บนรถ
“ทีหลังคุยกับไอ้ธีร์ให้มันน้อยๆหน่อย ”
พอเห็นเพื่อนผมเข้าหาสมายด์ ผมก็กลัวเธอจะถูกหลอก เตือนเธอก่อน แล้วค่อยไปห้ามเพื่อนผมอีกที แต่ไอ้ธีร์ก็ตึงพอตัว ต่อหน้าก็พอห้ามได้ แต่กลัวแอบไปคุยกันลับหลังผมนี่สิ ถูกเพื่อนผมฟันแล้วทิ้งแน่ๆ
“ทำไมถึงต้องห้ามหนูคุยกับพี่ธีร์คะ พี่เขาน่ารักนิสัยดี อีกอย่างพูดเพราะด้วย ”
นั่นไง เหมือนที่ผมคิดเอาไว้ไม่มีผิด สมายด์ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมเพื่อนผมหรอก
“เอาเป็นว่าอยู่ห่างๆไอ้ธีร์ไว้จะดีที่สุด เหตุผลไม่ต้องถามมาก แล้วมันได้ขอช่องทางติดต่อรึเปล่า ”
สมายด์ส่ายหัว
“อืม ถ้ามันขอก็ไม่ต้องให้ ”
“อ้อ ค่ะ เอ่อพี่เอาเลขบัญชีมาค่ะ เดี๋ยวหนูโอนค่าข้าวเมื่อกลางวันให้”
“ไม่ต้อง มีตังค์ไว้ไปโรงเรียนเหรอ ”
“พอมีค่ะ แม่โอนให้เดือนละสองหมื่น ถ้าไม่พอค่อยขอเพิ่ม ”
“สองหมื่นจะใช้ได้กี่วัน ”
“ใช้ได้เดือนนึงพอดีค่ะ ”
“ไม่ต้องโอนมา วันหลังเธอค่อยเลี้ยงฉัน ”
“เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ หนูไม่มีปัญหาอะไร ”
ผมเหลือบตามองเธอนิดหน่อย แล้วสนใจขับรถต่อ เหมือนผมกำลังเลี้ยงลูกยังไงไม่รู้ จนกลับมาถึงคอนโด เธอลงรถแล้วก็ยังยืนรอผมอีก
“ทำไมไม่ขึ้นไปก่อนละ ”
ไม่ได้พักห้องเดียวกันซักหน่อย ตามติดผมเป็นลูกลิงเชียว
“ก็เรากลับมาพร้อมกัน เราก็ต้องขึ้นไปพร้อมกันแล้วมันแปลกอะไรคะ ”
“ ทีหลังก็อย่าไว้ใจใครง่ายๆแบบนี้ เผื่อฉันเป็นคนไม่ดีเธอจะทำยังไง ถึงจะอยู่ข้างห้องข้างกันก็เถอะ”
ผมเตือนเธอด้วยความหวังดี โลกทุกวันนี้มันโหดร้ายกว่าที่คิด
“ หนูรู้ค่ะ แต่หนูดูแล้วพี่ไม่ได้คนเลวร้ายอะไร
แค่พี่พูดไม่เพราะเหมือนคนอื่นแค่นั้นเองค่ะ”
ผมถอนหายใจเบา แต่ก็ไม่พูดอะไร เด็กนี่สรรหาคำพูดมาต่อปากต่อคำกับผมได้ดีเหลือเกิน
พอมาถึงหน้าห้อง ผมก็แตะคีย์การ์ดเตรียมเข้าห้อง
“ พี่ภูภัทรคะ ”
และเธอก็ยังเรียกผมไว้อีก
“ เรียกภูเฉยๆก็ได้ ฉันไม่ได้ถืออะไรขนาดนั้น”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะสำหรับตุ๊กตา ขอบคุณที่เลื้ยงข้าวหนูวันนี้ด้วย ”
เธอยืนกอดตุ๊กตาหมีพร้อมพูดขอบคุณผม
“อืม ”
ผมตอบแค่นั้นก็เดินเข้าห้องพร้อมปิดประตู
-สมายด์-
“ชิ!!คนอะไรหน้านิ่งชะมัด ”
ฉันกลับเข้ามาในห้อง เอาหมีสีชมพูมาวางไว้หัวเตียง คู่กันกับตัวเดิม
“ทำเป็นปากหนัก ความจริงก็ใจดีเหมือนกันนะเนี่ย ”
วันนี้ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ จัดของให้เข้าที่เข้าทาง พรุ่งนี้ก็ต้องไปเรียนแล้ว ต้องรีบทำให้เสร็จวันนี้เลย เริ่ม
เช้าวันต่อมา
ฉันแต่งตัวเสร็จก็ยืนติดกิ๊บสีชมพูที่หน้ากระจก
ทาแค่แป้งฝุ่น กับลิปมันเปลี่ยนสี ออกชมพูระเรื่อนิดหน่อย แค่นี้ก็สวยมากๆแล้ว ฉันลงลิฟต์มาข้างล่าง ตั้งใจว่าจะเรียกวินไปส่ง ฉันไม่มีใบขับขี่ขับรถไม่เก่ง ที่สำคัญรถติดมากๆ
ปิ๊ด!!ปิ๊ด!!
“ว๊าย!!คนบ้าจะบีบแตรอะไรเสียงดัง ”
ฉันกำลังจะเดินไปปากซอยเพื่อนั่งวิน แต่ก็มีรถบีบแตรใส่จนตกใจสะดุ้งโหยง พอหันกลับไปมองก็เห็นว่าเป็นรถพี่ภูภัทร แต่ฉันด่าไปเรียบร้อยแล้วหละตอนตกใจ ใครใช้ให้บีบแตรใส่ละ เขาขับมาเทียบแล้วลดกระจกลง
โห!!ตอนพี่ใส่ช็อปวิศวะคือหล่อเท่มาก หล่อเนี้ยบไม่เหมือนขี้เมานอนหลับหน้าห้องวันก่อนเลย
“เวลาเดินก็เดินให้มันชิดขอบถนนหน่อยสิ เดี๋ยวรถได้เฉี่ยวกันพอดี ”
หมดกันความหล่อ ไม่น่าชมเลยถึงจะในใจก็เถอะ
“ขอโทษค่ะ ”
ฉันยืนชิดขอบทางรีบขอโทษพี่เขา บอกดีๆไม่ได้รึไง ทำไมต้องทำหน้าดุขนาดนั้น
“ แล้วนี่รถไปไหน ทำไมไม่ขับไปเรียน”
“ หนูบอกพี่ตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ ว่าหนูขับรถไม่เก่งแล้วก็ไม่มีใบขับขี่ด้วย พี่มีอะไรอีกไหมคะหนูจะได้ไปเรียน”
ฉันรีบตัดบท เป็นพี่ข้างห้องนะ แต่ดุยังกับพ่อ
ฉันไม่รอคำตอบ รีบเดินออกไปจากตรงนั้นทันที
“ขึ้นมา เดี๋ยวไปส่ง ”
แล้วยังขับตามฉันมาอีกนะ ชวนฉันขึ้นรถแต่คิ้วขมวดแทบจะชนกัน ฉันหยุดเดินอีกรอบก่อนปฏิเสธพี่เขาไป
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหนูนั่งวินไปสะดวกกว่า”
“บอกให้ขึ้นมาไง เดินแบบนี้เดี๋ยวรถชนกันพอดี
เดือดร้อนคนอื่น เดือดร้อนแม่เธอต้องบินกลับมาจากต่างประเทศอีก ”
สุดท้ายแล้วฉันก็ต้องยอมขึ้นรถไปกับเขา แต่ก็เลือกที่จะเงียบแหละ ขี้เกียจทะเลาะกัน
จนมาถึงหน้าโรงเรียน ฉันก็บอกให้พี่ภูภัทรจอดตรงเพื่อนฉันกำลังยืนรออยู่
“พี่จอดตรงที่เพื่อนหนู3คนยืนอยู่นั่นเลยค่ะ ”
เพื่อนฉันมี3คน ลูกพีช ยูโร ไอซ์ ผู้หญิง1ผู้ชาย2
“คบเพื่อนผู้ชายด้วยเหรอ ”
เขาถามขึ้นพร้อมมองดูเพื่อนฉันใหญ่
“ใช่ค่ะ หนูไปแล้วนะคะ สวัสดีค่ะ”
ฉันรีบยกมือไหว้พี่ภูแล้วเปิดประตูลงรถ
“สมายด์ !!ใครมาส่ง!!”
ทันทีที่เพื่อนๆมองเห็นก็ถามกันใหญ่
“พี่ที่พักอยู่ข้างห้องอะ เขาอยู่มหาลัยฝั่งตรงข้ามนี้เอง ”
ฉันก็ตอบเพื่อนไปตามความจริงแหละ เพื่อนกลุ่มนี้คบกันตั้งแต่ม.ต้นละ ไม่มีอะไรต้องปิดบัง
“ว้าว!!รถหรูมาก รวยมากแน่ๆเลย แล้วผู้หญิงผู้ชาย ”
“ผู้ชาย ”
“หล่อมั้ย ”
“หล่อมาก ”
“ว้าย!!กรี๊ดดดด ฉันจะไปห้องแกบ่อยๆสมายด์ ”
ฉันส่ายหัวเบาๆ เพื่อนฉันกับเรื่องผู้ชายนี่ไม่แผ่วเลย
“ดีเนาะ ย้ายไปอยู่คอนโดไม่กี่วันบอกอึดอัดไม่อยากอยู่บ้าน ที่แท้ก็มีผัว ”
ระหว่างที่ฉันกำลังคุยเล่นกับเพื่อน เสียงของสไปร์ทลูกพี่ลูกน้องของฉันก็แทรกขึ้น สไปร์ทเป็นลูกของป้าศศิ แต่รุ่นเดียวกันกับฉัน และก็ไม่ชอบฉันกับแม่ เหมือนกับป้าศศิไม่ชอบแม่ฉันนั้่นแหละ
“นี่!! พูดอะไรระวังปากหน่อยสิ ไม่ใช่มีหัวไว้คั่นสมองอย่างเดียว ”
ฉันสวนกลับทันที ไม่ได้อยู่บ้านหลังเดียวกันแล้ว
ยังตามมาหาเรื่องถึงโรงเรียนอีก ป้าศศิเลี้ยงลูกมาแบบไหน ใช่สายเลือดเดียวกันกับฉันรึเปล่าก็ไม่รู
“ปากดีไปเถอะ วันไหนท้องโตขึ้นมาจะหาว่าฉันไม่เตือน ถุงยาง ยาคุม ไปหามาใช้บ้างนะ ”
สไปร์ทกอดอกเบ้ปากใส่จนน่าหมั่นไส้
“ป้าศศิสอนเธอได้แค่นี้เองเหรอ / พูดไปเลยว่าลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน ”
ลูกพีชพูดแทรกขึ้นทันที
“ จะสอนได้ไงล่ะ ในเมื่อแม่ก็คิดแบบเดียวกัน”
ฉันพูดเสริมไปอีกครั้ง
“ นักเรียนมีอะไรกันหรือเปล่า ”
อาจารย์ที่ยืนรออยู่หน้าประตูร้องถามขึ้น
“ ไม่มีอะไรค่ะอาจารย์ ไปกินข้าวดีกว่าพวกเรา
ปล่อยให้หมามันเห่าอยู่แถวนี้แหล่ะ”
ฉันตอบอาจารย์ แล้วชวนเพื่อนไปกินข้าวที่โรงอาหารของโรงเรียน ปรายตามองสไปร์ทอย่างไม่สนใจ
“ ปากดีไปเถอะ ฉันฟ้องแม่แน่”
ฉันกับเพื่อนรีบเดินหนีเข้าโรงเรียนไป คนแบบนี้ไม่ให้ค่านานแล้ว แต่ก็ยังตามจิกตามกัดไม่เลิก
ไม่รู้ชาติที่แล้ว เกิดเป็นไก่หรือเปล่า