“หืม...คนนี้เมนต์เหมาะสมกิ่งทองใบหยก” คนิ้งเลื่อนดูแล้วอ่านคอมเมนต์แบะปากแบบพระจันทร์คว่ำหมั่นไส้แทนเพื่อน แม้ว่ามันจะสวยแต่เพื่อนเธอย่อมสวยกว่า ยอมไม่ได้เรื่องนี้
“กิ่งงิ้วกับใบตองแห้งมากกว่า” รวิวรรณหมั่นไส้นัก อยากเอาคลิปในมือถือที่มันโยกเย้าเอามันมาปล่อยจริง ๆ ว่ากิ่งทองใบหยกคู่นี้จะมีหน้ามาเชิดอยู่ได้ไหม
“แกรู้ตอนไหน”
“เมื่อชั่วโมงก่อน”
“ฮะ...หน้าด้านงี้เลย พอแกเห็นคลิปไล่ส่งแม่งเปิดตัว เหี้ยไม่ไหว” นับหนึ่งร่วมวงด่าแทนเพื่อน อยากเจอหน้าแม่งจะด่าให้ไฟแลบสำนึกไม่ทันเลยทีเดียว
“ก็มันบอกเป็นกัลยาณมิตร”
“แกก็เชื่อ”
“แกไม่ได้อยู่กับฉันแกไม่รู้หรอกว่าไอ้เหี้ยเพชรนั่น มันสร้างภาพเป็นคนดีขนาดไหน ขนาดฉันนี่ยังซิงมันยังไม่เอาเลย ใครจะไปรู้ว่ามันไปขย่มข้างนอก แกก็รู้”
สองสาวเพื่อนซี้ไม่ใช่ไม่รู้เรื่องนี้ เพราะเพื่อนเคยปรึกษาเรื่องกีเหม็นกีหอม แล้วก็คอนเฟิร์มเพื่อนแล้วว่าไม่เกี่ยว ถ้าคนมันเ****นมันเอาหมดนั่นแหละ แต่ก็หลงคิดว่ามันเป็นคนดี ที่ไหนได้...
ไม่มีสัจจะให้หมู่คนถือศีล!
“มันตั้งใจคบแกเพื่อชื่อเสียงนี่หว่า แกเป็นกระแสอยู่ช่วงสองสามปีนี้ งานก็ชุก ไอ้เลว” คนิ้งเสริมคำพูดเพื่อน
“เออสิ...ไอ้เหี้ยเพชรมันเลย เป็นเพชรกัลยา...กับอีแพรพินท์อะไรนั่น นึกละเจ็บใจ แม่งธุรกิจมันก้าวกระโดด พอมีที่หมายเกาะใหม่เสือกเอาเลย หึ๋ยยยย อยากตบ” รวิวรรณพูดเหมือนคนคลั่ง ทั้งแค้นทั้งเจ็บใจ ให้มันหลอกได้ตั้งสองปี ไม่คิดเลยว่าคนที่ภายนอกเหมือนดีอย่างนี้แต่ที่จริงโคตรเลว
“ช่างแม่งเหอะ ดีแล้วที่แกไม่ได้เสียอะไรไป สวย ๆ ใส ๆ หาผู้ใหม่ไปแก ปลิงที่คอยสูบเลือดอย่างเดียวก็ปล่อยทิ้งไปเหอะ ดีที่ไม่ถึงขั้นแต่งงาน หากขนาดนั้นแล้วแกจะเจ็บกว่านี้อีกนะ” นับหนึ่งเตือนสติเพื่อน
“แกหื่นฮาแถมสวยอีก โง่ฉิบหายเลือกนังชะนีนั่น” คนิ้งวิเคราะห์
“ลีลามันเด็ดเหรอแก...แกดูจบไหม” นับหนึ่งสายเผือกอยากรู้นักว่าท่าไหนมัดใจไอ้นั่นได้
“เออ..สิ..ขย่มขนาดนั้น” รวิวรรณเก่งแต่ทฤษฎีแต่ปฏิบัติเธอไม่เคยสักครั้ง แต่เชื่อว่าตัวเองนั้นแซ่บไม่แพ้ใครแน่
“ฉันอยากแก้แค้นมันจังว่ะ อยากควงผู้หล่อรวยคว...เอ่อ...ความคิดอยากสร้างครอบครัวให้ใหญ่” แม้มันจะดูดเสียงเอง...แต่ก็สองเพื่อนสาวรู้ดีว่าคนมือถือสากปากอยากอมกล้วยอย่างมันคิดอยู่เรื่องต่ำสะดืออย่างเดียว เพราะอะไรนะเหรอ...เพราะพวกเธอเหมือนกันไง
“พี่พันแสงของแกล่ะ” ตอนนี้คิดถึงอยู่คนเดียวที่เป็นรักแรก รักเดียวและฝังใจอีรวิมากที่สุดขนาดกินไม่ได้นอนไม่หลับไปสามวันสามคืนสภาพมันไม่ต่างจากศพเลย
“หึ...แกให้ฉันแบกกีไปขอร้องบอกว่าช่วยเป็นแฟนฉันเถอะนะ... ให้เอาฟรีไม่คิดเงิน ขอร้อง งี้เหรอ” รวิวรรณ ยอมรับว่าหลังจากเสียหน้าบอกรักเขาไปคราวนั้นแล้ว เธอก็ไม่กล้าเข้าหน้าเขาอีกเลย แม้ว่าจะเดินพบกันบังเอิญ เพราะว่าคอนโดของเขาอยู่ฝั่งตรงข้าม แน่นอนว่าเธอพบเขาบ่อย แล้วก็หลบเขาทุกครั้งเช่นกัน
“นอกจากพี่พันแสงของแกแล้วมีคนอื่นอีกไหมล่ะ”
คำตอบไม่ยากเลยคือไม่มี แล้วพี่พันแสงของเธอก็ยังโสดสนิท แม้ว่าจะคบกับไอ้เหี้ยเพชรมาสองปี ทุกครั้งที่เผชิญหน้ากันลำพังเธอกลับจำฝังใจถึงอดีตที่วิ่งไปบอกรักเขาแล้วก็โดนปฏิเสธนั่นไม่หาย
โคตรอาย!
‘รวิครับ...ผมไม่เคยคิดกับรวิเชิงชู้สาวครับ’ จากรอยยิ้มที่เปล่งประกายบวกเขินอายเล็ก ๆ ตอนนั้นทำให้เธอรู้ว่าอาการของคนหน้าแตกเป็นอย่างไร
ตอนนั้นเธอเพิ่งเข้ามารับงานรีวิวต่าง ๆ ไม่ได้มีชื่อเสียง ยังไม่โด่งดังมาก แต่ตอนนี้ต่างจากตอนนั้นไม่รู้ว่าเขายังคิดกับเธอเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า
“แกก็รู้ว่าฉันหน้าแตกหมอไม่รับเย็บมาหนหนึ่งแล้วนะ”
“เออ...ไม่ลองจะรู้ได้ไง อ่อยไปค่ะสาว...ด้านได้อาย อดนะถ้าอยากได้ลูกเสือก็ต้องเข้าถ้ำเสือ” สองเพื่อนสาวพยักหน้าให้กำลังใจเธอ แต่รู้สึกเหมือนว่าคิ้วขวากระตุกชอบกล ไม่รู้ว่าวิธีนี้จะดีไหม แต่ว่า...
“แกว่าฉันจะเข้าหาเขายังไง”
“ได้ข่าวว่าเจ้าของบาร์ thousand lights จะไปตรวจงานทุกวันศุกร์นะ...ถ้าแกอยากอ่อย...เชิญเข็นอ้อยไปเลยพรุ่งนี้ค่า...”
“บาร์หรูขนาดนี้ต้องสมัคร VIP ไหม” ความวิตกกังวลบนใบหน้าของรวิถูกลบออกเมื่อคนิ้งชักบัตร VIP ที่เพื่อนว่าออกมา พร้อมกับจูบที่บัตรนั้นและยักคิ้วเป็นเชิงบอกว่าไม่มีอะไรที่คนิ้งแก้ไม่ได้
“อีคนิ้ง...ไปได้มาได้ยังไง เปิดบัตรไม่ใช่เงินน้อย ๆ” นับหนึ่งซักทันที
“บุญกีบารมีแ*ดค่ะสาว...เผอิญไปรู้จักกับผู้ชายนิสัยรวยเลยให้มา”
“แกให้เขายัง”
“โว้ย...เจอครั้งเดียว” คนิ้งที่ขายอ้อยไปทั่วบอกเพื่อนสาวให้สบายใจ แต่ว่าผู้ชายนิสัยรวยคนนี้เข้าถึงยากเธอเลยไม่ได้เจออีก แต่ก็ได้มาคุ้มละ
“เออ...บุญบาปมึงนะอีรวิ...ไม่โดนไอ้ทุเรศนั่นเอา ไม่งั้นนั่งจมน้ำตากว่านี้อีก”
“ฉันก็ไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไงดี ผู้ชายไม่เอานี่มันก็ขาดความมั่นใจนะแก...!”
“สวยมักนก ตลกมักได้ แกทั้งสวยทั้งตลกจะนกได้ไง...สู้สิวะ” เมื่อเพื่อนสนับสนุนขนาดนี้ ภารกิจหาผู้ชายหล่อรวยอวยใหญ่มาเย้ยไอ้เพชรกัลยานั่นก็เกิดขึ้น