ตอนที่ 10 ฝันร้าย
1074 คำ
เหมือนฝันแค่ส่งยิ้มบางๆ โดยไม่ได้ตอบอะไร เธอแค่หันไปหยิบรีโมตเครื่องปรับอากาศแล้วปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม ก่อนจะหันกลับมากระชับผ้าห่มแล้วก้าวออกไปจากห้องนั้นโดยมีสายตาของเขามองตามอย่างอ่อนโยน ไม่นานเขาก็ค่อยๆ หลับไปเพราะฤทธิ์ยาที่หมอจัดให้
“ฉันต้องการให้เธอเลิกกับลูกชายของฉัน และนี่คือค่าตอบแทนที่เธอจะได้รับ”
สตรีวัยกลางคนโยนเช็คเงินสดเอาไว้ตรงหน้าของผู้หญิงที่นั่งคุกเข่าตรงหน้าท่านโดยที่ข้างกายมีบอดี้การ์ดอีกสองคนคอยคุมอยู่
“แค่ห้าล้านเองเหรอคะ หนูนึกว่าค่าตัวของลูกชายคุณจะแพงกว่านี้ซะอีก” สาวสวยในชุดนักศึกษาชำเลืองมองกระดาษใบนั้นแล้วแสยะยิ้มออกมาเหมือนไม่สนใจมูลค่าของมันเลยสักนิดเพราะหากเธอได้แต่งงานกับลูกชายของท่าน เธอจะต้องได้เงินมากกว่านี้อีกร้อยเท่าพันเท่าแน่นอน
“ค่าตัวลูกชายของฉันย่อมแพงกว่านี้แน่นอน แต่ที่ฉันจ่ายไปมันคือค่าตัวของเธอต่างหากล่ะ ซึ่งห้าล้านนี้...มันแพงเกินไปด้วยซ้ำ”
ได้ยินอย่างนั้นอีกฝ่ายก็ชักสีหน้าไม่พอใจใส่ทันที
“นี่คุณ...”
“คิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าที่เธอมาทำดีกับตาซันมันเป็นเพราะอะไร พ่อแม่ของเธอติดการพนันงอมแงมจนถอนตัวไม่ขึ้น บ้านก็ใกล้จะถูกยึดเต็มที เธอก็เลยต้องการจับผู้ชายรวยๆ สักคนและคนที่ซวยก็ดันเป็นลูกชายของฉัน แต่โชคยังดีที่เค้ามีแม่ฉลาดเลยมองเห็นความเน่าเฟะในตัวเธอออก ฉันรู้ว่าเธอทิ้งผัวเก่าที่เป็นวินมอเตอร์ไซค์แถวบ้าน อ้อ มียามหน้าโรงเรียนอีกคนที่เธอหลอกเอาเงินเค้าจนหมดตัว แล้วก็ใครนะ หนุ่มแบงก์หน้าโง่ที่ไปกู้เงินมาปรนเปรอผู้หญิงแพศยาอย่างเธอใช่มั้ย และคนล่าสุดที่โดนมารยาสาไถยของเธอหลอกก็คือลูกชายของฉันเอง ตาซันหลงคิดว่าเธอเป็นคนดี น่ารักน่าทะนุถนอม เพราะภาพลักษณ์ที่เธอสร้างขึ้นมาหลอกตาเค้า ทำตัวเป็นนักศึกษาสาวผู้ยากไร้แต่จิตใจงดงาม ทำให้ลูกชายของฉันทั้งรักทั้งหลงจนแทบโงหัวไม่ขึ้น ดีที่ฉันส่งคนไปสืบประวัติของเธอจนรู้เบื้องลึกเบื้องหลังทุกอย่าง ไม่อย่างนั้นตาซันก็คงไม่ตาสว่าง”
“แน่ใจเหรอคะคุณแม่ว่าลูกชายของคุณแม่ตาสว่างแล้ว เมื่อเช้าเราสองคนยังนอนอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันอยู่เลยนะคะ อีกอย่างเค้าบอกว่าเค้าเกลียดแม่ของเค้ามาก คิดจริงๆ เหรอคะว่าเค้าจะเชื่อคำพูดของคุณมากกว่าผู้หญิงที่แสนดีแบบหนู” เธอมองท่านด้วยแววตาเย้ยหยัน แต่อีกฝ่ายกลับส่งยิ้มเย็นชาที่น่าขนลุกมาให้เธอแทน
“ก็ไม่คิดว่าเค้าจะเชื่อคำพูดของฉันหรอก ฉันเลยต้องให้เค้ามาเห็นกับตาและได้ยินกับหูของตัวเองไงล่ะ”
“นี่คุณ...หมายความว่ายังไงคะ”
ท่านไม่ได้ตอบคำถามของอีกฝ่าย ทว่ากลับหันไปมองที่ประตูห้องและเมื่อเธอหันไปมองตามสายตานั้นเธอก็ได้เจอกับผู้ชายสี่คน
และทุกคนก็ล้วนแล้วแต่เคยโดนเธอหลอกด้วยกันทั้งสิ้น
“ไงจ๊ะลูกรัก ได้คุยกับอดีตผัวทั้งสามของแฟนลูกหรือยังล่ะแล้วก็คงได้เห็นแล้วใช่มั้ยว่าผู้หญิงคนนี้กับแม่คุยอะไรกันบ้าง” ท่านส่งยิ้มให้ลูกชายที่ตอนนี้ในแววตาของเขามีแต่ความโกรธแค้นและชิงชัง ดวงตาของเขาแดงก่ำ มือของเขาบีบกันแน่น ก่อนที่เขาจะตอบท่านกลับมา
“ครับ ผมได้รู้และได้ยินทุกอย่างแล้ว ขอตัวก่อนนะครับ”
“เดี๋ยวสิคะซัน คุณอย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะคะ ที่คุณรู้มามัน...”
แฟนสาวของเขารีบเข้าไปคว้ามือของเขาเอาไว้ แต่เขากลับสะบัดมือเธอออกอย่างแรงด้วยความรังเกียจ เล่นเอาเธอถึงกับหน้าชากันเลยทีเดียว
“อย่า...บังอาจ...มาแตะต้องตัวฉันอีก จากนี้ไปหวังว่าเราจะไม่ต้องพบเจอกันอีกตลอดชีวิตนี้ เพราะถ้าฉันเจอเธอครั้งหน้า ฉันสาบานเลยว่าจะฆ่าเธอด้วยมือของฉันเอง”
บอกแค่นั้นเขาก็ก้าวออกไปจากห้องนั้นอย่างรวดเร็ว และไม่คิดจะรับรู้ข่าวของผู้หญิงสารเลวคนนั้นอีกเลย...
“คุณซัน...คุณซันคะ คุณซัน”
เหมือนฝันเขย่าตัวเขาเมื่อเห็นชายหนุ่มนอนกระสับกระส่ายและเหงื่อโชกเต็มหน้า
“ไปให้พ้น...ไปให้พ้น!”
เขาลืมตาตื่นแล้วผลักเธอออกอย่างแรงจนร่างเล็กล้มไปข้างเตียงก่อนที่เขาจะลุกขึ้นมานั่งแล้วหายใจหอบ
“โอ๊ย!” เสียงของเลขาฯ สาวคล้ายจะปลุกให้เขาตื่นจากฝันร้าย เมื่อชายหนุ่มหันไปมองแล้วเห็นใบหน้าเหยเกของเธอ เขาก็รีบลุกไปประคองเธอทันที
“ดรีม ผม...ผมขอโทษ คุณเจ็บมากรึเปล่า”
“มะ...ไม่เป็นไรค่ะ แค่สะโพกกระแทกนิดหน่อย แล้วคุณซันฝันร้ายเหรอคะ” แม้ตัวเองจะเจ็บแต่ก็ยังมีใจห่วงใยเขา หญิงสาวหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อของตนเองมาซับที่ใบหน้าชุ่มเหงื่อนั้นพร้อมแววตาอาทร และแววตาแบบนั้นก็ทำให้หัวใจของเขาเต้นในจังหวะที่แตกต่างออกไป
ฝันร้ายที่มีก่อนหน้าค่อยเลือนรางลงและกลายเป็นเพียงความทรงจำที่ไม่น่าจดจำ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ คว้ามือน้อยเอาไว้แล้วมองสบตาคู่นั้น
“คุณ...ไม่ได้หลอกผมอีกคนใช่มั้ยดรีม”
“คะ? ดรีมจะหลอกคุณเรื่องอะไรกัน”
เธอมองเขาด้วยแววตาสับสน
“เปล่าหรอก...ไม่...ไม่มีอะไร”
“งั้นกลับไปนอนบนเตียงเถอะนะคะ คุณป่วยอยู่ ดรีมแค่จะมาบอกว่าอาหารเย็นพร้อมแล้ว เดี๋ยวดรีมจะยกเข้ามาให้ค่ะ”
เธอขยับตัวจะประคองเขา แต่กลับรู้สึกเจ็บตรงสะโพกจนเกือบจะทรุดลงไปเสียเอง สุดท้ายคนที่ต้องเป็นฝ่ายประคองเธอก็คือคนที่เธอบอกว่าป่วยคนนี้
- ผู้เขียน
