การเดินทางก็หลายชั่วโมงสิ้นสุดลง เมื่อตุลย์พาใบบุญมาถึงรีสอร์ของนางปราณี เขามาถึงที่นี่เกือบสามทุ่มแล้ว แต่แม่นมคนโปรดของเขาก็ยังรอต้อนรับทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม
“คิดถึงที่สุดเลยครับนม” ตุลย์เอ่ยทักทายแม่นมของตนเอง พร้อมทั้งเข้าไปหอมแก้มด้วยความสนิทสนม
“โตจนขนาดนี้แล้วยังจะอ้อนเหมือนเดิมอีก ไม่อายสาวน้อยคนนี้บ้างเหรอคะ” นางปราณียิ้มให้เด็กสาวที่ประนมมือไหว้ตนเองด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเมตตา
“ไม่ล่ะ กับนมไม่ว่ายังไงผมก็ยังเด็กเสมอ” เด็กโข่งที่อายุเกือบจะสามสิบแล้วอย่างตุลย์เอ่ยไปหัวเราะไป
“เอ้า...ลืมแนะนำลูกสาวคนใหม่ของนม นี่ใบบุญ นับตั้งแต่วันนี้ฝากนมอบรมสั่งสอนใบบุญได้ตามสมควรเลยนะครับ” ตุลย์เอ่ยด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะแนะนำใบบุญให้นางปราณีรู้จัก
“ก็หน้าตาสละสวยแบบนี้ไง มันก็เลยเป็นอันตราย แต่ไม่เป็นไรนะ ตั้งแต่วันนี้ไปแม่นมปราณีคนนี้จะเป็นคนดูแลหนูใบบุญเอง” นางปราณีเข้าไปกอดเด็กสาวด้วยเมตตา กอดที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความจริงใจมันทำให้เด็กสาวที่ไม่เคยได้รับอ้อมกอดอบอุ่นอย่างที่เด็กสาวอย่างเธอควรจะได้รับ รู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก
“จากวันนี้อยู่ที่ไม่ต้องหวาดระแวงอะไรอีกนะ ใช้ชีวิตให้มีความสุขแล้วกัน” ตุลย์เอ่ยกับเด็กสาวด้วยเสียงอ่อนโยน ขณะที่เด็กสาวก็น้ำตาซึมด้วยความตื้นตันใจ คนสองคนที่อยู่ตรงหน้าเธอ ไม่ใช่ญาติทางสายเลือดเธอ แต่ทว่าให้ความเมตตาเธอมากกว่าคนที่ได้ชื่อว่าญาติเธอด้วยซ้ำ หลังจากนี้เธอจะตอบแทนบุญคุณของทั้งสองคน อะไรที่เธอสามารถทำให้ได้ เธอจะทำให้ทุกอย่าง
“ไม่ต้องร้องลูก อยู่ที่นี่ให้มีความสุข ถ้าหนูโตพอที่จะเลือกทางของตนเองได้ แม่ยินดีส่งเสริมทุกอย่าง” นางปราณีเอ่ยออกมาด้วยความเวทนาในโชคชะตากรรมของเด็กสาว นางไม่ลำบากใจสักนิดที่จะต้องดูแลเด็กสาวที่ไม่ใช่สายเลือด หากแต่ว่านี่คือการสร้างบุญกุศลครั้งใหญ่ เพื่อสร้างชีวิตใหม่ให้เด็กคนหนึ่ง
“ค่ะ” เสียงเด็กสาวรับปากเจือเสียงสะอื้นเล็กน้อย
“อยู่ที่นี่นะ อย่าดื้อกับนมนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าฉันก็กลับแล้ว” ด้วยเพราะมีงานรออยู่ที่กรุงเทพทำให้เขาอยู่ที่นี่นานไม่ได้เขาต้องรีบกลับไปทำงานที่กรุงเทพ และนี่ก็เป็นครั้งสุดท้ายที่เธอได้เห็นหน้าเขา เพราะตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่เคยมาที่นี่อีกเลย