บทที่ 1 เป็นอะไรกับเขา 02

636 คำ
แต่ไม่ว่าจะใช้คำเรียกไหน มันก็มีความหมายไม่ต่างกันอยู่ดี ถึงตอนนี้เขาจะแค่หมั้น แต่อย่างไรก็คงจะต้องแต่งกันอยู่ดี “ให้วุ้นเหลือศักดิ์ศรีไว้บ้างเถอะค่ะ” ที่ผ่านมาเธอยอมโยนศักดิ์ศรีทิ้ง เพราะคำว่าเป็นต้นเหตุ แต่ตอนนี้ควรพอได้แล้ว “วุ้นกับครอบครัวมีด้วยหรือ ผมไม่ยักเห็น” เขาถามกลับหน้าตาย “แต่ผมจะเห็นใจวุ้นก็ได้ ถ้าอยากมีศักดิ์ศรี งั้นก็หาเงินมาคืนผม” ฟังดูเหมือนเขาจะยอมอ่อนให้ แต่ไม่รู้ทำไมฉัตรริษาถึงรู้สึกว่าเขากำลังจะปั่นหัวกันอีกรอบ แต่กระนั้นก็ตอบรับ “ค่ะ วุ้นจะหาเงินมาคืน” หญิงสาวตอบรับข้อเสนอนั้น แม้รู้สึกกังวลกับการที่เขาพลิกคำเร็วไป “แต่วุ้นขอเป็นงวด จะทยอยคืนค่ะ” เธอไม่สามารถคืนเขาได้ทีเดียวทั้งหมด สามปีที่ผ่านมาเธอก็ต้องหาเงินเพื่อปลดหนี้ที่ไม่ได้ก่อหลายเจ้า เรียกว่าเงินเดือนก็แค่เข้าบัญชีเท่านั้น เธอประหยัดเท่าที่ทำได้ สมบัติทุกชิ้นที่มีค่า เธอยอมขายมัน ไม่ได้ยึดติดกับอะไร ความสิ้นหวังผลักดันให้เธอลงมือทำทุกอย่างเพื่อหาทางออก วริทธรายิ้มมุมปาก ซึ่งก็เป็นรอยยิ้มที่แฝงไว้ด้วยความเหนือกว่า ราวกับเป็นผู้ควบคุมเกม และไม่รอช้าที่จะบดขยี้ความหวังเล็กๆ ของหญิงสาวให้หมดสิ้น “ถ้าจะคืนไม่มีคำว่าทยอย ผมต้องการทั้งก้อน” เขาบอกเสียงดังฟังชัด “เงินสามล้านที่วุ้นมายืมผมรวมกับทุนที่ผมให้น้องวุ้นก็สี่ล้านพอดี” เพราะในตอนนั้นเธอไม่มีหนทางสว่างแล้ว และต้องหาที่พึ่ง สุดท้ายก็เป็นเขา “ทุนวุ้นไม่ได้ขอ” หญิงสาวรีบแย้ง เพราะเงินก้อนหลังนี้เขาเป็นคนเสนอให้เอง “แต่น้องวุ้นก็รับ” “ให้เพราะไว้ใช้ประโยชน์สินะคะ” เป็นเธอเองที่โง่ไปในกับดัก “ต้องถามอีกหรือครับ อีกอย่างบ้านผมสอนมาให้ไม่ยอมเป็นคนขาดทุน” ใบหน้าเย้ยหยันนั้นทำให้คนมองรู้สึกเจ็บปวด “ไม่ใจร้ายไปหน่อยหรือคะ” เขารู้ดีว่าเธอไม่มีทางทำได้ “คิดว่าไม่นะครับ” ชายหนุ่มว่าพร้อมไหวไหล่เบาๆ ฉัตรริษาเงียบไปครู่ใหญ่เลยทีเดียว เพราะกำลังเก็บกลั้นความอ่อนแอ แต่น้ำตาก็ยังคลอหน่วยอยู่แบบนั้น “งานหมั้นจะจัดวันไหนคะ” “ทำไมครับ” “วุ้นจะหาเงินมาคืนก่อนวันนั้นให้ได้” เธอไม่มีทางยอมรับสถานะที่เขาจะยัดเยียดให้ ที่สำคัญ...ไม่มีผู้หญิงที่ไหนจะไม่เสียใจ ถ้าหากคู่ชีวิตของเราจะไปมีผู้หญิงอีกคน ต่อให้ครอบครัวจะมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลกก็ตาม “ทำอย่างกับมีปัญญา” ประโยคนี้มันคือการดูแคลนอย่างชัดเจน แต่แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเบาๆ ขัดจังหวะ ก่อนเลขาฯ หน้าห้องจะโผล่หน้าเข้ามา “คุณพุคะ คุณซินมาค่ะ” “ครับ” พอเจ้านายตอบรับ เลขาฯ สาวก็ขยับถอยหลัง แต่มีเหลือบมองใครอีกคนในห้องนี้ที่ตนไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ผิดกับคนที่กำลังมานั้น เธอได้เจอหน้ามาสามสี่ครั้งแล้ว แถมยังได้รู้ถึงสถานะ “คนของผมกำลังมา” ฉัตรริษาได้ยินอย่างนั้นแล้วก็ใช่ว่าจะขยับกาย เจ้าหล่อนยังปักหลักอยู่ที่เดิม เจ้าของห้องจึงเอ่ยต่อ “หรือผมต้องออกปากไล่วุ้นตรงๆ” “ถ้าคุณพุตอบวุ้นจะเดินออกไปเงียบๆ ค่ะ” เธอยืนกราน “ถ้าไม่..” “แล้วจะทำไมครับ หรือคิดจะแสดงตัว”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม