บทที่ 2 ป้อนเค้ก

2102 คำ
บทที่ 2 ป้อนเค้ก “เข้ามาในห้องก่อนสิ” มาร์ชเปิดประตูให้กว้างขึ้นก่อนเดินนำร่างบางเข้าไปในห้อง ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อมายด์เดินถือจานเค้กตามเข้ามา เธอปิดประตูโดยไม่ทันคิดว่าต่อจากนี้จะเจอกับอะไรบ้าง “วางเค้กบนโต๊ะตรงนั้นก็ได้” มาร์ชชี้ไปที่โต๊ะเล็กๆ ที่เอาไว้วางของจิปาถะซึ่งอยู่ห่างจากประตูไม่มากนัก “ค่ะ” มายด์วางเค้กแล้วกวาดสายตามองไปรอบห้องที่ตกแต่งด้วยโทนสีเทาดูเข้ากับบุคลิกของมาร์ชเป็นอย่างดี เป็นครั้งแรกที่เธอได้ก้าวย่างเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของพี่ชายร่วมโลก ห้องของเขากว้างกว่าห้องของเธอมาก ของตกแต่งแต่ละชิ้นดูมีราคาเข้ากันไปเสียทุกอย่าง บ่งบอกถึงรสนิยมของเจ้าของได้เป็นอย่างดี แตกต่างจากห้องนอนขนาดกลางสีชมพูของตัวเองที่มีแค่ตุ๊กตาแสนหวานอยู่เต็มทุกพื้นที่ “เธอชอบห้องฉันเหรอมองตาไม่กะพริบเชียวนะ” เสียงทุ้มน่าฟังดังขึ้นดึงมายด์ให้หลุดออกจากภวังค์ “คะ!!??” “ฉันถามว่า ชอบห้องนี้เหรอ?” “ชะ..ชอบค่ะ มายด์ชอบ” เด็กสาวตอบตามความสัตย์จริงไม่มีอะไรแอบแฝงเพราะชอบสไตล์การตกแต่งแต่อีกคนกลับคิดไปอีกอย่าง “หึๆ” มาร์ชหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโน๊ตบุ๊คแล้วหมุนกลับมามองคนตัวเล็กที่ยืนตัวลีบมือจับกระโปรงชุดนอนตัวหนาไว้แน่นด้วยความประหม่า “พี่มาร์ชจะกินเค้กเลยมั้ยคะ” “เธอบ้าหรือโง่ ป่านนี้ใครจะกินของหวานกันวะ” “แต่มันคือเค้กวันเกิดของมายด์นะคะ และมายด์ก็ตั้งใจเก็บไว้ให้พี่” แม้จะหน้าเสียกับคำพูดที่ไม่ค่อยถนอมน้ำใจแต่มายด์ก็ยังพูดในสิ่งที่ตั้งใจไว้ออกมา “เค้กสำคัญขนาดนั้นเชียว” มาร์ชลุกขึ้นเดินไปยังจานเค้กที่วางอยู่บนโต๊ะ กระตุกยิ้มเย้ยหยันเมื่อเห็นชื่อของเด็กสาวปรากฏอยู่ในเค้กชิ้นนั้น อยากสื่อว่าให้เขากินเธอสินะ ..เหอะ จงใจมาอ่อยว่างั้น ร้ายไม่เบา.. “ใช่ค่ะมันสำคัญ มายด์อยากให้พี่มาร์ชกินเพราะตั้งแต่มายด์ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน เราก็ไม่ค่อยได้คุยกันหรือทำอะไรร่วมกันแบบพี่น้องเลยซักครั้ง คงจะดีหากพวกเราเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้” ปากสีชมพูยังคงพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดโดยที่ไม่ทันสังเกตว่าอีกคนมองเธอด้วยสายตาเช่นไร “เหอะ!! เธอแน่ใจนะว่าอยากเป็นพี่น้องกับฉัน” มาร์ชจงใจพูดจี้จุด และมันก็ได้ผลเพราะใบหน้าจิ้มลิ้มเผือดสีลง ตากลมโตสั่นไหวด้วยความหวาดหวั่นกลัวเขาจับความรู้สึกได้ “แน่ใจค่ะ” มายด์ก้มหน้าแล้วอ้อมแอ้มตอบ แต่เธอก็ต้องเงยขึ้นเมื่อเห็นเท้าของคนตัวโตเดินมาหยุดในระยะประชิด ทั้งสองสบตากันก่อนที่มาร์ชจะยื่นจานเค้กที่อยู่ในมือมาตรงหน้า “ถ้าอยากให้ฉันกิน เธอก็ป้อนฉันสิ..ได้มั้ย” คำว่า 'ได้มั้ย' ของเขาแอบเจือแววเว้าวอนอยู่ในนั้น จนทำให้คนตัวเล็กใจเต้นโครมคราม เธอกลัวว่าเขาจะรับรู้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจจนต้องยกมือขึ้นมากุมตรงตำแหน่งหน้าอกข้างซ้ายเอาไว้ ท่าทางเลิ่กลั่กอย่างไร้เดียงสาตกอยู่ในสายตาอีกคน รอยยิ้มบางๆ ปรากฏบนใบหน้าชายหนุ่ม เด็กสาวผู้ไม่เคยได้รับรอยยิ้มจากคนเย็นชาเลยถึงกลับหน้าแดงระเรื่อเพราะขวยเขิน ใจสั่นไปหมดพาลให้ทำอะไรไม่ถูก “ถ้าจะให้มายด์ป้อน เดี๋ยวมายด์ลงไปหยิบช้อนมาก่อนนะคะ พอดีว่ามายด์ลืมหยิบมาด้วย” พูดแล้วก็นึกเคืองความสะเพร่าของตัวเองที่ลืม “ไม่ต้อง!!” “พี่มาร์ชจะกินเค้กยังไงคะ” ตากลมโตมีแววฉงนก่อนจะเบิกกว้างเพราะตกใจในคำตอบของอีกคน “ก็ใช้นิ้วเธอป้อนฉันสิ” “ใช้นิ้ว!!??” “อืม..นี่เธอหูกับสมองมีปัญหาหรือเปล่า ฉันพูดอะไรไปดูจะไม่ค่อยได้ยินหรือเข้าใจเลยนะ” “.........” มายด์นิ่งงันไปชั่วขณะ ตากลมโตมองเค้กกับใบหน้าหล่อเหลาสลับไปมา จนคนตัวสูงจิ๊ปากอย่างขัดใจ “ถ้าไม่ป้อนก็เอามันออกไป ฉันจะทำรายงานต่อ” “.........” มายด์เม้มปากอย่างครุ่นคิด ใจสั่นมือสั่นไปหมด ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะขอให้ทำอะไรที่ใกล้ชิดกันแบบนี้ “ว่าไง เธอจะป้อนฉันมั้ย” “มายด์ป้อนพี่มาร์ชก็ได้ค่ะ” เพราะอยากเอาใจหรืออะไรหลายๆ อย่างที่ประดังประเดเข้าใส่เด็กสาววัยสิบหก เธอจึงตกปากรับคำ จากนั้นก็ใช้นิ้วชี้ป้ายเค้กในจานที่เขาถืออยู่ เขย่งเท้าขึ้นยื่นนิ้วจ่อที่ปากหนาได้รูปด้วยมือสั่นเทา “ก็แค่เนี๊ย ทำให้มันยุ่งยากไปได้” พูดจบมาร์ชก็อ้าปากดูดนิ้วที่มีเค้กติดอยู่ จงใจใช้ลิ้นเลียอย่างเร้าอารมณ์จนคนตัวเล็กขนลุกซู่ เมื่อดูดเลียจนนิ้วสะอาดชายหนุ่มก็คลายปากออก ก่อนจะใช้สายตาสั่งเด็กสาวให้ป้อนเค้กอีกครั้ง “เอ่อ มายด์ว่า..พอก่อนดีกว่าค่ะ” “ฉันยังไม่อิ่มเลย อยากกินอีกเค้กอร่อยแบบที่เธอว่าจริงๆ” “อร่อยจริงๆ เหรอคะ พี่มาร์ชชอบมันใช่มั้ยคะ” สิ่งที่ได้ยินทำให้มายด์ดีใจจนมองข้ามเจตนาของอีกคนไป มาร์ชไม่ตอบคำถาม เขาทำเพียงแค่พยักหน้าเออออไปกับเด็กสาว มายด์อมยิ้มอย่างดีใจที่เขาชมว่าเค้กอร่อย ใช้นิ้วป้ายเค้กแล้วยื่นไปจ่อที่ปากหนาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มาร์ชขยับเข้ามาชิดมากขึ้น มือหนาจับข้อมือเล็กไว้แน่นก่อนแลบลิ้นเลียเนื้อครีมที่อยู่บนนิ้วเรียวสลับกับดูดดึงแรงขึ้น เด็กสาวที่ไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายมาก่อนถึงกับหน้าเห่อร้อนลามไปถึงใบหู เมื่อโดนกระทำเกินเลยไปมากเธอก็พยายามชักมือกลับแต่มาร์ชจับไว้แน่น เสียงดูดเลียนิ้วดังจ๊วบจ๊าบส่งผลให้ใบหน้าเล็กแดงยิ่งขึ้นไปอีก “พะ..พี่มาร์ชคะพอก่อน คือว่า..มายด์จั๊กกะจี้ค่ะ พี่ดูดแรงไป” ผลุ่บ!! มาร์ชยอมละริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง สายตาคมมองไปยังใบหน้าจิ้มลิ้มแล้วยิ้มมุมปาก ดันร่างเล็กไปชิดผนังห้อง ก่อนวางจานเค้กบนโต๊ะโน๊ตบุ๊ค จ้องริมฝีปากบางที่สั่นระริกเพราะหวาดหวั่น ตากลมโตเบิกโพลงอย่างตกใจกับสิ่งที่เขาทำ “ทีนี้ก็ป้อนด้วยปาก” “ห๊ะ!! ป้อนด้วยปาก!!” “ใช่..จะเสียงดังทำไมวะ” “ไม่ดีมั้งคะ..มายด์เป็นน้องสาวพี่มาร์ชนะ เราไม่ควรใกล้ชิดกันเกินไป” แม้จะรู้ตัวช้าไปหน่อยแต่เด็กสาวก็พยายามดันร่างสูงให้ออกห่าง เพื่อหาโอกาสออกจากห้อง เริ่มรู้สึกถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นหากยังอยู่ตรงนี้ แต่อีกฝ่ายกลับไม่ขยับเขยื้อนเลย หนำซ้ำยังเข้ามาแนบชิดมากขึ้นอีก “อยากเป็นน้องสาวฉันมากเลยเหรอ” “ค่ะ..มายด์อยากให้พี่มองมายด์เป็นน้องสาว และเห็นมายด์กับแม่เป็นคนในครอบครัว” เด็กสาวพูดจากใจจริง ถึงแม้จะแอบรักพี่ชายร่วมโลกคนนี้มานานแต่เธอรู้ว่าคงเป็นไปไม่ได้ ขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆ เขาในฐานะน้องสาวก็มีความสุขแล้ว “ฉันไม่เคยมีน้องสาว แต่ถ้าเธออยากเป็นอย่างอื่น ฉันอาจจะรับพิจารณาก็ได้ ว่าไงล่ะ” คำพูดสองแง่สองง่ามทำให้มายด์อ้าปากค้างด้วยความคาดไม่ถึง ไม่คิดว่าคนที่เอาแต่เงียบขรึมใส่เธอมาตลอดเจ็ดปีจะพูดเรื่องทำนองนี้กับเธอได้ “.......” “ว่าไง..สนใจอยากเป็นอย่างอื่นมั้ย?” “ไม่ค่ะ..พี่มาร์ชถอยออกไปได้มั้ยคะ มายด์จะกลับห้องแล้ว” มือบางดันหน้าอกเขาให้ออกห่าง เธอเบือนหน้าหนีเมื่อเขาก้มลงมาใกล้จนสัมผัสลมหายใจกันและกัน “จะรีบไปไหน เค้กยังไม่หมดเลย ฉันอยากกินอีก” “พี่มาร์ชหลีกไปค่ะ..อ๊ะ!!” มายด์ดันเขาให้ออกห่างอีกครั้ง แต่มาร์ชกลับใช้นิ้วที่มีเค้กป้ายมาที่ปากของเธอ จากนั้นก็ค่อยๆ ก้มลงมาหาช้าๆ “พี่มาร์ช มายด์กลัว อื้อ..” เสียงทักท้วงหายไปเมื่อริมฝีปากหนาบดขยี้ลงมายังปากบางที่มีเค้กติดอยู่ ชายหนุ่มดูดกินแลบลิ้นเลียอย่างหิวกระหาย ลิ้นสากสอดเข้าไปในโพรงปากนุ่มและตวัดเล่นลิ้นกับลิ้นเล็กอย่างชำนาญ “อื้อ อื้อ.." คนตัวเล็กดิ้นขลุกขลักอยู่เพียงครู่ก็ตัวอ่อนระทวย ยินยอมให้เขาจูบโดยดีด้วยความด้อยประสบการณ์เรื่องเพศ มาร์ชใช้เวลาดูดดึงริมฝีปากที่มีรสหวานนานหลายนาที ก่อนถอนปากออก น้ำลายสีใสยืดเป็นเส้นเชื่อมระหว่างปากของทั้งสอง ทำให้เด็กสาวที่ไม่ประสาหน้าแดงด้วยความอายปะปนกับความกลัวที่ตีกันมั่วไปหมด “เธอชอบจูบฉันมั้ย” “เอ่อ..!! มายด์ คือว่า..” เด็กสาวอึกอัก เธอช้อนสายตาขึ้นมองคนตัวโตตาแป๋ว พอได้มองใบหน้าจิ้มลิ้มในระยะใกล้ทำให้คนตัวโตเสียอาการอยู่ไม่น้อย ..เชี้ย ทำไมชอบทำหน้าอ้อนจังวะ.. มาร์ชสบทในใจ อารมณ์คล้ายคนตะบะแตก มือเร็วเท่าความคิด เขาคว้าร่างบางเข้ามาในอ้อมแขนจากนั้นก็จับท้ายทอยเล็กล็อกไว้ กดจูบลงไปอย่างดูดดื่ม ลิ้นสากเลียไปทั่วบริเวณปากบาง สลับสอดแทรกเข้าไปตวัดเกี่ยวกับลิ้นเล็กอย่างหนักหน่วง น้ำลายสีใสไหลย้อยออกจากมุมปากของทั้งสอง เสียงบดขยี้เคล้าเสียงน้ำลายดังขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน Rrrrr Rrrrr เสียงโทรศัพท์ดึงสติของทั้งสองให้กลับมา มายด์เป็นฝ่ายเริ่มดิ้นรนก่อน และมาร์ชก็ยอมปล่อยแต่โดยดี เด็กสาวยืนตัวสั่นปากเจ่อทำอะไรไม่ถูก ต่างกับมาร์ชที่ใช้มือเช็ดน้ำลายออกจากปากอย่างลวกๆ แล้วเดินไปหยิบโทรศัพท์มากดรับสาย “เออ..ว่าไงปราง” [มาร์ชนอนยัง ปรางโทรมาถามเรื่องงานที่จะส่งพรุ่งนี้น่ะ] “ยังไม่นอน” [งั้นดีเลย ปรางขอรบกวนหน่อยนะ] “อืม” ปากคุยโทรศัพท์แต่มาร์ชกลับมองไปยังมายด์ เด็กสาวยืนลูบหน้าพยายามตั้งสติและสบตากับเขา เธอใจสั่นและรู้สึกเขินอายกับเหตุการณ์เมื่อครู่ เสียงสนทนาระหว่างมาร์ชกับมะปรางดังต่อไปเรื่อยๆ จนผ่านไปหลายนาทีมายด์จึงตัดสินใจพูดแทรกขึ้น “มายด์ ขอตัวกลับห้องก่อนนะคะพี่มาร์ช” พูดจบร่างบางก็ผลุนผลันออกไปอย่างรวดเร็ว มาร์ชมองตามไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย พลางนึกถึงจูบเมื่อครู่รอยยิ้มร้ายกาจก็ปรากฏขึ้น [มาร์ช มาร์ช ฟังปรางพูดอยู่มั้ยอ่ะ เมื่อกี้เสียงใครเหรอ มาร์ชอยู่กับใคร?] “ไม่ได้อยู่กับใคร เมื่อกี้ปรางว่าไงนะ” [อ่อ ปรางถามเรื่องรายงานบทที่ 5 น่ะ มาร์ชช่วยอธิบายให้ปรางฟังได้มั้ย] “อืม ได้สิ” บทสนทนาระหว่างมาร์ชกับมะปรางยังคงดำเนินต่อไป มาร์ชสามารถดึงความรู้สึกออกจากจูบได้อย่างรวดเร็วและจดจ่อกับการพูดคุยเรื่องรายงานแตกต่างจากเด็กสาวที่กลับห้องมาแล้วนอนคลุมโปงลืมตาคิดถึงจูบอันดูดดื่มระหว่างมาร์ชกับเธอ “ทำไม? หน้าเราร้อนวูบวาบแบบนี้นะ” เสียงพึมพำพร้อมกับนิ้วเรียวที่ยกขึ้นมาลูบไล้ริมฝีปากตัวเอง ..พี่มาร์ชคิดอะไรกับเราหรือเปล่าถึงได้จูบเรา.. ..ไม่หรอกมั้ง พี่มาร์ชไม่มีทางคิดอะไรกับเราหรอก เพ้อเจ้อน่ามายด์.. ..แต่พี่น้องไม่ควรจูบกันหนิ พี่มาร์ชต้องคิดอะไรกับเราแน่ๆ เลย.. เด็กสาวนอนลืมตาเถียงกับตัวเองอยู่ค่อนคืนถึงข่มตาหลับลงได้ แต่กระนั้นริมฝีปากบางก็แต่งแต้มด้วยรอยยิ้ม เพราะคาดหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพี่ชายร่วมโลกคงดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน หลังจากผ่านการจูบอันดูดดื่มด้วยกัน..
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม