ซือซือเดินนำสาวใช้ของตนกลับเรือน มีคนครัวช่วยยกถาดอาหารตามมาด้วยอีกคน ก่อนที่ทั้งสามจะหยุดชะงักเมื่อมาถึงหน้าเรือน ‘มาทำไม คงไม่ได้มาหาเรื่องหรอกนะ’ นึกในใจเมื่อเห็นมารดาของแม่ทัพหนุ่มนั่งอยู่ที่โต๊ะกลางสวนหน้าเรือน “ตงชิงยกอาหารเข้าไปด้านในก่อนเถอะ” เอ่ยกับสาวใช้แล้วก็เดินตรงไปหาผู้อาวุโสที่นั่งอยู่ “คำนับท่านแม่เจ้าค่ะ มีเรื่องใดหรือไม่ เหตุใดท่านจึงมาถึงนี่” เอ่ยเสียงนอบน้อม หลังจากย่อตัวทำความเคารพอีกฝ่ายแล้ว “ข้าก็แค่มาดูว่าเจ้าได้สร้างเรื่องวุ่นวายในจวนหรือไม่ แล้วนี่ไปยุ่งอันใดในครัว” คำถามนี้ทำเอาคนฟังถึงกับยิ้มบาง เพราะนั่นหมายถึงกู้ฮูหยินรู้อยู่แล้วว่าตนทำอาหาร แต่นางก็ไม่ได้ตำหนิหรือสั่งห้ามในยามนั้น “ซือซือไม่คุ้นชินกับอาหารในยุค เอ่อ…ของเมืองหลวงนักเจ้าค่ะ ก็เลยทำอาหารในแบบที่ตนเองชอบกิน และทำเผื่อท่านแม่ทัพด้วยเจ้าค่ะ” บอกตามตรง ทว่านางก็ไม่ได้เอ่ยเรื่องยุคสมัยออกมาดีที่