เมื่อได้มาอยู่ในความดูแลของนางปราณี ใบบุญก็รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก เพราะนางปราณีใช้ความมีเมตตาในการดูแลเด็กสาว ก่อนจะหาโรงเรียนดีๆ ที่รับนักเรียนเข้าเรียนกลางปีให้เธอได้เรียนต่อ มาถึงตอนนี้ชีวิตของใบบุญมีความสุขขึ้นมา แต่เธอก็แอบชะเง้อมองหาตุลย์ ด้วยความหวังว่าเขาจะมาเยี่ยม แต่ก็ไร้ซึ่งเขาของเขา เขาไม่เคยกลับมาเยี่ยมเธอที่นี่อีกเลย
จากเดือนเป็นปี ตุลย์ก็ยังไม่เคยมาเยี่ยมใบบุญ ตอนนี้เธอกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย เธอกำลังมีความสุขมากๆ แต่เธอก็แอบเคืองตุลย์ที่มีแต่ส่งเสียเงิน แต่ไม่เคยติดต่อมาหาเธอ แม้แต่เบอร์โทรศัพท์หรือช่องทางการติดต่อเขาอื่นๆ เธอก็ไม่มีเลยและทุกอย่างก็ค่อยๆ จางหายไปเหมือนสายหมอกในตอนที่พระอาทิตย์เริ่มทอแสงขึ้นมา
ห้าปีต่อมา...
ใบบุญสำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เธออยากจะออกไปทำงานที่อื่น แต่ติดที่นางปราณีนั้นก็ชราขึ้น ไม่มีใครช่วยดูแลรีสอร์ท ทำให้เธอซึ่งนับถือนางปราณีเหมือนแม่ ต้องมารับช่วงดูแลรีสอร์ทต่อ
“แม่ไม่ต้องทำอะไรแล้ว เดี๋ยวหนูทำ นั่งดูอยู่เป็นกำลังใจให้ก็พอ” เช้าวันหนึ่งใบบุญเดินเข้ามาที่สำนักงานของรีสอร์ท เธอพบนางปราณีกำลังหยิบงานจากโต๊ะเธอไปที่โต๊ะตนเองเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของบุตรสาวบุญธรรมที่นางรักเหมือนลูก
“แม่ก็อยากจะทำแบบนั้นนะ แต่เหมือนว่าใบบุญมีเรื่องต้องทำน่ะสิ” นางปราณีเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม นอกจากจะเรียนเก่งแล้ว บุตรสาวคนนี้ของนางยังกตัญญูเป็นที่หนึ่ง
“เรื่องอะไรเหรอคะ” คำตอบของมารดาบุญธรรมทำเอาใบบุญชะงักไปเล็กน้อย
“แต่ใบบุญจะทำให้แม่มั้ยน้า” นางปราณีทำท่าทางลังเลที่จะพูดออกมา เพราะกลัวว่าใบบุญจะไม่ยอมทำให้ นั่นยิ่งทำให้ใบบุญสงสัยว่ามันคือเรื่องอะไร
“เรื่องละไรล่ะคะ” ใบบุญยิ่งสงสัยเข้าไปหนักกว่าเดิม
“เรื่องคุณตุลย์” คราวนี้นางปราณียอมบอกพร้อมกับสังเกตพฤติกรรมลูกเลี้ยงของตนเอง
“คุณตุลย์ เขายังมีชีวิตอยู่อีกเหรอคะ” ใบบุญเอ่ยประชดเพราะความน้อยใจที่เขาไม่ยอมโผล่มาเยี่ยมเธอเลย