารน้องสมายด์บ้าง ”
สงสารอะไรเด็กนี่วิ่งตามมาเอง หลังจากกินเสร็จพวกเราก็แยกย้ายกันตรงลานจอดรถ
“บ๊ายบายนะคะพี่ๆแล้วเจอกัน /บ๊ายจ๊ะน้องมายด์ ”
เด็กนี่เฟรนลี่ชิบหาย คุยกับเขาไปทั่ว แป๊บเดียวก็สนิทกับแอลลี่และเพื่อนๆของผม
“แล้วเจอกันนะครับน้องมายด์ /สวัสดีค่ะพี่ธีร์ ”
“ขึ้นรถได้แล้ว ”
ผมพูดแค่นั้นเธอก็หน้าเจื่อนเดินมาขึ้นรถ อาการนี้โดนดุนิดหน่อยคงร้องไห้ขี้มูกโป่ง อ่อนต่อโลกจริงๆ