เอวามองสำรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผมในห้องน้ำ เมื่อทุกอย่างเข้าที่ก็อมยิ้มให้กับความสวยของตัวเอง ก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อกลับไปยังโต๊ะ
“แต่งตัวมาขนาดนี้ จะแต่งมาอ่อยผู้ชายคนไหนอีกล่ะ” ร่างบางชะงักกับคำพูดไล่หลังที่ดังตามมา จึงหมุนตัวกลับไปมองและยิ้มให้
“พี่เวย์นี่เอง เอวานึกว่าใคร มีอะไรหรือเปล่าคะ” ตีหน้าซื่อเอ่ยถาม ดั่งเมื่อสักครู่ไม่ได้ยินในสิ่งที่เวย์สันพูด ร่างสูงจึงเดินเข้ามาใกล้
“ฉันพูดไปแล้วเมื่อกี้” คิ้วเรียวเลิกขึ้นทำปากยู่ใส่
“อ้าว! เหรอคะ เสียงมันดัง เอวาไม่ค่อยได้ยิน” พูดมาถึงตรงนี้ ร่างบางก็ขยับเข้ามาใกล้ก่อนจะพูดต่อ
“พี่เวย์ว่าอะไรนะคะ” ช้อนสายตาขึ้นมองชายหนุ่มยิ้มๆ เวย์สันอมยิ้มมุมปากอย่างมีเสน่ห์ จนเอวาใจสั่น ใบหน้าคมโน้มลงมาใกล้ กระซิบชิดใบหูเล็ก
“ถ้าตรงนี้เสียงมันดัง สงสัยคงต้องไปหาที่เงียบๆ คุยกันล่ะมั้ง”
“แล้วจะไปคุยที่ไหนคะ” เอ่ยถามหน้าซื่อตาใส ทว่ากลับกรีดนิ้วเรียวเล่นบริเวณหน้าท้องแกร่งสูงขึ้นมายังแผงอกกว้าง ช้อนสายตาขึ้นมองอย่างยั่วยวน ยกแขนโอบรอบลำคอหนาเบียดตัวเข้าหา มือหนาจึงรวบเอวคิดเข้าแนบกาย กลิ่นความหอมของหญิงสาวโชยเข้าจมูกจนเผลอสูดดมเข้าเต็มปอด
ยัยบ้านี่ตัวหอมชะมัด
ไม่ต่างจากเอวาก็สูดความหอมของเวย์สันเช่นเดียวกัน ไม่คิดว่าผู้ชายจะตัวหอมแบบนี้
“ที่ไหนก็ได้ ที่ไม่ใช่พื้นที่ส่วนตัวของฉัน” เพราะนั่นคือเขตหวงห้ามที่ไม่ต้องการให้ใครเข้าไปวุ่นวาย ยิ่งผู้หญิงประเภทนี้ยิ่งไม่สมควรได้เข้าไปเหยียบ
“ถ้าอย่างนั้นขอเป็นโรงแรมที่มีระดับหน่อยได้ไหมคะ ให้สมฐานะคุณเวย์สันหน่อย”
“เงี่ยน แต่ก็ยังหัวสูงอีกนะเนี่ย” เรียวปากอิ่มเม้มแน่น มือที่คล้องลำคอแกร่งปล่อยออก
“ถ้าพี่เวย์จ่ายไม่ได้ เอวาไปขอพี่ซันก็ได้ค่ะ ดูท่าทางพี่ซันน่าจะใจดี ใจป้ำพร้อมจ่ายมากกว่าพี่เวย์ซะอีก” ผละตัวเดินออกอย่างไม่ไยดี คนถูกหยามหน้ารีบคว้าตัวกลับมาตามเดิม
“คนอย่างฉัน ไม่ชอบให้ใครมาหยามหน้า ท้าทาย แล้วเธอจะรู้ว่าฉันมีปัญญาจ่ายไหม”
ร่างบางถูกผลักลงบนเตียงนอนภายในโรงแรมหรูระดับห้าดาว ร่างหนาตามขึ้นคร่อมรวบมือบางขึ้นเหนือศีรษะตรึงไว้กับเตียงนอน รอยยิ้มร้ายผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ใกล้ในระยะประชิด จนสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นของกันและกัน
เวย์สันพินิจใบหน้างามของคนใต้ร่าง ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าผู้หญิงคนนี้สามารถใช้คำว่าสวยได้เลยทีเดียว แม้จะไม่สวยหยาดเยิ้มดุจนางฟ้า ทว่าก็ดูมีเสน่ห์อย่างไรก็ตอบไม่ได้ โดยเฉพาะดวงตากลมโตที่ฉายแววประหม่า แต่ก็แฝงไปด้วยความดื้อรั้นอยากเอาชนะออกมาให้เห็นในตอนนี้ ยิ่งสบตาก็ยิ่งอยากกลั่นแกล้ง
“เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันไม่คิดจริงจังกับใคร” เสียงทุ้มถามย้ำ จ้องเรียวปากอิ่มขยับขึ้นลง
“รู้ค่ะ”
“เธอรู้ใช่ไหม ว่าฉันไม่เก็บของเก่ามากินซ้ำเป็นรอบที่สอง ถ้ามันไม่เด็ดจริง” คนถูกถามเม้มปากแน่นแสดงความประหม่าออกมาไม่รู้ตัว แต่เพียงครู่เดียวก็พยักหน้ารับ
“ค่ะ”
“สรุปง่ายๆ ก็คือน้ำแตกแล้วแยกทาง ไม่มีการสานต่อความสัมพันธ์ให้วุ่นวาย อย่าคิดจะจับฉันด้วยการปล่อยให้ตัวเองท้อง เพราะฉันป้องกันตลอด อย่าล้ำเข้ามาในเส้นที่ฉันขีดไว้ อย่าทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของฉัน ทั้งที่เอากันแค่ครั้งเดียว เพราะฉันไม่ชอบและไม่คิดจะจริงจังกับผู้หญิงแบบนี้...เธอเปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ” พูดเปิดโอกาสให้อีกคนเปลี่ยนใจ แล้วทำไมต้องมาลุ้นว่าหญิงสาวจะเปลี่ยนใจหรือไม่ และถ้ายัยนี่เกิดปอดแหกเปลี่ยนใจขึ้นมาล่ะจะทำยังไง ในเมื่อเขารู้สึกอยากขย้ำเธอขึ้นมาแล้ว
คำพูดตรงไปตรงมาไร้ซึ่งการรักษาน้ำใจ ทำให้เอวาจุกอยู่ในอกไม่น้อยทีเดียว แต่ก็ไม่แปลกหากเวย์สันจะพูดแบบนี้กับเธอ เพราะเขาต้องเคลียร์ให้ชัดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมาทีหลัง
“ทำไมต้องเปลี่ยนใจ ในเมื่อเอวาตัดสินใจมาดีแล้ว คนที่ต้องเปลี่ยนคำพูดคือพี่ต่างหาก เพราะเอวาจะทำให้พี่ไปไหนไม่รอดเป็นของเอวาคนเดียว” รู้ว่ามันคือเรื่องตลกสิ้นดีที่เอ่ยประโยคนี้ออกมา แต่นั่นคือสิ่งที่เธอตั้งใจจะทำจริงๆ และเธอยังหน้าโง่คาดหวังว่ามันจะสำเร็จด้วยสิ
โง่! สิ้นคิดจริงๆ
“หึ! ฝันไปหรือเปล่าเด็กน้อย ของกินเล่นก็คือของกินเล่นน่า อีกอย่างก็มีผู้หญิงมากมายที่พูดแบบนี้กับฉัน แต่สุดท้ายมันก็ไม่เกิดขึ้น” พลิกตัวออกจากร่างบาง ลงไปนั่งที่ปลายเตียง
“ไปอาบน้ำซะ ฉันไม่ชอบของสกปรก” เอวายันตัวลุกขึ้นนั่ง มองแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มชั่วครู่ จึงขยับตัวลงจากเตียงและเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
เวย์สันมองประตูห้องน้ำที่ปิดลงและส่ายหน้า คิดจะทำให้เขาหลงอย่างนั้นเหรอ เอาอะไรมาพูด เพ้อเจ้อที่สุด ไม่รู้ผ่านใครมาบ้าง
ร่างสูงลุกเดินไปยังระเบียงของโรงแรมด้านนอก ไม่ลืมจะคว้าบุหรี่ที่วางบนหัวเตียงออกไปสูบเพื่อรอหญิงสาวที่อยู่ในห้องน้ำ อยากรู้จริงๆ ว่าผู้หญิงใจกล้าคนนั้นจะเด็ดสมความใจกล้าของเธอไหมหรือ เป็นพวกท่าดีทีเหลว
เอวามองผู้หญิงใจกล้าที่สะท้อนในกระจก ก็ได้แต่ผ่อนหายใจออกมา ตบแก้มตัวเองเบาๆ เป็นการเรียกสติให้กับความใจกล้าของตัวเองที่ทำในวันนี้ และสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ รู้ว่าผิด รู้ว่าไม่ควร แต่ก็ยังทำ
“แกเดินมาไกลเกินกว่าจะถอยแล้วเอวา ชีวิตแกนับจากวันนี้จะไม่เหมือนเดิม แกเตรียมตัวเสียใจได้เลย ไม่สิ! แกจะไม่เสียใจ เพราะแกจะต้องชนะ แกจะทำให้คนที่เคยปฏิเสธแกหลงแกให้ได้” พึมพำบอกตัวเอง
สลัดความคิดทุกอย่างออกจากสมอง รีบจัดการอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดหอมสดชื่น อย่างไรเสียเธอก็เดินมาไกลเกินกว่าจะกลับ สิ่งที่ทำได้คือเดินหน้าไปให้สุด ในเมื่อคิดจะแรดกับเสือก็ต้องแรดให้สุดกู่ ยอมเข้าไปเป็นของเล่นให้เสือก็ไม่ต้องกลัวอะไร แค่ทำยังไงก็ได้ให้เสือที่ว่าแน่ ต้องพ่ายแพ้ให้ของเล่นชิ้นนี้ และเกิดความรู้สึกหวงของเล่นชิ้นนี้ขึ้นมา