ตอนที่ 4 สักขีพยาน

1015 คำ
“พี่จิณณ์...” “ขอโทษด้วยที่พี่ไม่ได้จัดสถานที่ให้ดูพิเศษมากกว่านี้ แต่ความจริงพี่ตั้งใจพาดาวมาที่นี่ไม่ใช่แค่ให้มาเจอไอ้ซันกับไอ้กุลเท่านั้น แต่พี่อยากมาขอดาวแต่งงานที่นี่ เพราะมันเป็นที่แรกที่เราได้รู้จักกัน และจุดเริ่มต้นความรักของเราก็เกิดขึ้นในห้องนี้ด้วย เกือบสองปีที่แล้วพี่ขอให้ดาวมาเป็นแฟนปลอมๆ ของพี่ แต่วันนี้พี่จะใช้แหวนวงนี้ขอดาวมาเป็นเจ้าสาวตัวจริง ดาวจะเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นภรรยาคนเดียวในชีวิตของพี่ แต่งงานกันนะครับ มาสร้างครอบครัวของเราไปด้วยกันเถอะนะ” ดารภาน้ำตารื้นเมื่อได้เห็นแววตาที่จริงจังของเขา หญิงสาวพยักหน้ารับรัวๆ ก่อนจะยื่นมือไปให้ผู้ชายคนเดียวที่เธอรักหมดใจ “ตกลงค่ะ ดาวจะแต่งงานกับพี่ เราจะสร้างครอบครัวไปด้วยกัน” จิณณ์ยิ้มกว้างก่อนจะสวมแหวนลงบนนิ้วนางข้างซ้ายแล้วจูบที่หลังมือนั้นอย่างอ่อนโยน “นี่มึงกะจะฆ่าคนโสดให้ตายไปเลยใช่มั้ยไอ้จิณณ์ ไอ้เพื่อนเวรเอ๊ย เล่นเอากูสองคนซึ้งตามเลยเนี่ย เห็นแล้วอยากมีเมียเลยโว้ย!” อาทิตย์แกล้งโวยวายก่อนจะกอดคอกุลวุฒิแล้วนั่งลงที่โซฟาด้วยกัน “นั่นสิไอ้จิณณ์ มึงนี่โคตรใจร้ายเลย แต่ยังไงก็ขอแสดงความยินดีกับทั้งสองคนด้วยนะ มาๆ มานั่งดื่มกันดีกว่า วันนี้ถ้าว่าที่เจ้าบ่าวไม่เมา พี่ไม่ให้กลับเด็ดขาดเลย” “เอ่อ...จะดีเหรอคะ เดี๋ยวพี่จิณณ์ขับรถไม่ไหว” ดารภาบอกขณะปล่อยให้จิณณ์จูงมือเธอมานั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้ามสองหนุ่มอย่างอารมณ์ดี “ถ้ามันขับไม่ได้เดี๋ยวพี่ขับให้เอง” “พูดอย่างกับว่ามึงจะขับไหว กูไม่ยอมให้มึงมอมเหล้ากูอยู่ฝ่ายเดียวหรอกนะไอ้กุล วันนี้ถ้าเมากันไม่ครบทีมก็ไม่ต้องกลับ” จิณณ์บอกก่อนจะเทเหล้าราคาแพงลงในแก้วทั้งสามใบ “เอ่อ...ถ้าอยากเมากันขนาดนั้น ไปเมาที่ห้องพี่จิณณ์ดีกว่ามั้ยคะ เมาแล้วหลับที่นั่นเลยจะได้ไม่ต้องขับรถให้อันตราย” “ห้องไอ้จิณณ์มีห้องนอนว่างห้องเดียวเอง เกิดพี่เมาขึ้นมาแล้วโดนไอ้ซันปล้ำใครจะรับผิดชอบล่ะ งั้นย้ายไปบ้านพี่ดีกว่ามั้ย ห้องเยอะ ผนังหนา รับรองว่าต่อให้ไอ้จิณณ์มันนอนครางทั้งคืนก็ไม่มีใครได้ยินหรอก” กุลวุฒิบอกขำๆ แต่สาวสวยหนึ่งเดียวในห้องถึงกับอายจนหน้าแดง “มึงก็พูดอะไรไม่คิดเลยไอ้กุล ดาวเค้าอายแล้วเนี่ย” จิณณ์แกล้งตำหนิเพื่อนแต่แววตานั้นเปล่งประกายวิบวับเมื่อคิดไปถึงเหตุผลเดียวที่จะทำให้เขาครางทั้งคืนได้ “น้องดาวอาย แต่มึงไม่อายล่ะสิไอ้จิณณ์ แหม ยิ้มกริ่มเลยนะมึง” อาทิตย์เอ่ยเย้าด้วยความหมั่นไส้ “พูดมากน่า งั้นก็ดื่มให้หมดแก้วนี่ก่อนแล้วค่อยย้าย ดาวจะไปกับพี่มั้ย หรือจะกลับก่อนก็ได้นะ พี่จะได้ไปส่งที่บ้านก่อน ไม่อยากให้ดาวลำบากใจน่ะ” ถึงจะอยากให้เธออยู่ด้วยแค่ไหน แต่เขาก็คิดถึงใจเธอมากกว่าใจของตัวเอง “ดาวว่า...” “ไปกับมันเถอะน้องดาว เวลาไอ้จิณณ์เมานี่น่าสังเวชมากนะ เดี๋ยวก็เพ้อ เดี๋ยวก็อ้วก พี่กลัวมันจะไปนอนกอดชักโครกในห้องน้ำแทนที่จะไปนอนบนเตียงดีๆ น่ะสิ ยังไงอีกไม่นานทั้งสองคนก็จะแต่งงานกันแล้ว อยู่ด้วยกันสักคืนคงไม่เป็นไรหรอกมั้งครับ” กุลวุฒิบอกอย่างรู้ใจเพื่อน รู้ว่ามันคงอยากอยู่กับเธอตามลำพังบ้าง “มึงก็พูดเกินไป กูไม่ได้รั่วขนาดนั้นหรอกน่า” จิณณ์รีบบอก “งั้นดาวไปกับพี่จิณณ์ก็ได้ค่ะ แต่ขอส่งข้อความไปบอกแม่ก่อนนะคะ แม่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง” ได้ยินอย่างนั้นจิณณ์ก็เผลอยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ก่อนจะมองดารภาหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าแล้วส่งข้อความไปหามารดาของเธอ หลังจากทุกอย่างเรียบร้อยพวกเขาก็ดื่มกันจนหมดแก้ว แล้วก็เรียกพนักงานมาเช็กบิลเพื่อจะได้ย้ายไปดื่มกันต่อที่บ้านของกุลวุฒิตามที่ตกลงกันไว้ ที่คฤหาสน์เจ้าของค่ายมวยชื่อดัง พวกเขาได้เจอกับสาวสวยคนหนึ่งที่ดูท่าทางเหมือนไม่ใช่สาวใช้แม้เธอจะช่วยยกกับแกล้มและเครื่องดื่มมาเสิร์ฟพวกเขาที่ห้องสันทนาการของกุลวุฒิ เพราะเธอสวมชุดนักศึกษาอยู่ด้วยแม้ตอนนี้จะเป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว “นี่มึงแอบซุกหญิงไว้แล้วไม่บอกเพื่อนเหรอวะไอ้กุล สวยด้วยนี่หว่า ชื่ออะไรวะ” อาทิตย์ถามขึ้นทันทีเมื่อสาวสวยก้าวออกไปจากห้องนั้นพร้อมกับสาวใช้อีกสองคน “ชื่อปีใหม่ เป็นหลานหัวหน้าแม่บ้านกูเอง เห็นว่าพ่อแม่ตายหมดไม่มีที่พึ่ง ป้าเค้าก็เลยขอพามาทำงานที่นี่ด้วย กูก็เลยรับไว้เห็นว่าไม่ได้เสียหายอะไรน่ะ” กุลวุฒิบอกยิ้มๆ “แหม มึงน่ะไม่เสียหายหรอก แต่กูกลัวว่าน้องเค้าจะเสียหายเข้าสักวันน่ะสิ” อาทิตย์แกล้งเย้า “กูไม่ใช่สมภารจะได้กินไก่วัด มึงเลิกคิดอกุศลเถอะ เด็กมันเพิ่งสิบเก้าเองและกูไม่กินเด็ก” “อ้อ แปลว่าถ้าอายุมากกว่านี้ก็ไม่แน่สินะ” คราวนี้จิณณ์เป็นคนพูดบ้าง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม