ชายหนุ่มพยายามใจเย็นให้มาก ทั้งที่ตัวเองร้อนไปทั้งอก เขาเถียงไม่ออกว่าไม่ใช่ทุกคนจะเจอคนที่ดี
ใช่! เขาไม่ใช่คนดีมาก แต่เขาก็จะพยายามทำให้มันดีเพื่อเธอกับลูกยังไงล่ะ
“คุณรู้ไหม...จากคืนนั้นคุณทำผมบ้า ผมไปหาคุณทุกวันที่ผับเดิม พยายามตามหาคุณมาตลอด แต่ก็ไม่เคยพบคุณแม้แต่เงา ผมอยากคุยอยากเริ่มต้นกับใครสักคนแต่ว่า...คุณก็ไม่อยู่แล้ว จนมาวันนี้วรา...เราลองคบกันได้ไหม ค่อย ๆ ศึกษากันไป หากคุณคิดว่ามันไม่ใช่จริง ๆ เราจะเป็นแค่พ่อและแม่เลี้ยงเขาให้เติบโตขึ้นมาอย่างดี ผมทนไม่ได้ที่จะเห็นคุณลำบาก”
เขาอยู่สบายแต่ลูกชายต้องอยู่อย่างอดอยากเขาทนไม่ได้จริง ๆ เขาจะกินอิ่มได้ยังไงในเมื่อไม่รู้ว่าลูกจะมีอะไรกินไหม ลูกจะมีของเล่นเหมือนเพื่อนหรือเปล่า ลูกจะต้องนั่งรถเมล์มาโรงเรียนทั้งที่เขานั่งรถหรูแอร์เย็นฉ่ำ เขาจะทำแบบนั้นได้ยังไง
วราภัคกลั้นก้อนสะอื้นเมื่อเขาพูดออกมาอย่างนี้ เธอเจ็บกับความรักจนไม่กล้าเปิดใจให้ใครอีกด้วยซ้ำ
“คุณก็แค่อยากได้ในร่างกายของฉันค่ะ เราไม่เคยมีความสัมพันธ์อื่น เราแค่เพียงพบกันชั่วคราวแล้วก็จากกัน คุณอาจจะเจอผู้หญิงมาก แค่รู้ว่าได้ครั้งแรกจากฉันไปคุณก็เลยตื่นเต้น แต่คุณเชื่อฉันเถอะอย่ารู้สึกผิดใด ๆ ทุกอย่างฉันผิดเองที่เลือกประชดชีวิตด้วยวิธีนั้น ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันจะเลี้ยงเขาอย่างดี”
“ผมก็จะเลี้ยงเขาเหมือนกัน” เขาตบไฟเลี้ยวเข้าไปจอดในคอนโดที่เธอบอก คอนโดนี้เป็นคนโดที่ค่อนข้างมีระดับเรื่องความปลอดภัยจึงไม่น่าห่วง แต่เขาห่วงก็แต่ค่าเช่า
“ค่าเช่าที่นี่เดือนละเท่าไหร่”
“ของเพื่อนค่ะ ให้เช่าแค่เดือนละ 3000 เป็นค่าดูแลส่วนกลาง”
“เพื่อนผู้หญิงหรือผู้ชาย” เขาไม่รู้ว่าทำไมต้องถาม แต่ความหึงหวงมันคุกรุ่นทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มคบกันด้วยซ้ำ
“ผู้ชาย”
“ย้ายออกเลย ผมจะหาที่อยู่ใหม่ให้คุณ”
“คุณ!”
วราภัคไม่อยากเจอเขา เพื่อให้เขามาบงการชีวิตนะ เธอเคยอยู่แบบตามมีตามเกิดของเธอก็ดีอยู่แล้ว ส่วนเขาก็เข้ามาจุ้นจ้านกับชีวิตของเธอเกินไป
“ผมเป็นพ่อ”
เขายกเหตุผลนี้มาอ้าง
วราภัคนิ่งเงียบ เขาพูดถูกเขาเป็นพ่อ แต่ทว่าจะมาเปลี่ยนวิถีชีวิตเธอกับลูกไม่ได้ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน
“เพื่อนฉันเป็นผู้ชายที่มีสามี แล้วก็ไม่ต้องห่วงเขาก็เอ็นดูลูกฉัน เรื่องความปลอดภัยคุณวางใจเถอะ” เธอคิดว่าเขาห่วงกลัวจะมีคนทำอันตรายกับลูกเสียมากกว่า แต่หารู้ไม่ว่าอีกคนนั้นหึง แต่เมื่อเธออธิบายยาวขึ้น จากใบหน้าที่ตึงเครียดจนคิ้วผูกโบก็คลายลงกลายเป็นคลี่ยิ้มออกเต็มใบหน้า
“ก็ไม่บอกตั้งแต่ทีแรก” เขาบ่นอุบอิบ แล้วก็จัดการหอบหิ้วของที่ซื้อมาเดินตามเธอที่อุ้มลูกไปก่อน เขาชั่งใจแล้วว่าจะอุ้มลูกหรือให้เธออุ้มดี แต่ของพวกนี้มีทั้งข้าวสารอาหารสดเชื่อเถอะว่าของพวกนี้ถือยากกว่าอุ้มลูก
“คุณวางไว้ที่ล็อบบี้ก็ได้ไม่ต้องขึ้นมาหรอก”
“เดินนำไปเถอะ”
มาขนาดนี้ไม่รู้ว่าเมียอยู่ห้องไหน กลับไปแม่คงถือไม้หน้าสามรอและสมน้ำหน้ากับความโง่เขลาของเขา นี่เชื่อได้เลยว่าแม่ยังไม่หลับเพราะจะรอคุยเรื่องของเธอกับลูกเป็นแน่
วราภัคอ่อนใจ สุดท้ายเขาก็เข้ามาในห้องของเธอจนได้ แล้วคนที่เพิ่งพบกันก็ทำตัวเหมือนโจรสำรวจโน่นนี่ไปทั่วจนเธอเริ่มกังวลใจ
“ไม่ใช่คุณจะมายกเค้าบ้านฉันนะ”
“ผมดูความปลอดภัยให้คุณต่างหากล่ะ” เขาเชื่อเธอเลยว่าคิดเข้าไปได้อย่างไรว่าเขาจะมาปล้นเธอ แต่ถ้าเป็นหัวใจของเธอละก็เขาปล้นแน่นอน
“ต้องเลี้ยงลูก แล้วก็ต้องทำงานลำบากนะ” เขาเกริ่น หวังให้เธอใจอ่อนคิดถึงอนาคต
“ลำบากแค่ไหนก็อยู่กันได้”
“ผมเต็มใจนะบอกเลย”
“ฉันไม่เต็มใจค่ะ”
“…”
คำตอบของเธอทำเขาเศร้า เธอไม่คิดจะเปิดใจให้คนเลวที่กลับตัวอย่างเขาเลยหรือไง เพราะเขามันหื่นอยากกินเธอจนตัวสั่น ขนาดเธอเมาก็ยังไม่รู้จักผิดชอบ เอาครั้งแรกของเธอไปครองจนทำให้พลัดพรากจากลูกมาหลายปี
“พรุ่งนี้ผมจะมาหา”
“ไม่ต้องมาหรอกค่ะ ฉันยุ่ง”
“ผมจะมาหาลูกกับคุณ”
“อย่าดื้อได้ไหมคุณ เควินยังไม่ดื้อแบบนี้เลย”
คุณขวัญนรีว่าไว้ไม่มีผิด เขามันดื้อจนยากจะรับมือ แล้วเธอก็คิดแค่เรื่องปากท้องไม่สนใจอยากมีความรักอะไรทั้งนั้น เธอเลยวัยที่อยากมีโมเมนต์ผู้ชายมาจีบ มาอ้อน แล้วขอแต่งงานแล้ว เพราะเธอข้ามขั้นไปมีลูกไปแล้ว
“แม่ผมก็บอกไม่ใช่เหรอ เด็กดื้ออย่างผมต้องให้คุณปราบ” เขายักคิ้วให้กับเธอแล้วก็เดินไปหาลูกชายในห้องนอนทั้งสำรวจด้วยว่ามีเสื้อผู้ชายอื่นอีกหรือเปล่า แต่ได้รู้สมใจแล้วก็หอมแก้มลูกชายก่อนจะออกจากห้องมาเจอคนที่หน้าหงิกกำลังจัดของเข้าตู้แช่กับเตรียมของไว้ขายพรุ่งนี้
“คุณทำแบบนี้ทุกวันหยุดเหรอ” เขาถามขณะที่นั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามมองเธอหั่นผักหั่นเนื้อสัตว์
“ไม่ทำแล้วฉันจะเอาอะไรกินล่ะ เงินเดือนแค่นั้น แถมยังโดนแกล้งไม่ขึ้นเงินเดือนมาหลายปีแล้ว” หญิงสาวเผลอบ่นเรื่องส่วนตัวกับเขาไปโดยไม่รู้ตัว
“ลาออกมาผมเลี้ยงเอง”
“บ้าสิเราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”
“จะทบทวนเรื่องคืนนั้นให้ชัดเจนก็ได้นะ เควินอยากมีน้องไม่ใช่เหรอ ผมก็อยากมีลูกสาวน่ารักเหมือนปานดาว เรามาทำกันเลยไหมจะได้ทัน”