วราเดินตามเขาไปอย่างคอตก ภาวนาว่าอย่าให้เขาสงสัยเรื่องของเควินเลย เธอไม่อยากให้ความผิดพลาดของเธอคืนนั้นในอดีตมาผูกมัดเขา
‘เควินไม่ได้เกิดจากความรัก แต่เกิดจากความผิดพลาดต้องการประชดชีวิตเมื่อ 6 ปีก่อนที่ไอ้ผู้ชายหน้าเหี้ยเฮงซวยมันทิ้งเธอไป’
เสียงปิดประตูรถทำให้คนที่นั่งฝั่งคนขับโน้มใบหน้าเข้ามาหาแล้วก็คาดเข็มขัดให้ วราภัคหดหน้าจนชิดกับเบาะอีกนิดเดียวก็จะสิงแล้ว ความวูบไหวในดวงตายามมองการกระทำของเขาทำให้เธอเริ่มกลัวใจตัวเอง
“พ่อของเควินเป็นใคร”
คำถามที่เปล่งออกมาจากปากเขา เริ่มทำให้เธอกังวล เขาต้องรู้แน่ ๆ ว่าเควินต้องเป็นลูกของเขา แต่ทว่าเธอจะไม่ยอมบอกหรอก เมื่อก่อนไม่เคยมีเขาเราก็อยู่กันได้ ตอนนี้ก็ควรที่จะให้มันเป็นแบบเดิม
“เควินไม่มีพ่อ ฉันเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว”
เธอกลั้นใจตอบออกไป ทั้งที่รู้ว่าเขาจะไม่เชื่อก็ตาม แต่เธอมีทางเลือกอื่นอีกเหรอ อีกอย่างดูจากรถที่ขับแล้วฐานะของเขาย่อมไม่ธรรมดา ทั้งคอนโดหรูใจกลางเมืองบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาก็เข้าขั้นเศรษฐีคนหนึ่งของเมืองไทย แล้วเมื่อหันกลับมามองตัวเองล้วนไม่คู่ควรกับเขาเลยสักนิด
และสิ่งที่กลัวถัดมาคือ กลัวเขามาทวงลูกชายจากอกเธอไป หากเป็นแบบนั้นเธอยอมตายดีกว่าจะแยกจากลูกสุดที่รักของเธอ
“ถ้าไม่มีพ่อแล้วลูกจะเกิดมาได้ยังไง” เสียงที่ดังขึ้นจนเรียกได้ว่าคำรามด้วยความโกรธ ทำให้วรารู้สึกหวาดกลัว หญิงสาวปลดเข็มขัดต้องการจะเปิดประตูหนีแต่ทว่าเขาก็กด
ล็อกมันทำให้ไม่อาจจะเปิดออกจากรถไปได้
“คะ...คุณจะทำอะไร...ฉันต้องไปทำงานนะ” หญิงสาวกล่าวเสียงสั่น ปิดบังความกลัวไว้ไม่มิด ทั้งสีหน้าและแววตาทำให้คนใจร้อนอย่างชวกรพยายามข่มใจลง ผ่อนคลายลมหายใจให้เป็นปกติ
“ทำที่ไหน”
เสียงที่ไม่เข้มจนเกินไปเอ่ยออกมา และอยากรู้ด้วยว่าเธออยู่ที่ไหน เขาต้องการเคลียร์ใจเรื่องเมื่อ 6 ปีก่อน และค่อนข้างมั่นใจว่าเควินต้องเป็นลูกของตน เพียงแต่ต้องการการยืนยันจากปากของเธอเอง
‘มองหน้าลูกชายเหมือนรูปเขาตอนเด็กไม่มีผิด แบบนี้คุณขวัญนรี มารดาที่อยากได้หลานมาเห็นต้องเชื่อมั่นร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเป็นลูกชายของเขา’
“เอ่อ...” วราภัคไม่กล้าเอ่ยบอกเขา เธอมือไม้สั่น ไม่คิดว่าการพบเขาครั้งนี้จะทำให้เธอลำบากใจจนอยากร้องไห้
เธอมีเพศสัมพันธ์กับเขาโดยไม่ได้ป้องกัน เพียงเพราะอยากสัมผัสเนื้อส่วนนั้นถนัดถนี่ และอยากลองอะไรใหม่ที่ผู้ชายหลายคนปรารถนาอยากเป็นครั้งแรกของหญิงสาว แต่ไม่คิดว่าเรื่องราวจะเลยเถิดจนมีโซ่คล้องคอไว้เป็นลูกชายสุดที่รัก แล้วก็หลังตื่นมายังแอบหนีออกมาโดยไม่บอก นั่นคงทำให้เขาเจ็บใจเธอกระมัง
เธอเจ็บปวดที่อกหัก แล้วก็ปล่อยตัวเองจนท้องไม่มีพ่อ แม้รู้ว่าชายคนนั้นเป็นใคร เพราะในมือถือเก็บซ่อนรูปชายคนนี้ไว้อย่างมิดชิด นี่ก็ผ่านมา 6 ปี จนไม่คิดว่าโลกของเราจะหมุนผ่านมาเจอกันอีกครั้ง
“ตอบผมมา”
เอ่อ...บริษัทแห่งหนึ่งแถว ๆ นี้ค่ะ
“ไม่ใช่แค่ที่ทำงาน เรื่องพ่อของเควินด้วย”
“ฉันไปวันไนท์แล้วก็จำไม่ได้ว่าใครเพราะเมา” เธอตอบไปแค่นั้นไม่กล้าตอบอย่างอื่นอีก ขอให้เขาคิดว่าเธอเองเป็นผู้หญิงมั่ว จนเขาไม่อยากจะเกี่ยวข้องก็แล้วกัน
ขอให้เราจบแค่นั้นเถอะ!
“เมื่อไหร่”
“หกปีก่อน”
“กว้างไป”
“...”
“เอ่อ...ฉันก็จำไม่ได้แล้ว” ทั้งที่จำวันนั้นได้ดีเธอก็ไม่อยากบอกว่าจำได้ ขอให้เป็นเพียงความทรงจำของเธอเพียงคนเดียว และไม่คิดว่าเขาจะจำครั้งแรกได้
“ลูกต้องการพ่อคุณรู้ใช่ไหม”
“ค่ะทราบ” หญิงสาวตอบเสียงค่อยลง ความรู้สึกผิดแล่นเข้ามาในอก
‘ทำไมจะไม่รู้ล่ะว่าลูกต้องการพ่อ เธอเกิดมาในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์เช่นกัน แม่เลี้ยงเธอมาคนเดียว และสุดท้ายก็จากเธอไป เหลือเพียงเธอคนเดียวที่ไร้ญาติขาดมิตรต่อสู้มาเพียงลำพัง แต่ชะตาก็ทำให้เธอมีลูกโดยที่ไม่พร้อมเหมือนกัน’
“แล้ว?”
วราไม่รู้จะทำหน้าอย่างไร ไม่เข้าใจที่เขาพูดเลยสักนิดเดียว แล้วจะอะไรอีกล่ะ
(v_v)
“เควินลูกผมหรือเปล่า”
เขาตัดสินใจถามคำถามนี้ออกไปในที่สุด และรอคอยคำตอบอย่างใจเต้นระรัว แค่เธอเอ่ยตอบว่าเด็กชายคนนั้นเป็นลูกเขาก็พร้อมรับผิดชอบทั้งเธอและลูกชาย
หญิงสาวตกใจ เมื่อเขาถามตรง ๆ แบบนี้ เขาไม่น่าจะรู้เรื่องของเธอเสียหน่อยทำไมถึงสงสัย ได้
“มะ...มะ...ไม่...”
ใช่เธอเลือกโกหกเขา ไม่รู้ว่าที่จริงแล้วเขาต้องการสิ่งใดกันแน่ แต่เธอไม่ยอมหากเขาพรากลูกไปจากอก
“ไม่อะไรบอกผม” สีหน้าหวั่นกลัวของเธอทำให้เขาเริ่มเอะใจแต่จะคาดคั้นก็คงไม่ได้ตอนนี้ เขาต้องหาวิธีอย่างอื่น ที่ดีกว่าการบังคับขู่เข็ญในช่วงเวลาเร่งรีบเช่นนี้
“ไม่ใช่”
“ถ้าคุณโกหกผม รู้ใช่ไหมว่าเจอกับอะไร ยังจำคืนอันเร่าร้อนของเราได้หรือเปล่า” ชวกร ทบทวนความทรงจำ ก่อนจะออกรถไป แน่นอนว่าเขาจะไปส่งเธอที่ทำงานและจะมารับในตอนเย็นอีกด้วย
“ปะ...เปล่านะ...คือ...คือว่า” วราภัคผู้ไม่เคยกลัวผู้ชายหน้าไหน ก็ทั้งฟาดฟันกับผจก. สุดเลวที่เคยหลอกให้รักมาตลอดหลายปี ทั้งยังทำเจ้าชู้ใส่เธออยู่เป็นประจำ แต่ที่ต้องทนเพราะว่าหากลาออกไปลูกจะเอาอะไรกิน
แต่เมื่อเจอผู้ชายที่เป็นครั้งแรกของเธอ หัวใจที่เคยเข้มแข็งกลับอ่อนยวบไปในบัดดล ไม่รู้ทำไมเธอไม่กล้าที่จะทำตัวเข้มแข็งต่อหน้าเขานะ
“ไม่ต้องรีบตอบ เย็นนี้ผมจะไปรับปานดาวและ
เควินแล้วจะมารอรับคุณที่บริษัท ห้ามหนีไปไหนเพราะผมตามคุณเจอแน่” เขายกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายบัตรพนักงานของเธอ ที่มีทั้งชื่อและนามสกุล ส่วนบริษัทนี้หากเขาอยากได้ข้อมูลก็ไม่ยากเย็นอะไร
“ไปไหน...วันนี้วันศุกร์ฉันต้องเตรียมของไว้ทำขายพรุ่งนี้” ใช่เธอเปิดร้านข้าวเดลิเวอรี่ แล้วก็ต้องเตรียมของสด
“จะซื้ออะไรก็จดมาส่งไลน์ให้ผม วันนี้คุณแม่นัดกินข้าวผมอยากพาเด็ก ๆ ไปทานด้วย ห้ามปฏิเสธไม่เช่นนั้น...”
“ไม่รบกวนหรอกค่ะ คุณทานกับปานดาวเถอะ อีกอย่างเราก็ไม่มี contact”