ธามนิธิลงจากเครื่องบินในเวลาตีหนึ่งของวันเสาร์ชายหนุ่มเรียกรถให้ไปส่งที่คอนโดมิเนียมของตนเองก่อนเพราะคิดว่าหากจะไปหากชณิชาในเวลานี้มันก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่เพราะมันเป็นเวลาดึกมากแล้ว
เขาเอากระเป๋าเสื้อผ้าเก็บจากนั้นอาบน้ำและเตรียมเข้านอนแต่ไม่ว่าจะพยายามข่มตายังไงก็ยังคงนอนไม่หลับ ธามนิธิไม่รู้ว่าเป็นเพราะจากเจ็ทแลคหรือเพราะใจมันเอาแต่คิดถึงเสียงหวานใสของหญิงสาวที่คุยกับเขาเมื่อวานก่อน
เมื่อคิดว่าฝืนยังไงก็คงนอนไม่หลับแน่ชายหนุ่มก็ตัดสินใจคว้ากระเป๋าสตางค์กับกุญแจรถขับรถตรงไปยังคอนโดมิเนียมของตนเองอีกแห่งหนึ่งซึ่งมีไว้ให้กับผู้หญิงที่มารับงาน
ระยะทางระหว่างสองคนโดยใช้เวลาเดินทางไม่นานเมื่อมาถึงใช้กับก็เปิดประตูเข้าไปในห้องอย่างเงียบที่สุด
ตอนนี้ด้านในห้องมืดสนิทแต่เขาก็อาศัยความคุ้นเคยเดินตรงไปยังห้องนอนได้ไม่ยากนักและนับว่าโชคดีมากที่กชณิชาไม่ได้ล็อกประตู
ธามนิธิเปิดเข้าไปด้านในและยืนมองร่างที่นอนตะแคงขดอยู่บนเตียงนอนแล้วยิ้มที่มุมปาก ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาอดทนรอคอยมานานเกือบสามสัปดาห์มันนานกว่าทุกคนและเขาคิดว่าหลังจากนี้จะไม่ปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์อีกต่อไป
ชายหนุ่มทิ้งตัวลงบนที่นอนเบาๆ ขยับเข้าไปจนชิดแล้วใช้แขนกอดเอวเธอจากทางด้านหลัง จมูกโด่งกดจูบไปบนซอกคอทางด้านหลังเพียงแค่ได้กลิ่นกายหอมของหญิงสาวชายหนุ่มก็รู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว
กชณิชายกมือปัดป้องเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรมาไต่ที่บริเวณลำคอเธอขยับหนีแต่แขนของเขาก็กอดไว้แน่นขึ้น
“เกรซจะนอนขี้เซาไปถึงไหนตื่นมาได้แล้ว”
“ไม่เอาไม่ตื่นเกรซง่วง”
หญิงสาวพูดออกมาทั้งที่ตายังปิดอยู่คำตอบก่อนจะตกใจและขยับตัวหนีขยับตัวออกจากอ้อมกอดเมื่อนึกได้ว่าตนเองอยู่คนเดียวในห้องนี้เพียงคนเดียว
“คุณเป็นใครเข้ามาได้ยังไง” หญิงสาวถามพลางเอื้อมเปิดไฟที่หัวเตียงเมื่อเห็นว่าคนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของเตียงนั้นคือธามนิธิชายหนุ่มผู้เป็นนายจ้างซึ่งเธอยังไม่เคยเจอเขาเลยสักครัั้ง
“ผมเอง ทำไมต้องตกใจเหมือนกันเห็นผีด้วยล่ะเกรซ สวัสดีนะเราได้เจอกันสักที” ธามนิธิหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นสีหน้าตื่นตกใจของกชณิชา
“สวัสดีค่ะคุณธาม”
“ดูเหมือนเกรซจะแปลกใจที่เห็นผมนะ”
“ก็คุณธามบอกเกรซว่าคุณจะมาวันเสาร์นี่คะ”
“ตอนนี้ก็ตีสามแล้วมันก็เข้าวันใหม่แล้วนะเกรซ”
“เหรอคะเกรซลืมดูเวลาคุณธามมาถึงนานหรือยังคะ”
“ผมมาถึงตั้งแต่ตีหนึ่งแล้วตอนแรกก็คิดว่าจะค้างที่คอนโดของตัวเองแต่พอมาคิดดูอีกทีก็อยากจะมาพิสูจน์อะไรบางอย่างที่เคยคุยกันไว้”
“แต่นี่มันดึกแล้วนะคะคุณธาม คุณเดินทางมาเหนื่อยๆ รีบนอนก่อนดีกว่าไหม”
“แต่ผมไม่เหนื่อยเลยนะเพราะตอนอยู่บนเครื่องผมก็หลับมาตลอด”
“แต่เกรซง่วงนี่คะ ตีสามแล้วมีอะไรค่อยคุยกันตอนเช้าดีไหมคะ”
“พรุ่งนี้วันเสาร์นี่เกรซคงไม่ต้องไปทำงานเพราะฉะนั้นคืนนี้ก็ทำงานให้ผมหน่อยได้ไหม ผมไม่อยากเสียเวลานะ”
“คุณธามจะไม่ให้เวลาเกรซเตรียมตัวหน่อยเหรอคะ”
“ผมว่าผมให้เวลาเกรซเตรียมตัวมานานมากพอแล้วนะและผมไม่อยากเสียเวลาอีก อย่าลืมสัญญาของเรานะถ้าเกรซไม่ทำตามต้องเสียค่าปรับสิบเท่าเลยนะ”
ชายหนุ่มพูดก่อนที่จะขยับเข้ามาใกล้เขาจับหญิงสาวพลิกตัวลงบนที่นอนสองมึอประครองใบหน้าของเธออย่างทะนุถนอม
“ไม่ต้องกลัวหรอกนะเกรซมันเป็นเรื่องธรรมชาติของผู้หญิงผู้ชาย”
“คุณธามคะเกรซรู้ว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติและเกรซก็ตัดสินใจที่จะมาทำงานนี้เอง”
“แล้วยังกลัวอะไรอยู่” เขาถามเมื่อเห็นสีหน้าและแววตาตื่นตระหนกของหญิงสาวผ่านแสงไฟจากโคมไฟหัวเตียง
ตอนเห็นเธอจากรูปถ่ายก็คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากแล้วแต่พอได้อยู่ใกล้ก็รู้สึกว่านอกจากเธอจะสวยน่ารักและดูมีเสน่ห์มาก ใบหน้าสวยสีชมพูระเรื่อยิ่งต้องแสงไฟแบบนี้ก็ยิ่งสวยสะดุดตามากขึ้นไป อีกดวงตากลมโตมีแววครุ่นคิดอยู่ข้างในมันยิ่งดึงดูดให้เขาอยากจะทำให้เธอรู้ว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นตรงหน้านี้มันไม่มีอะไรน่ากลัวเลย
“คุณธามคะถ้าเกรซทำให้คุณไม่พอใจคุณจะยกเลิกสัญญาหรือเปล่า” หญิงสาวเป็นกังวลว่าถ้าหากตัวเองไม่ถูกใจชายหนุ่มแล้วเขาจะยกเลิกสัญญาก่อนสามเดือน
“ผมไม่เคยยกเลิกสัญญาของใครก่อนสามเดือนหรอกนะสัญญาก็คือสัญญาถึงเกรซจะทำให้ผมไม่ถูกใจแต่ผมเชื่อว่าของแบบนี้มันเรียนรู้กันได้อยู่ที่เกรซพร้อมจะเรียนรู้จากผมหรือเปล่า” เขาถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“ค่ะคุณธามเกรซพร้อมจะเรียนรู้และทำให้คุณธามมีความสุขที่สุด คุณจะไม่เสียเงินเปล่าประโยชน์อย่างแน่นอน” หญิงสาวจำคำพูดมาจากพี่พลอยใส
“พูดจาน่ารักแบบนี้ผมคงต้องพิสูจน์แล้วใช่ไหม”
“เดี๋ยวค่ะคุณธาม”
“อะไรอีกล่ะ”
“จะไม่ปิดไฟหน่อยเหรอคะ”
“แค่นี้ผมก็ว่าห้องมันมืดเกินไปแล้วนะ ผมอยากเห็นว่าคุณว่ารูปร่างของคุณจะสวยเหมือนกับหน้าตาของคุณหรือเปล่า”
“คุณธามแต่เกรซอายนี่คะ”
“ไม่เห็นจะต้องอายเลยฝึกไว้ให้ชินสิ ถ้าทำให้ผมพอใจอาจจะได้โบนัสอีกก้อนโตเลยนะ ในเมื่อตัดสินใจรับงานแล้วผมว่าเกรซควรทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด คุณจี๊ดบอกว่าเกรซจะรับงานแค่ผมคนเดียวใช่มั้ย”
“ค่ะครั้งนี้เกรซจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ”
“ผมก็ไม่เคยจ่ายเงินใครล่วงหน้าก่อนเลย นี่เป็นกรณีพิเศษเพราะฉะนั้นเกรซก็เอาใจผมหน่อยก็แล้วกันนะ เผื่ออะไรพิเศษๆ มันจะตามมาอีกหลายอย่าง”
ธามนิธิมองหน้าเธอในระยะประชิด ในขณะที่เธอก็มองหน้าเขาด้วยความประหม่าเธอไม่เคยใกล้ชิดกับใครมากขนาดนี้มาก่อน สายตาที่จ้องมานั้นราวกับมีมนต์สะกดเมื่อธามนิธิโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้กชณิชาก็ไม่คิดจะถอยหนี
กชณิชาใจเต้นแรงเมื่อเขาโน้มใบหน้ามาใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ หญิงสาวหลับตาลงเมื่อริมฝีปากจุมพิตลงที่หน้าผากมนอย่างแผ่วเบา
“ไม่ต้องกลัวนะเกรซ”
เขากระซิบข้างหูริมฝีปากอุ่นเคลื่อนมายังแก้มเนียนและปลายจมูกก่อนจะประกบลงบนริมฝีปากอิ่มจูบที่อ่อนหวานทำให้คนไร้ประสบการณ์ใจเต้นแรงและทำตัวไม่ถูก หญิงสาวพยายามจะครางประท้วงแต่นั่นกลับกลายเป็นว่าเปิดโอกาสให้เขาสอดปลายลิ้นเข้าไปกวาดต้อนเอาหวานจากโพรงปากเล็กจากจูบที่อ่อนหวานก็เริ่มจะเร่าร้อนขึ้นไปตามอารมณ์
ปลายลิ้นเล็กพยายามหลบหลีกแต่ก็หนีไม่พ้น หญิงสาวรู้สึกสับสนและมึนงงไปหมด มือของเธอจิกลงบนแผ่นหลังของเขาอย่างลืมตัวจูบนั้นเนิ่นนานจนเธอแทบขาดใจ
“อื้อ...คุณธาม”
“ถ้ารู้ว่าจูบเกรซหวานแบบนี้ผมคงให้เกรซเริ่มงานตั้งแต่ก่อนไปยุโรปแล้ว”
“หวานจริงเหรอคะ”
“หวานสิ ตอนนี้ผมก็ชักอยากจะรู้แล้วว่าเกรซจะหวานไปทั้งตัวไหม ขอผมพิสูจน์นะ”
เสียงกระซิบที่แหบพร่าทำให้คนฟังยากที่จะปฏิเสธ