กชณิชาเข้ามาอยู่คอนโดมิเนียมของธามนิธิได้สองวันแล้วหญิงสาวตื่นนอนแต่เช้านั่งรถเมล์ไปลงหอพักของตนเองจากนั้นเปลี่ยนชุดก่อนไปทำงานจากทีแรกคิดไว้ว่าจะเอาชุดทำงานไปไว้ที่บริษัทและเปลี่ยนที่นั่นแต่ก็ขี้เกียจจะตอบคำถามเพื่อนร่วมงานแม้จะ เสียเวลาไปบ้างแต่เพื่อรักษาความลับแล้วกชณิชาก็ยินดีจะทำ
วันนี้หลังจากเลิกงานแล้วสุจิตราก็เรียกเธอไปพบทั้งสองคนเข้าไปนั่งคุยกันในห้องประชุมเล็กเหมือนอย่างเคย
“เป็นยังไงบ้างเกรซไปอยู่ที่คอนโดแล้วการเดินทางมาทำงานลำบากไหม”
“ไม่หรอกค่ะ”
“เกรซเอาชุดมาเปลี่ยนที่ทำงานหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะพี่จี๊ดเกรซแวะเปลี่ยนที่หอก่อนมาทำงานค่ะ”
“ทำไมไม่เอาชุดมาเก็บไว้ที่ทำงานก่อนล่ะ”
“เกรซกลัวว่าเอาชุดมาเปลี่ยนที่ทำงานเวลามีคนอื่นถามแล้วจะมีพิรุธค่ะ”
“ลำบากไหม”
“ไม่หรอกค่ะเพราะยังไงจากคอนโดที่มาที่บริษัทมันก็ต้องผ่านหอพักของเกรซอยู่แล้วค่ะ ส่วนตอนเย็นก็ไปเปลี่ยนชุดที่หอก่อนแล้วค่อยไปที่คอนโดค่ะ ว่าแต่เจ้านายคุณจี๊ดยังไม่กลับมาเร็วๆ นี้ใช่ไหมคะ”
“น่าจะอีกสักอาทิตย์หนึ่งแหละ”
“ถ้าอย่างนั้นคืนนี้เกรซขอค้างที่หอพักของตัวเองก่อนได้ไหมคะ เพราะสองวันที่ผ่านมาก็กะเวลาถูกแล้วว่าจะต้องออกจากคอนโดกี่โมงถึงจะไม่มาทำงานสาย”
“ได้สิเจ้านายน่าจะมาถึงวันศุกร์ ถ้าวันศุกร์เลิกงานแล้วเกรซเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็กลับไปที่คอนโดนะ”
“เขาจะมาที่คอนโดเลยไหมคะ”
“พี่ก็ไม่แน่ใจหรอกว่าเขาจะเข้าไปหาเกรซวันไหน พี่ให้เบอร์โทรกลับไลน์ของเกรซไปแล้วนะคุณธามได้ติดต่อมาหรือเปล่า”
“ไม่ค่ะ”
“ไม่ติดต่อมาถือเป็นเรื่องปกติเพราะเจ้านายของพี่น่ะไม่ชอบโทรไม่ชอบไลน์หาใคร เขาจะติดต่อก็ต่อเมื่อเขาอยากให้เราไปหาก็แค่นั้นแหละ เวลาเขาโทรมาเกรซก็ระวังหน่อยก็แล้วกันอย่าให้ใครรู้ว่ากำลังคุยอยู่กับเขา”
“ค่ะพี่จี๊ดเกรซจะระวังตัวให้ดีที่สุด”
“เอาล่ะวันนี้พี่จะกลับแล้วให้พี่ไปส่งที่หอพักไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่จี๊ดเกรซเกรงใจ”
“จะเกรงใจทำไมล่ะพี่เองก็อยากจะเห็นด้วยว่าหอพักเล่นอยู่ตรงไหนเรามีธุระต้องติดต่อกันบ้าง”
“ได้ค่ะ”
“รอพี่เก็บของสักห้านาทีนะ”
สุจิตราขับรถมายังหอพักเล็กๆ ของกชณิชา
“ขอบคุณนะคะพี่จี๊ดที่มาส่ง”
“เกรซพักอยู่ห้องไหน”
“ชั้นสามห้องที่สี่ค่ะพี่จี๊ดจะขึ้นไปกินน้ำก่อนไหม”
“ไม่เป็นไรจ้ะพี่ก็แค่ถามไว้เผื่อวันไหนติดต่อเกรซไม่ได้จะได้มาตามถูกพี่ไปก่อนนะ”
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะพี่จี๊ด”
เมื่อสุจิตราไปแล้วกชณิชาก็เดินกลับขึ้นมาบนห้องของตัวเองหญิงสาวล้มตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยวันนี้ที่บริษัทงานค่อนข้างยุ่งมากๆ และเธอเดินไปเดินมาจนแทบไม่ได้นั่งพักเลย เธอนอนอยู่บนเตียงจนเกือบจะเผลอหลับเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
“สวัสดีค่ะแม่”
“สวัสดีจ้ะลูกเลิกงานแล้วใช่ไหม”
“หนูเลิกงานแล้วค่ะ แม่ล่ะคะ”
“แม่ก็เลิกงานแล้ว”
“แม่คะหอพักของแม่ดีไหมหนูยังไม่เคยไปดูเลย”
“ดีจ้ะลูกมีห้องน้ำในตัวห้องก็ไม่ได้แคบเท่าไหร่ ด้านล่างหอพักก็มีเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญให้” กนกวรรณอธิบายให้ลูกสาวฟังเพื่อที่อีกฝ่ายจะได้หายห่วง
“แม่คะแล้วงานใหม่เป็นยังไงบ้าง”
“ก็ดีจ้ะลูกถึงแม้ลักษณะงานจะต่างกันออกไปบ้างแต่แม่ก็พยายามปรับตัว”
“แม่คะถ้าเราเก็บเงินได้สักก้อนเราไปซื้อบ้านหลังเล็กๆ อยู่ด้วยกันดีไหม”
“โธ่ลูกหนูเพิ่งกู้เงินมาจากบริษัทตั้งสองแสน แล้วยังจะคิดเก็บเงินสร้างบ้านอีกเหรอลูก แม่ว่าหนูใช้หนี้ให้หมดก่อนดีกว่า แม่อยู่หอพักก็ไม่ได้ลำบากอะไร อีกอย่างหอพักก็อยู่ติดกับโรงแรมเดินไปทำงานไม่ถึงห้านาทีเองนะ เดือนหน้าแม่ก็จะได้เงินเดือนแบบเต็มเดือนแม่จะช่วยหนูใช้หนี้ด้วยนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่หนูให้ฝ่ายบัญชีหักจากเงินเดือนแล้ว” กชณิชาบอกมารดาว่าเงินที่ได้มาใช้หนี้นั้นเธอกู้ยืมมาจากบริษัท
“แต่แม่อยากช่วย”
“หนูว่าแม่เก็บไว้ก่อนดีกว่าค่ะ เผื่อมีความจำเป็นต้องใช้ ส่วนเรื่องบ้านหนูก็คงไม่ซื้อเร็วๆ นี้หรอกค่ะ หนูหมายถึงในอนาคต ถ้าแม่ทำงานไม่ไหวแล้วแม่จะได้อยู่บ้านไงคะ”
“เอาให้มันถึงตอนนั้นก่อนเถอะนะลูก ตอนนี้แม่ยังมีแรงทำงาน การมาเป็นแม่บ้านของโรงแรมมันก็ดีเหมือนกันนะลูกถ้าเจอแขกฝรั่งตอนที่เรากำลังจะไปทำห้องให้เขาเขาก็ให้ทิปแม่ด้วยวันก่อนแม่ได้ทิปจากครอบครัวฝรั่งตั้งหนึ่งพันเลยนะลูก”
“ได้เยอะจังเลยค่ะ แม่เหนื่อยไหมคะ” กชณิชาถามด้วยความเป็นห่วงแต่ก่อนมารดาของเธอทำงานเป็นแม่บ้านที่เดียวกับพ่อเลี้ยงแต่พอหย่ากันเธอก็ลาออกและมาทำงานเป็นแม่บ้านที่โรงแรมแห่งหนึ่ง
“เหนื่อยสิลูกแต่พอเรากลับมาที่ห้องได้นอนพักมันก็หายเหนื่อย ถ้าแม่รู้ว่าหย่ากับเขาแล้วชีวิตจะมีความสบายใจมากขนาดนี้แม่ก็คงหย่าตั้งนานแล้ว”
“แล้วเขาได้กลับมายุ่งวุ่นวายอะไรกับแม่อีกมั้ยคะ”
“ไม่จ้ะแม่ไม่ได้บอกเขาว่าแม่ย้ายไปอยู่ที่ไหนแล้ว แต่แม่ก็ได้ข่าวว่าตอนนี้เขากำลังไปติดพันผู้หญิงคนใหม่อยู่ แม่สงสารผู้หญิงคนนั้นจริงๆ ไม่รู้ทำเวรทำกรรมอะไรมาถึงจะถึงได้มาเจอผู้ชายเลวๆ แบบนั้น”
“แม่โชคดีมากที่ได้หลุดพ้น”
“ขอบคุณมากนะเกรซ ขอบคุณที่ทำให้แม่ไม่ต้องอยู่อย่างทรมานและแม่ขอโทษนะที่ทำให้หนูต้องลำบาก”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูไม่ลำบากอะไรเลย เกรซดีใจที่เห็นแม่ได้หลุดพ้นจากผู้ชายคนนั้นสักที”
“แม่ก็ดีใจจ้ะเกรซ หนูจำไว้นะลูกถ้าจะแต่งงานจะมีครอบครัวหรือมีแฟนดูให้ดีว่าเขาเป็นคนนิสัยยังไง ถ้าเขามีนิสัยขี้โมโหอารมณ์ร้ายห่างได้ก็ให้ห่างนะเกรซ เพราะคนเราเวลาโมโหขึ้นมาเขาจะควบคุมอารมณ์อะไรไม่ได้เลยแล้วคนที่เจ็บตัวก็จะต้องเป็นเกรซแล้วลูกสาวของแม่เข้าไปทำงานในบริษัทปีกว่าแล้วมีเพื่อนร่วมงานคนไหนเข้ามาคุยหรือเข้ามาจีบหรือเปล่า”
“แม่ขาหนูอยู่แผนกธุรการนะคะ แผนกนี้มีแต่ผู้หญิงค่ะ”
“แล้วแผนกอื่นล่ะไม่ได้คุยกันเลยเหรอ”
“แผนกอื่นก็พอมีคุยบ้างค่ะ แต่เกรซคิดว่าตอนนี้จะตั้งใจทำงานก่อนค่ะแม่”
“อย่าลืมนะลูกถ้าจะมีแฟนอย่าใช้แค่หัวใจเพียงอย่างเดียว”
“ค่ะแม่”