4 พิธีมงคลสมรสที่ไม่เต็มใจ1

905 คำ
ในที่สุดวันงานแต่งงานก็มาถึง สถานที่จัดงานคือวังของพี่สาวคุณหญิงพรวิมลซึ่งต้องจัดให้สมเกียรติสมฐานะความเป็นลูกผู้ดีตระกูลเก่า การจัดงานเป็นไปตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทยมีการจัดเตรียมทุกอย่างอย่างพิถีพิถัน ไม่มีขาดตกบกพร่อง พลเอกสมศักดิ์เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าว ส่วนคุณหญิงพรวิมลทำหน้าที่เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาว ท่านทั้งสองกำลังพูดคุยกับแขกเหรื่อที่ตบเท้าเข้ามากันอย่างคับคั่ง คุณพรวิมลบังคับให้ลูกชายตัวเองแต่งกายอย่างไทยด้วยการสวมเสื้อราชปะแตนกับโจงกระเบนสีม่วง ถึงแม้เจ้าตัวไม่พอใจเท่าไรนัก แต่ผลที่ออกมาก็ทำให้เขาดูหล่อดูดีและสง่างามในชุดไทย ร่างสูงเดินหน้าหงิกหน้างอมานั่งรอเจ้าสาวที่บริเวณห้องรับรอง 15 นาทีผ่านไป นภัสสรเดินออกจากห้องแต่งตัวอย่างช้าๆ เธอนุ่งซิ่นสีชมพูความยาวระดับเข่า ส่วนท่อนบนเสื้อทรงกระบอกตัวยาวคลุมสะโพก ใส่สายสร้อยและตุ้มหูยาว สวมกำไล สวมถุงน่อง รองเท้าส้นสูง ทำผมลอนดัดสั้น สวยสง่างามสะกดทุกสายตาให้จับจ้องมาที่เธอ ไม่เว้นแม้แต่เจ้าบ่าวอย่างคณินที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็เผลอมองเธอราวกับต้องมนต์สะกดอย่างไม่รู้ตัว เมื่อถึงช่วงพิธีการที่สำคัญนั่นก็คือการเรียงสินสอดและการสวมแหวนหมั้น ใบหน้าของคณินก็เริ่มแสดงออกถึงความไม่พอใจ เขาไม่สามารถปกปิดความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้ทำให้ผู้ใหญ่ที่อยู่ในงานต่างหันหน้าซุบซิบนินทา “พวกเธอดูหน้าเจ้าบ่าวสิ! เหมือนว่าคุณคณินไม่อยากแต่งงานกับหนูภัสสรเลยนะ” ผู้ใหญ่คนหนึ่งกระซิบข้างหูคนรู้จักที่มาร่วมงาน ขณะที่มองไปที่ใบหน้าของเจ้าบ่าวที่ไม่สามารถซ่อนความไม่พอใจได้ “ฉันได้ยินมาว่าคุณหญิงท่านบังคับให้คุณคณินแต่งงานกับเด็กในบ้านเพราะไม่ปลื้มแม่นางแบบสาวอกโตคนนั้น” อีกคนหนึ่งตอบกลับด้วยเสียงกระซิบเบาๆ “แต่งงานกับเด็กในบ้านก็ดี เรือล่มในหนองทองจะไปไหน คนกันเองทั้งนั้น” “พวกเธอก็พูดเว่อร์ไป หนูนภัสสรเรียนเก่งมาก มารยาทงาม สมกับที่คุณหญิงท่านอบรมมาตั้งแต่เด็ก” “แต่แต่งงานกับลูกแม่บ้านจนๆใครจะไม่อายบ้าง เรื่องชาติกำเนิดมันหลีกเลี่ยงกันได้ที่ไหน” “โอ๊ยยุคสมัยนี้แล้วไม่มีใครเขาถือสากันหรอก ขอแค่เป็นคนดี ทำงานเก่ง วางตัวเหมาะสมก็พอ” เสียงกระซิบเหล่านี้เล็ดรอดไปถึงหูนภัสสรซึ่งเจ้าตัวก็รู้ตัวดีว่าเรื่องที่ถูกผู้คนซุบซิบนินทามันคือเรื่องจริงทั้งหมด เธอโดนดูถูกเรื่องที่เกิดมาเป็นลูกแม่บ้านทั้งชีวิต โดนอีกสักครั้งจะเป็นอะไรไป ส่วนเจ้าบ่าวอย่างคณินที่ต้องแต่งงานกับเธอก็อายที่ถูกพูดถึงเรื่องนี้จนอยากจะมุดดินหนีไปซะสิ้นเรื่อง “เพราะเธอคนเดียวทำให้ฉันถูกมองไม่ดีไปด้วย” คณินกัดฟันพูดกับหญิงสาวที่นั่งพับเพียบข้างกาย “ถ้าคุณอายก็รีบสวมแหวนเถอะค่ะ ” หญิงสาวกระซิบตอบ ในเมื่อเขาอายนักก็ควรรีบทำพิธีให้เสร็จเร็วๆ จะดีกว่าเพราะได้ไม่ต้องได้ยินคำนินทาว่าร้ายให้ระคายหูอีก จากนั้นชายหนุ่มก็นำแหวนเพชรขึ้นมาสวมใส่ให้หญิงสาวตรงหน้า ทว่านภัสสรกลับยิ้มผ่านแววตา ถึงแม้จะเป็นการแต่งงานที่ไม่เต็มใจแต่มันคือครั้งแรกของเธอ ความรู้สึกตื่นเต้นและตื้นตันใจมันเป็นอย่างนี้นี่เอง “เสร็จแล้วใช่ไหมครับ” คณินหันไปถามพ่อกับแม่ซึ่งทั้งคู่ก็พยักหน้าตอบรับ แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะลุกพรวดพราดต่อหน้าแขกทุกคนที่มาร่วมงาน ร่างสูงเดินไปนั่งเก้าอี้ซึ่งบนโต๊มีใบทะเบียนสมรสวางอยู่ มือหนาจับปากกาขึ้นมาเซ็นชื่ออย่างรวดเร็ว และเดินเข้าไปพักผ่อนในห้องรับรองทำให้ทุกคนที่อยู่ในพิธีต่างยกมือขึ้นมาทาบอกด้วยความตกใจ นภัสสรที่ยังนั่งอยู่ต่อหน้าผู้หลักผู้ใหญ่ก็ทำตัวไม่ถูกนอกจากยิ้มให้แขกที่มาร่วมงาน ทั้งที่ในใจเจ็บปวดกับการกระทำของเขาที่ไม่ให้เกียรติเธอกับครอบครัวตัวเอง “คุณหญิง ผมว่าทำอย่างนี้ลูกจะไม่มีความสุขเอานะ ผมสงสารลูกที่ต้องถูกบังคับให้แต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก” นายพลสมศักดิ์เอนกายไปกระซิบข้างหูอดีตภรรยาที่กำลังกำมือแน่น พยายามข่มอารมณ์กับการกระทำของลูกชายตัวเองที่ทำให้ท่านต้องขายขี้หน้า ท่านนายพลสมศักดิ์ไม่ได้สนสายตาคนในงานว่าจะมองยังไง เขาเป็นห่วงความรู้สึกลูกชายมากกว่า หน้าบึ้งตึงอย่างนี้จะมีความสุขในการใช้ชีวิตคู่อย่างไร “แล้วคุณมีวิธีอื่นในการกำราบตาคณินหรอคะทั้งควงผู้หญิงไปเที่ยวกลางคืนไม่ซ้ำหน้า ทั้งเอาเงินไปให้คนพวกนี้ถลุงเล่น ถ้ายกบริษัทวิทสุทธิ์ถากรได้ตาคณินคงยกให้หมดแล้วมั้งคะ” คุณหญิงพรวิมลตอบอดีตสามีที่กำลังถอนหายใจเฮือกใหญ่ ซึ่งคำอธิบายเหล่านี้ก็ทำให้ท่านนายพลเถียงไม่ออกเพราะลูกชายของเขาก็ทำตัวเหลวไหลจริงๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม