“เป็นไปไม่ได้หรอก การ์ดนี่เธอเขียนเองอย่างนั้นใช่มั้ย” นางแบบสาวมองอีกฝ่ายอย่างสงสัย
“นี่คุณไม่มีตาหรือไงคะ ถึงได้มองไม่เห็นว่าการ์ดน่ะลายมือเดียวกันก็แปลว่าคุณซันต้องเป็นคนเขียนเองสิ”
“นี่แปลว่า…เค้าคิดจะคบพวกเราสองคนพร้อมกันอย่างนั้นเหรอ? ไม่ได้ ฉันจะเข้าไปถามเค้าด้วยตัวเอง หลีกไปนะ!” จิรัชยาและพริมาที่โกรธจนลมออกหูพยายามจะเข้าไปในห้องแต่เหมือนฝันก็ขวางเอาไว้
“บอกแล้วไงคะว่าพวกคุณเข้าไปไม่ได้ นี่มันห้องทำงานเป็นพื้นที่ส่วนตัวนะคะ ถ้าพวกคุณยังดึงดันที่จะเข้าไป ฉันจะเรียก รปภ.มาลากพวกคุณไปหาตำรวจและแจ้งความข้อหาบุกรุก”
“แกกล้าก็ลองดูสินังผู้หญิงชั้นต่ำ เป็นแค่เลขาฯ ยังสะเออะมาขวางฉันงั้นเหรอ เดี๋ยวแม่จะตบหน้าหงายเลย!”
จิรัชยาเงื้อมือขึ้นหมายจะทำร้ายคนตรงหน้าด้วยความโมโห แต่ก่อนที่เธอจะได้ทำตามอารมณ์ประตูห้องก็เปิดออกและมือของนางแบบสาวก็ถูกคว้าเอาไว้
“คิดจะทำร้ายคนของผม ไม่น่ารักเลยนะครับจีน่า” อาทิตย์สะบัดมือของเธอออกจนหญิงสาวเกือบจะล้มคว่ำ ก่อนที่เขาจะขยับมายืนบังเลขาฯ ของตนเอาไว้
“แต่นังนี่มันตอแหล...เอ่อ...มันโกหกพวกเรานะคะ มันบอกว่าคุณไม่อยู่ทั้งที่คุณก็อยู่ข้างในแท้ๆ นี่มันคงคิดจะขัดขวางพวกเราไม่ให้เข้าไปเจอคุณน่ะสิ หรือว่ามัน...คิดจะเคลมเจ้านายของตัวเอง”
จิรัชยามองเหมือนฝันราวจะกินเลือดกินเนื้อ แม้อีกฝ่ายจะมีท่าทีสงบนิ่งจนน่าหงุดหงิดก็ตาม
“อย่างแรกเลยนะครับ เลขาฯ ของผมเค้าชื่อดรีมซึ่งพวกคุณก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นกรุณาอย่าเรียกเธอว่ามัน ส่วนเรื่องที่เธอบอกพวกคุณว่าผมไม่อยู่ นั่นเป็นคำสั่งของผมเองโทษเธอไม่ได้หรอกครับ”
“แพมว่าแล้วเชียว คุณดรีมเค้าคงไม่กล้าโกหกพวกเราหรอก ที่แท้ก็เป็นคำสั่งของคุณนี่เอง แล้วทำไมคุณถึงต้องสั่งแบบนั้นล่ะค่ะ หรือว่าอันที่จริงเป็นคำสั่งที่มีไว้สำหรับบางคนเท่านั้น”
พริมาหันไปมองจิรัชยาที่รับบทนางร้ายไปเมื่อครู่ เธอจึงต้องรีบรักษาภาพลักษณ์ของนางเอกเอาไว้อย่างแนบเนียน
“ไม่ครับ คำสั่งมีไว้สำหรับทุกคนโดยเฉพาะพวกคุณสองคนด้วย”
“อะไรนะคะคุณซัน” พริมามองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจนัก
สองสาวหน้าเผือดสีเมื่อได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มบอก
“นั่นสิคะ มันหมายความว่ายังไงคะคุณซัน หรือว่าคุณคิดจะเทจีน่าอย่างนั้นเหรอคะ”
“แล้วของที่พวกคุณได้รับมันยังไม่ชัดเจนพออีกเหรอครับ ดอกไม้ที่จัดช่อคล้ายกัน ข้อความในการ์ดที่คล้ายกัน แค่นี้ยังคิดกันไม่ได้เหรอครับ”
ได้ยินอย่างนั้นพวกเธอก็หันมามองหน้ากันทันที
“แต่ว่า...จีน่าไปทำอะไรให้คุณไม่พอใจเหรอคะคุณซัน เราสองคนรักกันมาตลอด...”
“ผิดแล้วครับจีน่า ที่เรามีความสัมพันธ์กันไม่ใช่เพราะความรัก ผมได้เซ็กส์ส่วนคุณก็ได้เงิน เหมือนผมกับคุณนั่นแหละแพม เราต่างก็ได้สิ่งที่เราต้องการ ไม่ใช่ความรักอะไรเลย”
“คนเลว ที่แท้คุณก็ไม่เคยจริงใจกับแพมเลยอย่างนั้นใช่มั้ยคะ”
นางเอกสาวบีบน้ำตาให้ดูน่าสงสาร แต่กลับไม่มีใครที่รู้สึกสงสารเธอจริงๆ เลยสักคน
“ผมไม่มีความจริงใจให้กับใครทั้งนั้นครับ ตอนนี้ผมเบื่อจะเล่นสนุกกับพวกคุณสองคนแล้ว ก็เลยส่งดอกไม้กับการ์ดไปให้ รออยู่เหมือนกันว่าเมื่อไหร่พวกคุณจะรู้ตัวว่าผมไม่ได้มีแค่พวกคุณคนเดียว เอาเป็นว่าตอนนี้คงเข้าใจกันดีแล้วนะครับ ถ้าหมดธุระก็เชิญครับ ผมมีงานต้องทำ”
เขาบอกพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยนที่ไร้ซึ่งความจริงใจอย่างสิ้นเชิง ก่อนจะผายมือไปทางลิฟต์ตัวใหญ่และแน่นอนว่าสองสาวไม่คิดจะฉุดรั้งเขาให้รู้สึกเสียศักดิ์ศรีและอับอายมากไปกว่านี้ เพราะเท่าที่ผ่านมาพวกเธอก็ได้เงินจากเขาไปไม่น้อยแลกกับการได้ขึ้นเตียงกับหนุ่มรูปหล่อผู้แสนจะเร่าร้อนบนเตียงนอนคนนี้
เหมือนฝันมองสาวสวยทั้งสองเดินจากไปโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรกันอีกเลย ก่อนจะหันมามองเสี้ยวหน้าของคนที่ยืนปกป้องเธออยู่จนถึงตอนนี้
คนที่เป็นเหมือนดวงอาทิตย์อันร้อนแรงและเจิดจ้า ทว่าความร้อนนั้นกลับค่อยๆ แผดเผาทุกสิ่งที่ขยับเข้าไปใกล้ สุดท้ายดวงอาทิตย์ก็อยู่สูงเกินไปและอันตรายเกินกว่าจะเก็บไว้ในครอบครอง
“ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย” เขาหันกลับมามองคนข้างหลังเมื่อพริมากับจิรัชยาก้าวเข้าไปในลิฟต์เรียบร้อย
“ดรีมไม่เป็นอะไรค่ะ ขอบคุณค่ะ”
“เพราะผมเลยทำให้คุณเกือบจะโดนทำร้าย ขอโทษนะครับ”
เขาบอกพลางวางมือลงบนไหล่เล็กแล้วส่งยิ้มอ่อนโยนที่แตกต่างจากการยิ้มให้ผู้หญิงสองคนก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง
“คุณซัน...ไม่คิดว่าคนที่ควรได้รับคำขอโทษจะเป็นคุณแพมกับคุณจีน่าบ้างเหรอคะ พวกเธอดูจะเสียใจมากที่ถูกคุณเอ่อ...”
“คุณนี่ช่างไร้เดียงสาจริงๆ เลยนะดรีม สองคนนั้นไม่เสียใจเพราะเรื่องแค่นี้หรอกครับ อย่างมากก็แค่เสียหน้าเท่านั้นเอง รีบเอาเอกสารไปให้ผมเซ็นเถอะ ผมจะได้กลับไปพักซะที”
“ค่ะคุณซัน”
เธอมองเขาเดินกลับเข้าไปในห้องก่อนจะหันไปหยิบเอกสารที่เตรียมไว้แล้วเดินตามเขาเข้าไปด้านในนั้น