ที่บริษัทสกาย - ไฮ มีเรื่องฮือฮาเกิดขึ้น เมื่อตัวแม่เจ้าของหุ่นสับปรากฎโฉมด้วยหน้าสด แถมชุดที่ใส่ก็หลวมโครก ดร็อปความแซ่บที่เหล่าพนักงานเคยเห็นกันจนชินตา หลายคนถึงกับอ้าปากค้าง ต้องกรูเข้ามาถามหาสาเหตุกันยกใหญ่
“แกนึกเฮี้ยนอะไรเนี่ย วันนี้ถึงได้แต่งตัวมาเรียบร้อยเป็นป้าขนาดนี้ วิญญาณกุลสตรีเข้าสิงแกรึไงยัยริญ”
ธีริญกลอกตาในความสอดรู้ของพวกขาเผือก ไหนจะคำถามที่แซะกันหยอกๆ แต่ฟังแล้วน่าตบนั่นอีกล่ะ นึกว่าเธออยากจะแต่งตัวแบบนี้รึไง
แต่เธอท้อง!
ท้องแล้วก็พุงยื่น ทั้งแขนทั้งขาก็ใหญ่ขึ้น หุ่นสับก็กลายเป็นหุ่นพัง แม้แต่เครื่องสำอางก็ยังใช้ไม่ได้ เพราะสารเคมีบางตัวอาจจะตกค้างทำอันตรายถึงลูกในท้องด้วย นี่ไงสาเหตุที่ทำให้สาวแซ่บอย่างเธอกลายร่างเป็นป้าเฉิ่ม โชคดีหน่อยที่เธอค่อนข้างผอม ถึงตั้งท้องก็ยังดูไม่ออก จึงไม่มีคนทักให้ร้อนตัว
“ฉันก็อยากเปลี่ยนแนวดูบ้าง เทรนด์นี้เขาต้องสวยแบบใสๆ ไร้สารเคมี”
“อย่างแกได้แค่ไสยๆ ไสยศาสตร์เท่านั้นแหละ”
“บอกมาแกอ้วนขึ้นจนใส่เสื้อผ้าไม่ได้ใช่มั้ย” เพื่อนสาวอีกคนจี้ถาม
ธีริญเกือบสะดุ้งโหยงนึกว่าความแตก ก่อนจะตีหน้ายักษ์รีบรับมุกเบี่ยงประเด็นจากเรื่องจริง
“รู้แล้วก็เหยียบไว้ น้ำหนักฉันขึ้นมาตั้งสี่โลแน่ะ”
เพื่อนสาวทำตาโตร้องกรี๊ด ทำหน้าเหมือนโลกจะถล่ม สำหรับผู้หญิงเราน้ำหนักขึ้นแค่ขีดเดียวก็เป็นเรื่องคอขาดบาดตายแล้ว เพราะเวลาขึ้นมันขึ้นเป็นโล แต่เวลาลงดันลงเป็นขีด จุดเจ็บในดวงใจของสาวๆ เลยละ
“แต่ผมว่าแบบนี้กำลังดีนะครับ ดูมีน้ำมีนวลน่ารักดี” ณัฐสิทธิ์ที่บังเอิญเดินเข้ามาพอดีร่วมวงสนทนาด้วย
“อุ๊ย! คุณณัฐพูดดี เดี๋ยวริญเลี้ยงกาแฟค่ะ” ธีริญยิ้มแฉ่งให้วิศวกรหนุ่มหล่อ ก่อนจะปรายตามองยายเพื่อนขาเมาท์ที่ยืนตาปรอยเหมือนเปรตขอส่วนบุญ “ส่วนพวกแก...อด!”
เห็นเพื่อนค้อนขวับปะหลับปะเหลือก ธิริญก็ยิ้มอย่างพอใจที่ได้เอาคืนเล็กๆ น้อยๆ ก่อนจะชวนทุกคนไปร้านกาแฟที่ใต้ตึกสำนักงาน เธอสั่งกาแฟเลี้ยงทุกคนแล้วสั่งนมสดให้ตัวเอง เดินคุยไปดื่มไป ถือขึ้นลิฟต์ไปบนชั้นที่ตั้งของสำนักงานสกาย - ไฮ
พอเข้าออฟฟิซปุ๊บ เกษมก็พุ่งเข้ามาหาเธอทันทีทำเอาตกใจ สีหน้าเจ้านายเธอดูตื่นเต้นมีความคาดหวังมากตอนที่เอ่ยขึ้นว่า
“ริญ ไปคุยกับผมที่ห้องทำงานหน่อย”
“ค่ะ” ธีริญรับคำ แล้วยกมือลาเพื่อนๆ ก่อนจะเดินตามหลังเกษมเข้าไปในห้องทำงาน เขาพูดตรงเข้าประเด็นอย่างไม่รีรอ
“ผมมีข่าวดีจะบอกคุณ โกลบอล ตัดสินใจจ้างเราเป็นซัพพลายเออร์โพรเจกต์ใหม่ งานนี้ผมจะให้คุณเป็นฝ่ายประสานงานกับทางนั้น”
ธีริญอึ้ง หน้าเสียทันตา เอ่ยปฏิเสธแบบไม่คิด
“แต่ริญเป็นแค่เซลล์ ไม่ชำนาญเรื่องการติดต่อสื่อสารเลยนะคะ บอสน่าจะให้คนที่ละเอียดรอบคอบและเก่งกว่าริญมาดูแลโพรเจกต์นี้ดีกว่า อีกอย่างริญก็เคยปฏิเสธงานนี้ไปแล้วด้วย ขืนกลับมาอีกคงจะดูไม่ดีเท่าไหร่”
เกษมก็คิดเหมือนที่ธีริญคิดและก็ตอบแบบเดียวกัน ตอนที่ประธานหนุ่มแห่ง โกลบอล ต่อสายตรงถึงเขาเพื่อยื่นข้อเสนอเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนว่า
“ผมต้องการให้ธีริญมีส่วนร่วมในโพรเจกต์นี้”
“แต่เธอเป็นเซลล์ หน้าที่ของเธอจบลงตั้งแต่ปิดจ๊อบแล้วนะครับ” เกษมเอ่ยอย่างลำบากใจ เพราะธีริญแสดงชัดว่าไม่เต็มใจที่จะรับงานนี้
“คุณจะใช้วิธีไหนก็ได้ ถ้าสำเร็จ โพรเจกต์นี้จะเป็นของคุณ”
ในเมื่ออีกฝ่ายยืนกรานคำตอบเดิม แล้วเขาจะทำยังไงได้ล่ะ...
“ผมรู้ว่าคุณลำบากใจ แต่คุณเป็นคนเก่งมีไหวพริบ เชื่อสิว่าคุณจะผ่านงานนี้ไปแบบไม่ยากหรอก แถมจบจากโพรเจกต์นี้ตัวคุณเองก็จะได้อัปเกรดความสามารถของคุณขึ้นไปอีกขั้นด้วย ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายขายต้องการคนที่มีศักยภาพแบบคุณอยู่นะธีริญ”
หญิงสาวเม้มปาก ปฏิเสธไม่ได้ว่าเจ้านายเธอเจ้าเล่ห์จริงๆ เกษมรู้วิธีชักจูงใจคนเสมอ ถ้าเป็นงานอื่นเธอคงกระโดดงับทันทีแบบไม่มีลังเล แต่นี่เธอหย่ากับอดีตสามีแล้ว ขืนตกลงรับปากเธอจะต้องเจอหน้าภิฌานบ่อยขึ้น แล้วเรื่องที่เธอท้องจะปกปิดได้อีกนานแค่ไหนกันเชียว
“ช่วยผมหน่อยเถอะนะริญ งานนี้สำคัญกับผมมากจริงๆ มีแค่คุณคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยผมได้ ถ้าคุณตกลง ผมจะให้โบนัสคุณหนึ่งล้าน แถมจ่ายให้สดๆ ตอนนี้เลย”
“...”
ธีริญพูดไม่ออก ไม่รู้จะปฏิเสธเกษมอย่างไร เงินน่ะอยากได้ เพราะเธอยังมีหนี้ก้อนโตที่ต้องจ่าย แต่เธอไม่อยากเสี่ยงให้ภิฌานรู้เรื่องลูกนี่น่ะสิ
“ช่วยผมเถอะนะริญ ผมขอร้อง ถ้าไม่ได้โพรเจกต์นี้บริษัทเราคงไปไม่รอดแน่ๆ คุณก็รู้ว่าเราไม่ได้งานใหญ่มานานเป็นปีแล้ว การร่วมงานกับ โกลบอล จะช่วยให้เราไปต่อได้อย่างสบาย เห็นแก่ผมและตัวคุณเอง รวมถึงเพื่อนร่วมงานทุกคนเถอะนะ”
หญิงสาวเจอลูกตื๊อจนทนใจแข็งไม่ไหว เธอพยักหน้ารับอย่างลำบากใจ
“ตกลงค่ะ ริญจะรับงานนี้ ว่าแต่ทางนั้นจะส่งใครมาดูแลโพรเจกต์นี้เหรอคะ” ในใจเฝ้าภาวนาว่าขอให้ภิฌานอย่าลงมาคุมงานนี้ด้วยตัวเองเลย
“น่าจะเป็นหัวหน้าหรือไม่ก็ผู้จัดการฝ่ายผลิตนั่นแหละ คงไม่ต้องถึงมือเจ้านายใหญ่หรอกมั้ง”
ธีริญแอบผ่อนลมหายใจ เพิ่งรู้สึกใจชื้นขึ้นมายังไม่ทันไร เลขาสาวของเกษมก็เปิดประตูเข้ามาแจ้งข่าวที่ทำให้เธอหนักใจว่า
“บอสคะ ทาง โกลบอล มาถึงแล้วค่ะ ดิฉันต้อนรับพวกเขาอยู่ที่ห้องรับรองนะคะ”
“ขอบคุณมากคุณจอย เดี๋ยวผมออกไป” เกษมลุกจากเก้าอี้ พยักหน้าให้ลูกน้องสาว “ไปกันเถอะ”
“ค่ะ” ธีริญถอนหายใจเดินตามเจ้านายเป็นหมาหงอย อยากจะยิ้มก็ยังยิ้มไม่ออก อดกลุ้มไม่ได้จริงๆ ว่าจะมีเรื่องยุ่งยากอะไรตามมาอีกไหม...