ร่างใหญ่ยกตัวขึ้นเล็กน้อยประพรมจูบไปทั่วใบหน้าเล็กจวบจนริมฝีปากอุ่นของเขาเข้าครอบครองประกบปิดเรียวปากบางของเธอ สอดเรียวลิ้นไปล้วงลึกเอาความหอมหวานเจือความมอมเมาของรสชาติวิสกี้ที่เธอดื่มมาอย่างเต็มที่ชนิดที่ไม่รู้จักเบื่อ
เขาไม่เคยรู้เลยว่ายามมันมีกลิ่นของวิสกี้ชั้นดีอยู่ในปากของหญิงสาวเช่นนี้ จะชวนให้เขาอยากดูดดื่มจนไม่อยากละออกจากเรียวปากของเธอ เอาไว้คราวหน้าเขาจะลองดื่มวิสกี้จากปากเธอดูบ้าง อยากรู้นักจะหอมหวานแค่ไหน และแน่นอนว่านอกจากจะสอนรักครั้งแรกกับเธอ เขาไม่คิดจบสัมพันธ์ชั่วคราวเพียงเท่านี้แน่
สองมือของชายหนุ่มเคล้นเคล้าคลึงสองเนินอวบที่มันพอดิบพอดีมือของเขา ส่วนเจ้าโลกที่พร้อมสู้ศึกครั้งนี้นั้นมันวาดขึ้นลงอยู่ส่วนตรงกลางความอ่อนนุ่ม จนมีน้ำหวานของเธอเริ่มซึมออกมาเล็กน้อย
แต่นั่นยังไม่เพียงพอให้พร้อมพรรคสำหรับร่วมรักในคืนนี้ คืนแห่งความรักที่เขาจะรักเธอให้สุดใจ
ริมฝีปากที่ค่อย ๆ ละออกจากเต้าอวบเคลื่อนลงมาด้านล่างและหยุดหยอกเย้ากับเนินนุ่มที่มีปลายยอดถันชูชันรอให้ทักทาย ชายหนุ่มก็ดูดกลืนจนปลายยอดเกลือกกลิ้งในโพรงปาก
ร่างกายเล็กยามนี้อ่อนเปลี้ยไปหมด เสียงร้องอึกอักในลำคอตอนที่นิ้วมือเขาหยอกล้อกับจุดอ่อนไหว ทำให้ลมหายใจของวราภัคหอบแรงจนหน้าอกอิ่มกระเพื่อมขึ้นลง นั่นทำให้เขาทั้งดูดและดึงปลายยอดจนเธอกรีดร้องด้วยความเจ็บผสมกับความเสียวซ่าน
หญิงสาวราวกับจะขาดใจ รู้สึกว่าใจสั่นหวิวกับขนอ่อนที่ลุกชันไปทั้งร่าง แต่เขายังไม่ยอมหยุดมือ จนดวงตาเล็กที่หลับปี๋อยากรู้อยู่ครามครันว่า เขาทำสิ่งใดกับร่างกายบ้าง จึงลืมตาจ้องมองด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ และพลันสบกับสายตาคมที่มองกลับเช่นกัน จนเธอร้องครวญครางออกมาเสียงหวาน
นิ้วแกร่งเร่งเร้าในช่องทางอันคับแคบจนเธอขยับสะโพกขึ้นลงอย่างหวามไหว สุดท้ายเธอก็พบพานความสุขในครั้งแรกของค่ำคืนนี้ด้วยดัชนี้พิฆาตนารีของชวกร
แต่ทว่าเขาไม่หยุดเพียงเท่านั้น จับร่างของเธอช้อนอุ้มยกสะโพกขึ้นแล้วขยับร่างกายให้เข้าชิด จดจ่ออยู่กับจุดอ่อนไหวแล้วโน้มกายแนบจนไม่มีที่ว่าง อกอวบบดเบียดกับแผ่นอกกว้าง จนเสียงหัวใจทั้งคู่เต้นได้ยินเสียงของกันและกัน รวมทั้งเบื้องล่างก็คล้ายกับจะเชื่อมประสานอยู่รอมร่อจากที่ลำท่อนปาดไปมาวนอยู่ปากทางรัก
ใบหน้าคมคายมองสบตาเธอ เขาพร้อมจะกลืนกินร่างเล็กแล้ว แต่เขาต้องใจเย็นสักนิดให้เธอได้ปรับตัวเข้ากับร่างกายใหญ่ของเขาจนชินชาเสียก่อน
วราภัคหยัดร่างกายเข้าหาร่างใหญ่ สองมือเกาะแผ่นหลังไว้แน่นจิกเล็บลงไปจนลึกเมื่อความเจ็บปวดแทรกซึมเข้ามาอย่างเชื่องช้า
‘เขารุกล้ำเข้ามาในกายเธอแล้ว’
“ไม่ต้องกลัวนะครับ...ผมจะทำให้เบาที่สุด”
เสียงอบอุ่นปลอบประโลมแผ่วเบาเมื่อเห็นใบหน้าสวยหวานหวาดหวั่นขึ้น
วราภัคเจ็บปวดจนหลับตาแน่น หางตามีหยดน้ำซึมออกมารับรู้ถึงบางอย่างที่ใหญ่โตค่อย ๆ ชำแรกเข้ามาจนรู้สึกว่าร่างกายตัวเองกำลังจะปริแตกแยกออกจากกัน
เสียงครางหวานในลำคอกับร่างเล็กที่ดิ้นพล่านกระสับกระส่ายอยู่ในอ้อมกอดของเขา จนร่างใหญ่ต้องรัดเธอแน่นขึ้น เสียงกัดฟันกรอดอยู่ที่ข้างใบหูเล็กของเธอทำให้รับรู้ว่าเขาก็เจ็บปวดไม่ต่างจากเธอสักเท่าไหร่นัก
“เข้า...เข้ามาอีก...อื้อ...!”
เมื่อร่างเล็กชินกับขนาดที่ใหญ่โตของเขาแล้ว ร่างกายก็รู้สึกอยากให้มันเข้ามาอีก เข้ามาเยอะ ๆ เข้าให้สุดจนต้องร้องขอเขา แล้วคนอย่างชวกรมีหรือจะไม่ตอบสนองอย่างสุดเหวี่ยง
ร่างกายสาวเคลื่อนไปตามแรงโยกส่ายหน้าไปมาจนผมกระจายเต็มหน้าผาก มือหนาปัดมันออกเพราะต้องการมองใบหน้าสวยของเธอขณะขยับโยก ยิ่งเห็นสีหน้าทรมานอย่างมีความสุขของเธอ เขาก็เริ่มเร่งจังหวะจากเนิบช้าเปลี่ยนเป็นถี่รัวและลึกขึ้นจนเธอเริ่มจุก
สองมือเล็กช่วยกันผลักเขาออก เพราะรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะขาดใจ จิตใจหวิวเหวงเหมือนกำลังขึ้นที่สูงและถูกปล่อยลงมาราวกับกำลังเล่นบันจี้จั๊มป์ แต่เขาก็ยังสอดประสานร่างกายกับเธอไม่หยุดจนเธอร้องขึ้นทำให้เขาต้องลดแรงโหมร่างกายเข้าหา
“อื้ม...เบาหน่อย...เจ็บ...!”
เขาผ่อนแรงแต่กลับไปเล้าโลมร่างเล็กต่อ จากเสียงสะอื้นเมื่อครู่กลับมาครวญครางอย่างร้องขออีกครั้ง แรงเสียดสีที่ไม่แรงมากทำให้เธอเสียวจนต้องโอบกระชับเข้าหาร่างใหญ่และเขาก็เริ่มจังหวะที่ร้อนแรงจนร่างบอบบางสะท้านไหวขึ้นอีกครั้ง
หลังจากเสร็จสมไปหนึ่งครั้ง ก็มีครั้งที่สองสามสี่ตามมาเรื่อย ๆ จนวราภัคไม่รู้แล้วว่าตอนนี้เป็นเวลาเท่าไหร่ แต่รับรู้ว่ากว่าจะจบกิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์แบบวันไนท์ ท้องฟ้าด้านนอกก็เริ่มสว่างจ้า
ร่างที่โหมเรื่องรักหนักหน่วงมาทั้งคืน ลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำชำระล้างสิ่งที่เปรอะเปื้อนร่างกาย แล้วคว้าเอาเสื้อผ้าชุดเมื่อคืนใส่ลวก ๆ ก่อนออกจากห้องเธอหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายใบหน้าที่เป็นครั้งแรกของเธอเก็บไว้ แล้วเดินออกไป
‘ต่อให้ไม่รู้ชื่อแต่จดจำใบหน้าของเขาก็ยังดี’
ร่างที่บอบช้ำจากรักแรก กลับรู้สึกดีขึ้นอย่างบอกไม่ถูก ที่ตัวเองไม่ได้เสียครั้งแรกให้กับผู้ชายเลว ๆ คนนั้นไป
‘ใช่เธอควร Move on’
คนหนึ่งจากไปแต่อีกคนที่หลับอย่างสบายเพราะได้ปลดปล่อยไปหลายน้ำนั้นยังไม่ตื่น จวบจนเที่ยงวันถึงรู้สึกตัว มือหนาควานหาร่างที่ตัวเองรักมาทั้งคืนเพื่อจะรั้งเข้ามากอด แต่ว่า...
“หายไปไหน!!!”
เมื่อควานหาไม่พบดวงตาคมลืมโพล่งทันที เขาดีดตัวขึ้นจากเตียงนอนแล้วก็วิ่งหาเธอรอบห้องในสภาพไม่ต่างจากชีเปลือย แต่กลับไม่พบแม้แต่เงาของสาวที่เร่าร้อนเมื่อคืน มีเพียงห้องน้ำที่ถูกใช้ไปเพราะมันยังเปียกแฉะอยู่
“โธ่เว้ย...จะหาเธอได้จากไหนวะ”
ผู้หญิงที่เขาตกหลุมรักเพียงแค่มีความสัมพันธ์ไม่รู้เกิดขึ้นได้จริงไหม แต่ว่าตอนนี้เหมือนตัวเองโดนฟันแล้วทิ้งอย่างไรชอบกล
เขาพยายามตามหาเธอทุกวิถีทางแต่กลับไม่พบ ราวกับเธอและเขาอยู่คนละโลก แต่สภาพเตียงนอนและคราบอารยธรรมที่ฝังแน่นอยู่บนที่นอนสีขาว มีคราบเลือดจาง ๆ เปื้อนอยู่นั้นบ่งบอกว่าเขาไม่ได้ฝันไป...