“มะ มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ไหนบอกว่าจอดรถรออยู่ที่หน้ามหาวิทยาลัยไง” “ถ้าไม่มาดักรอคงไม่ได้ยินอะไรดีๆ แบบนี้” “…….” แบบนี้เรียกว่าแผนแตกหรือเปล่า ฉันไม่มีโอกาสแก้ตัวได้เลยเพราะพี่ติณคงได้ยินทั้งหมด “กลับไปคุยกันที่บ้าน” แขนของฉันถูกพี่ติณกระชากให้เดินตามเขามาที่รถ ย้ำว่ากระชาก! นั่นจึงทำให้อารมณ์ของฉันมันเริ่มเดือด “จะรุนแรงทำไมคะ บอกกันดีๆ ก็ได้” ฉันสะบัดแขนออกจากมือของพี่ติณอย่างไม่ชอบใจ “คุยดีๆ แบบที่เธอคิดจะหนี ?” พี่ติณถามกลับมาอย่างหาเรื่อง เขาจ้องหน้าฉันเขม็ง “เป็นเด็กหรือไง” “พี่ติณนั่นแหละเป็นเด็กหรือไง!!” ฉันตวาดถามกลับจากนั้นก็รีบเดินตรงมาที่รถโดยทีพี่ติณเดินตามมาติดๆ #บ้านของพี่ติณ พอขึ้นมาบนห้องพี่ติณก็เริ่มถามเข้าประเด็นที่ฉันคิดจะหนี ตอนนี้เขากำลังยืนเท่าเอวอยู่ตรงหน้าของฉันที่นั่งบนปลายเตียง “คิดแบบนั้นมานานเท่าไหร่แล้ว ?” “นานแล้วค่ะ คิดตลอดเวลา” “แต่