พอขับรถมาถึงคาเฟ่ เรนนี่ก็ลืมเรื่องคนที่อาจจะได้เป็นสามีของเธอในเร็ววันนี้ เพราะเมื่อเธอลงจากรถแล้วเดินเข้าร้านไปเจอเพื่อน เธอก็มีความสุขกับการกินและพูดคุยกับเพื่อนรู้ใจ
“เรนนี่...แกมีแฟนหรือยัง”
อยู่ดี ๆ พราวฟ้าก็ถามขึ้นมา คำถามของพราวฟ้าทำให้เพื่อนอีกสองคนเงียบ และทุกคนก็หันไปมองเรนนี่เป็นตาเดียว
เรนนี่ถือช้อนที่เพิ่งตักเค้กเข้าปากค้างไว้ เธอกลืนเค้กลงท้องแล้วตอบว่า
“ฉะ...ฉันยังไม่มีแฟน” เธอยังไม่มีแฟนจริง ๆ แต่อาจจะมีสามีในเร็ววันนี้
พราวฟ้าหรี่ตามองเพื่อนอย่างจับผิด “วันนี้ ก่อนออกจากบ้าน ฉันเปิดไพ่ดูดวงของพวกแกทุกคนแล้ว ดวงเนื้อคู่ของแกเด่นที่สุด”
“แล้วฉันล่ะ ดวงเนื้อคู่ฉันเป็นไงบ้าง” อลิสถามแล้วจ้องหน้าพราวฟ้าอย่างมีความหวัง
“แกกับฉันโสดสนิท ไร้ดวงเนื้อคู่”
อลิสส่ายหน้า ไม่อยากยอมรับ “ไม่จริง แกไม่แม่น”
พราวฟ้ากลอกตามองบน “แล้วครั้งก่อน ใครทายว่าแกจะประสบอุบัติเหตุเล็กน้อย แล้วแกก็เกิดอุบัติเหตุจริง ๆ แกลื่นล้ม ก้นเขียวไปตั้งหลายวันไม่ใช่เหรอ”
อลิสหน้ามุ่ย พูดเสียงอ่อยว่า
“เออ...เชื่อก็ได้ ตอนนี้อาจจะยังไม่มีผู้ชายเข้ามา แต่ฉันเชื่อว่า สักวัน ฉันต้องได้ต้องโดนบ้างล่ะ ว่าแต่แกได้ดูด้วยไหมว่า ผู้ชายของยัยเรนนี่เป็นใคร หล่อไหม รวยหรือเปล่า และที่สำคัญ...ใหญ่หรือเปล่า”
พราวฟ้ามองค้อนคนถาม “ฉันเปิดไพ่ดูนะ ไม่ได้เปิดกางเกงดู”
อลิสทำปากยื่นใส่เพื่อน “แหม...ฉันก็นึกว่าไพ่มันบอกได้”
พราวฟ้าส่ายหน้า แล้วหันไปจ้องหน้าเรนนี่
“แกยังไม่มีแฟนจริง ๆ เหรอเรนนี่”
“ยังไม่มีจริง ๆ”
“ไม่น่าเชื่อ...หรือว่าฉันฝีมือตกนะ” พราวฟ้ารำพึงและทำหน้ายุ่ง
“แต่...” เรนนี่มองเพื่อนทั้งสาม เธอยิ้มแหย อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ไม่ยอมพูดต่อสักที
ใบเตยที่นั่งอยู่ข้างเรนนี่จับแขนเพื่อนเขย่าเบา ๆ และรบเร้าถามว่า “แต่อะไร บอกมาเลยนะยัยเรนนี่ อย่าบอกนะว่า ที่แกบอกว่าไม่มีแฟน เพราะแกมีสามีแล้ว”
“บ้าไปแล้วแก...ฉันยังไม่มีแฟน และยังไม่มีสามี แต่...เอ่อ...อาจจะกำลังจะมี”
เพื่อนทั้งสามเบิกตากว้าง จ้องหน้าเรนนี่เขม็ง
ใบเตยเขย่าแขนเรนนี่อีกครั้ง “เหลามาเลย แกต้องเหลามาเดี๋ยวนี้ บอกมาให้หมด ห้ามหมกเม็ด ห้ามปิดบัง”
“คือ...วันนี้ ฉันมีนัดไปกินข้าวกับครอบครัวของเพื่อนของหม่ามี้ แล้วครอบครัวนั้นเขามีลูกชาย”
เรนนี่หยุดพูด เธอหันมองหน้าเพื่อนทีละคน ทุกคนพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้เธอรีบเล่าต่อ
“ลูกชายของป้าภาชื่อพี่คิณ เขาอายุมากกว่าฉันหกปี เขาเป็นรองประธานบริษัท หม่ามี้ของฉันกับแม่ของพี่คิณอยากให้เราสองคนแต่งงานกัน”
พอเรนนี่พูดจบ พราวฟ้าก็ตบเข่าฉาด
“นั่นไง ! แม่หมออย่างฉันไม่เคยพลาด”
อลิสยื่นหน้ากระซิบกระซาบถามว่า
“แล้วพี่เขาตัวใหญ่ไหม”
เรนนี่ส่ายหน้า
อลิสขมวดคิ้ว “ไม่ใหญ่ ?”
“ไม่รู้สิ เพราะฉันไม่ได้เจอเขาตั้งหลายปีแล้ว แต่เท่าที่จำได้ ตอนที่เจอกันครั้งสุดท้าย เขาสูงและตัวใหญ่กว่าฉันมาก”
อลิสทำหน้าครุ่นคิด “จริง ๆ แล้ว ถึงจะตัวใหญ่ ก็ใช่ว่าไอ้นั่นจะใหญ่”
“แกหมกมุ่นเกินไปแล้ว ยัยอลิส” พราวฟ้าว่าแล้วถอนหายใจ
“แหม...จะมีสามีทั้งทีก็ต้องเลือกของดีของใหญ่ไหมล่ะแก เกิดยัยเรนนี่แต่งงานกับพี่คิณแล้ว พอคืนเข้าหอ ดันไปพบว่าเสาเอกที่กำลังจะลงหลุมอันเท่าไม้จิ้มฟันล่ะ แบบนั้นไม่ต้องตรอมใจไปตลอดชีวิตเลยเหรอ อ๊ะ ๆ พวกแกอย่าคิดว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญนะ สามีภรรยาที่เลิกกันเพราะเรื่องบนเตียงมีเยอะมากนะ ถ้าลีลาไม่ดี อันนี้พอจะบอกสอนและเรียนรู้กันได้ แต่ไอ้นั่นเล็กกระจิ๋วหลิวมันแก้ไขไม่ได้นะแก”
พราวฟ้ากลอกตามองบน “แล้วแกจะให้เรนนี่ไปขอดูจู๋เขาก่อนแต่งเหรอ”
“แกจะบ้าเหรอ จะไปขอดูจู๋เขาตรง ๆ แบบนั้น เขาจะหาว่ายัยเรนนี่เป็นโรคจิตน่ะสิ ไม่จำเป็นต้องขอดูตรง ๆ มันมีวิธีดูง่าย ๆ”
“ยังไง” สามสาวถามขึ้นพร้อมกัน และพากันจ้องหน้าคนที่ทำตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญ
อลิสกอดอก ขยับนั่งตัวตรง เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ถ้าจะดูว่าไอ้นั่นของผู้ชายเล็กหรือใหญ่ ให้ดูที่หัวแม่เท้า ถ้าหัวแม่เท้าทั้งใหญ่ทั้งยาว ไอ้นั่นก็จะทั้งใหญ่และยาวด้วย”
พราวฟ้าทำหน้ากังขา และแย้งว่า “ถ้าเขาใส่รองเท้าปิดเท้าหมดเลยล่ะ จะเห็นหัวแม่เท้าได้ยังไง จะไปบอกเขาถอดรองเท้าให้ดูเหรอยะ”
อลิสทำหน้าครุ่นคิด “จริงด้วย ฉันลืมคิดเรื่องรองเท้า”
ใบเตยมองหน้าเพื่อน ๆ แล้วอ้อมแอ้มบอกว่า
“ฉันเคยอ่านเจออีกวิธี เขาบอกว่าให้ผู้ชายทำท่าโอเคแบบนี้” ใบเตยยกมือขึ้นมา เธอเอาปลายนิ้วชี้แตะที่ข้อกลางของนิ้วหัวแม่มือ “เขาบอกว่าให้ผู้ชายทำท่าแบบนี้ จะทำให้เรารู้ขนาดเส้นรอบวงของไอ้นั่น”
วิธีการต่าง ๆ ที่เพื่อนบอก ทำให้เรนนี่ยิ้มแหย เธอไม่ได้อยากรู้ขนาดของไอ้นั่นของพี่คิณสักหน่อย