เดวิดเลิกเสื้อยืดพอดีตัวที่คนตัวเล็กใส่ออกไปทางหัว จากนั้นก็ถอดกางเกงยีนส์ของเธอออก พอไร้เสื้อผ้าปิดร่างความสมส่วน อวบอัด ของวัยสาวก็เผยออกมาให้เห็น เดวิดมองด้วยดวงตาเป็นประกาย เขายอมรับว่าเคยผ่านผู้หญิงมาเยอะ แต่ไม่เคยเห็นใครมีรูปร่างทรวดทรงกระชากสายตาแบบนี้ ถึงจะดูไม่สมส่วนเป็นจุดๆ ไปบ้างก็ตาม
‘หน้าอกพิการ’
‘กินอะไรเป็นอาหารถึงไปโตแค่ที่นม’
เดวิดยังมองความพิการคู่นั้นที่ล้นจนสร้อยที่เธอสวมอยู่ตกอยู่ตรงร่องอก เขานึกอยากเห็นว่าสร้อยเส้นนั้นแขวนจี้แบบไหน อยากจะเอามือล้วงเข้าไประหว่างช่องแคบที่เบียดชิดและหยิบออกมาดู เขาเป็นพวกอยากรู้อยากเห็น และพอเห็น น้ำลายมันก็เหนียวหน่อยนึง
เดวิดบอกตัวเองว่ารูปร่างเย้ายวนของเธอไม่ได้ทำให้เขาหมดความอดทนเลยสักนิด เขายังทนได้ แต่อาการดิ้นรนของเดือนนาราทำให้อกอวบยวบไหวราวกับว่ากำลังกวักเรียกให้เขาเข้าไปหานี่สิ
‘เริ่มไม่อยากทน’
ไวเท่าความคิดหากชวนแล้วไม่เข้าไปทักเดี๋ยวจะหาว่าคนอย่างเขาไม่ใช่คนจริง
“ก็เธอเชื้อเชิญฉันเองนะ”
“เชิญอะไร ตอนไหนไม่ทราบ” เดือนนาราผงะ หน้าแดงก่ำเพราะทั้งโกรธทั้งอาย
“หน้าอกเธอกวักเรียกฉันไปทักทายมัน”
“ไอ้คนหื่น ไอ้คนบ้า หน้าอกก็อยู่ของมันเฉยๆ ที่คุณทำลงไปล้วนเป็นความหื่นของคุณทั้งนั้นแหละ”
“เออ...หรือจะใช่” เขาตอบแบ่งรับแบ่งสู้ด้วยท่าทางกวนปนมึน
“ถอยออกไปเลยนะ ฉันไม่ยอมง่ายๆ หรอก”
เดวิดไม่สนใจต่อปาก แต่อยากชิมมะพร้าวลูกโตที่กวักมือเรียกไม่หยุด เขาก้มลงไปดูดดึง มืออีกข้างก็ฟอนเฟ้นทรวงอกอวบอีกข้างไม่ให้น้อยหน้ากัน ความอุ่นชื้นจากปลายลิ้นร้อนไล้วนอย่างไม่เคยกินของอร่อยมาก่อน แบบนี้ไม่ใช่แค่อร่อยแต่มันสดใหม่เหมือนไม่เคยผ่านมือใครมาเลย
เพิ่งรู้ว่าทำไมผู้ชายกว่าค่อนโลกชอบดื่มน้ำมะพร้าวสดๆ จากลูก
“อย่านะ! ปล่อยฉัน ช่วยด้วย”
เดือนนาราหวีดร้อง สัมผัสที่เขาจาบจ้วงลงมาทำให้เธอสมองขาวโพลน ดิ้นรนหนีจากการถูกตรึง ขอบตาเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาเพราะความกลัว พาสองมือโอบรัดปิดกั้นมะพร้าวน้ำหอมทั้งสองลูกอย่างหวงแหน
“ออกไปนะ คุณนั่นแหละ ขี้ขโมย ฉันไม่ได้อนุญาต คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้” เธอตะโกนใส่หน้าเขา
“ยัยสโนวไวท์ขี้ขโมย ฉันกำลังหิวน้ำ เธอมีมะพร้าวตั้งสองใบ แบ่งให้ฉันดูดกินน้ำสักใบไม่ได้เหรอไง”
เธอไม่ได้อยู่ในสภาวะที่อารมณ์ดีพอจะตอบกลับไปว่า
‘สองใบนี้เป็นผลผลิตที่แม่ให้มาล้วนๆ ไม่ได้ไปขโมยมา หรือให้หมอศัลยกรรมทำให้’
“เมายาฆ่าแมลงหรือไง นี่มันไม่ใช่มะพร้าว แยกไม่ออกเหรอระหว่างสีเขียวกับสีขาว”
“ที่นี่ปลูกแอปเปิลแบบอินทรีย์ไม่ใช้สารเคมี และใช้ปุ๋ยจากมูลสัตว์ ถ้าฉันจะเมาคงเพราะเวียนหัวกับมะพร้าวสองใบของเธอที่ส่ายไปส่ายมาผ่านหน้าฉันมากกว่า” เธอกวนมาเขากวนกลับไม่โกงกัน เดวิดยิ่งรู้สึกสนุกกับเกมรักครั้งนี้มากขึ้น เร้าใจ ตื่นเต้นกว่าคู่นอนคนไหนๆ
เดือนนาราเบี่ยงตัวหนี เดวิดพลาดจากมะพร้าวสองลูก เขาเลยแสร้งจูบลากต่ำลงมาที่หน้าท้องแบนราบ ตอนนี้ต่อให้เอาช้างมาฉุดก็หยุดไม่อยู่ เขาอยากสำรวจร่างเล็กนี้ให้ถ้วนทั่วแล้วอยากพาตัวตนแข็งขึงเข้าไปทักทายทำความรู้จักร่างกายของยัยสโนวไวท์ขี้ขโมยที่กอดมะพร้าวสองลูกไม่ยอมปล่อย
เขาผละกายออกมาครู่หนึ่งเพื่อจัดการถอดเสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนส์ออก จัดการหาเครื่องมือป้องกันมาไว้ข้างกาย
เดือนนาราตาเบิกกว้างกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า เธอไม่เคยเห็นร่างกายของเพศตรงข้ามเต็มๆ ตามาก่อน อาจจะเคยเห็นตามทีวี นิตยสาร แต่ที่เห็นแบบเปลือยเปล่าอล่างฉ่างเพิ่งเคยเห็นวันนี้
ถ้าเขาว่าเธอเป็นยัยสโนวไวท์ขี้ขโมย เขาก็เป็นเจ้าชายโรคจิตที่พกดาบเล่มใหญ่ แต่ดาบที่เขาพกมาดูเหมือนไม่ได้นำมาฟาดฟันกับแม่มดเพื่อช่วยเหลือสโนวไวท์ ดาบด้ามยาวของเจ้าชายเหมือนจะนำมาฟาดใส่ร่างสโนวไวท์ไม่ยั้งเสียมากกว่า ยิ่งคิดยิ่งสยอง เดือนนารายอมรับว่าไม่เคยกลัวอะไรเท่านี้มาก่อน
“กลับขึ้นมาเดี๋ยวนี้! อย่ามายุ่งกับร่างกายฉันนะ คุณมันโรคจิต ไปให้ห่างฉันเลย”
ร่างสูงใหญ่กำยำตรงหน้าหล่อเหลาไม่แพ้เจ้าชายในเทพนิยาย รูปร่างของเดวิดกำยำ งดงามไม่ต่างจากรูปปั้นเดวิดที่อิตาลี สมบูรณ์แบบ ไม่มีไขมันส่วนเกิน ทุกมัดกล้ามเกิดจากการเป็นนักกีฬาขี่ม้ามาก่อน
ดวงตากลมโตมองค้าง ปากเผยอด้วยความกลัว ดาบของเจ้าชายกำลังมุ่งหมายมาที่ร่างกายของเธอ
เดือนนารากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เธอต้องเสียสาวที่นี่หรือ เสียสาวเพราะแอปเปิลมันคุ้มเสียที่ไหน เธอไม่มีวันยอม ร่างเล็กกำลังจะกระโดดลงจากเตียงแต่ก็ถูกมือหนาดึงกลับมาให้นอนหงายแล้วตัวเขาก็ตามมาคร่อมทับ
เดือนนารากลัวจนขอบตาร้อน แต่แล้วความคิดทุกอย่างก็ปลิดปลิวไปเมื่อเสียงร้องคุ้นหูดังแหวกอากาศเข้ามา
“แอ๊ะ แอ๊ะ”
ก่อนจะกลายเป็นเสียงแอ๊ดังราวกับกำลังโมโห
ร่างกายหนากำยำหยุดทุกการกระทำลงทันที เขากลัวว่าหากดิโน่ตื่นมาแล้วจะไม่ได้ยิน ก่อนออกจากห้องเจ้าตัวเล็กเขาจึงเปิดประตูทิ้งไว้ ดิโน่เป็นเด็กที่มีพลังปอดยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งของโลก เวลาร้องแต่ละครั้งเสียงดังสนั่นลั่นบ้าน ต่อให้อยู่ในสวนแอปเปิล บางครั้งเขายังได้ยินเสียงร้องของหลาน และเสียงร้องแบบนี้แสดงว่าต้องตื่นมาแล้วไม่เห็นหน้าเขา
“เจ้าไดโนเสาร์ ลืมตาปุ๊บก็ออกอาละวาดทันทีเลย” เขาจำได้ว่าก่อนดิโน่หลับ เขาตบก้นนุ่ม และเอาขวดนมให้ถือกินเอง ดิโน่กินได้ไม่หมดขวดก็หลับไป ตื่นเร็วแบบนี้หรือจะหิว
เดือนนารารู้สึกโล่งอกเมื่อเห็นว่าความน่ากลัวที่ผงาดง้ำราวกับจะบุกรุกล้ำร่างกายเธอเมื่อครู่ถูกเขาจับกดเข้าไปในกางชั้นในชาย แล้วรีบสวมกางเกงยีนส์ขึ้นทับอย่างว่องไว ส่วนมืออีกข้างก็รีบคว้าเสื้อมาใส่อย่างร้อนรน ปากของเขาขยับตะโกนตอบเสียงร้องเอาแต่ใจนั้นกลับไปว่า
“รู้แล้วน่าว่าตื่นแล้ว ไม่ต้องโมโห รอเดี๋ยว กำลังรีบ” ความรีบร้อน มือแกร่งแทบจะรูดซิปไปติดกับเนื้อแน่นแข็งที่พยายามดันแล้วดันอีกให้กลับไปที่เดิม
เดือนนาราจำเสียงหลานชายได้ดี เพราะเด็กชายแดนไทยมีเสียงร้องอันทรงพลังมาตั้งแต่เกิด และพี่สาวของเธอปวดหัวกับเสียงร้องของลูกมาก เป็นเธอที่ต้องช่วยทำให้หนูน้อยหยุดร้อง
“น้องแดน! หลานน้า”
จังหวะนี้เหมือนความสนใจของเขาไปอยู่ที่เจ้าตัวน้อยไม่ได้อยู่ที่เธอ จึงเป็นช่วงเวลาอันดีที่เธอรีบฉวยเสื้อผ้ามาสวมใส่อย่างว่องไวไม่ต่างจากเขา คนทั้งคู่พร้อมใจกันวิ่งไปยังทิศทางของเสียงร้อง เพียงแต่ว่าเดือนนาราไปถึงขอบเตียงไม้สีขาวก่อน มือเรียวเกาะอยู่ที่ขอบเตียงแล้วชะโงกลงไปมอง เพราะถ้าไม่ใช่หลานชายที่เธอตามหา เดือนนาราจะวิ่งหนีไปจากที่นี่ทันที