คนหนึ่งเป็นแฟน แต่ต้องแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง

1451 คำ
กรุงเทพมหานคร นิษฐานัดเจอกับเพทายที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มต้องการปลอบใจเรื่องที่เธอยกเลิกแข่งม้าเพราะนิสรากำลังป่วย สาเหตุที่ต้องยกเลิกเพราะวันแข่งม้าเป็นวันเดียวกันกับวันที่น้องสาวผ่าตัดซึ่งก็คือวันนี้ "ไม่เป็นไรนะเจีย ไว้คราวหน้าค่อยแข่งก็ได้ จะได้มีเวลาซ้อมมากขึ้นด้วย อีกอย่างตอนนี้การผ่าตัดของจีนก็ผ่านไปได้ด้วยดีแล้ว" แม้จะได้รับคำปลอบใจ แต่นิษฐาก็ยังคงมีแววตาเศร้าหมอง เพราะไม่รู้ว่าตนจะได้กลับมาแข่งม้าอีกเมื่อไหร่ หญิงสาวจำใจต้องหยุดแข่งม้าสักระยะเพื่อไปดูแลพ่อเลี้ยงรักษา เป็นการใช้หนี้เงินที่ยืมมาหนึ่งล้านบาท อยู่ๆ เธอก็คิดถึงบิดามารดาที่จากไป "เวลาแบบนี้ เจียคิดถึงพ่อกับแม่ที่สุดเลยค่ะ" ดวงตากลมโตแดงก่ำเมื่อพูดถึงครอบครัวที่จากไป ครอบครัวของนิษฐาเคยร่ำรวยและเป็นเจ้าของสนามม้าเมื่อหลายปีก่อน เธอจึงรักการขี่ม้าเป็นชีวิตจิตใจมาตั้งแต่เป็นเด็ก แม้วันนี้สนามม้าของครอบครัวจะถูกขายไปแล้วเมื่อหลายปีเพราะปัญหาทางเศรษฐกิจ แต่หญิงสาวก็ยังคงเป็นที่รักของเจ้าของคนใหม่ จึงสามารถใช้สนามม้าแห่งนี้เป็นที่ฝึกซ้อมได้โดยไม่เสียเงิน นิษฐายังเป็นเจ้าของม้าหนึ่งตัวที่ใช้ฝึกซ้อมเป็นประจำอยู่ที่นั่นด้วย เพราะการขี่ม้าสำหรับเธอเปรียบเสมือนการระลึกถึงพ่อแม่ที่จากไปเสมอ และตอนนี่เธอก็กำลังกลุ้มใจ เพราะคิดอยากจะขายม้าของตนเองเพื่อเอาเงินไปใช้หนี้คุณรังสิมา แต่ก็ยากที่จะทำใจ เพราะเธอรักม้าตัวนี้มาก "เจีย ผมเข้าใจความรู้สึกนะครับ แต่อย่างน้อยเจียก็มีผมอยู่ตรงนี้ ไว้เดี๋ยวจีนดีขึ้นผมจะไปขี่มาเป็นเพื่อนนะ แล้วก็จะไปดูเจียแข่งม้าด้วย" เพทายยิ้มปลอบโยน "ทาย...เจียคงไม่แข่งม้าแล้วนะ เจียว่าจะย้ายไปอยู่ที่เชียงรายสักระยะ" หญิงสาวไม่สามารถบอกรายละเอียดที่แน่นอนได้มากกว่านี้ เพราะไม่รู้ว่าพ่อเลี้ยงรักษาจะหายเป็นปกติตอนไหน และไม่ต้องการพูดคุยเรื่องที่ตนยืมเงินมาจากคุณรังสิมาแลกกับการไปดูแลลูกชายของนาง เกรงว่าเพทายจะไม่เข้าใจการตัดสินใจของตน "สักระยะ งั้นก็แปลว่าคงไม่นานเท่าไหร่ หรือว่าเจียจะไปซ้อมขี่ม้าที่นั่น" เพทายรู้ว่านิษฐาชอบไปเที่ยวพักผ่อนและขี่ม้าที่ภาคเหนือเป็นประจำ เขาจึงคิดว่าหญิงสาวเพียงแค่ต้องการซ้อมให้มากขึ้นเท่านั้น "ก็ประมาณนั้นแหละ เจียรู้จักกับเจ้าของฟาร์มม้าเล็กๆ ที่นั่นก็เลยว่าจะไปลองซ้อมดู เสียค่าสนามไม่เยอะด้วย เจียชอบความสวยงามของไร่ฟาร์มที่นั่น" หญิงสาวไม่ได้โกหกเรื่องความสวยงามของไร่ฟาร์ม เพียงแค่ไม่ได้บอกความจริงว่าตนรับงานอื่นด้วยก็เท่านั้น "เสียดายที่ทายต้องทำงานที่นี่ ไม่งั้นคงได้ตามไปให้กำลังใจเจียซ้อมขี่ม้าที่นู่นแล้ว" เขาพูดเสียงเศร้า "ว่างเมื่อไหร่ก็ค่อยไปก็ได้ เราต่างคนต่างก็มีหน้าที่เป็นของตัวเอง เพราะฉะนั้นทายต้องตั้งใจทำงานนะ" นิษฐาเองก็อยากให้กำลังใจเพทายเช่นเดียวกัน เพราะทั้งสองคนมีอะไรที่คล้ายๆ กัน เธอมีน้องสาวส่วนเขามีน้องชาย เธอไม่มีครอบครัวพร้อมหน้าเช่นกับที่เขาไม่มี จึงเข้าใจหัวอกกันและกันเป็นอย่างดี "ทายก็ตั้งใจทำงานอยู่ทุกวันนี้แหละ" "ดีมาก" เธอยิ้มให้ เขาจึงจ้องมองใบหน้าสวยด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก นิษฐารับรู้เสมอมาว่าเพทายมีความรักและความห่วงใยให้ตน แต่เธอกลับคิดเสมอเช่นเดียวกันว่ามันเป็นความรักความหวังดีแบบเพื่อน จนกระทั่งเขาขยับมือหนามาเพื่อกุมมือของเธอไว้ "เจียครับ..." "ทาย...จะทำอะไร?" หญิงสาวพยายามดึงมือของตนกลับมา ทว่าเขากลับกุมมือเล็กแน่นยิ่งขึ้นอีก "ตอนนี้เราสองคนก็เป็นเป็นผู้ใหญ่กันแล้วนะครับ แล้วตอนนี้เจียก็จะย้ายหนีผมขึ้นไปอยู่เชียงรายทั้งที่เพิ่งซื้อคอนโดเกือบสิบล้านด้วยเงินสดๆ มันทำให้ทายคิดว่าการตัดสินใจของเจียมันเด็ดเดี่ยวเสมอเหมือนที่เป็นมา ทายกลัวว่าตอนเจียไปอยู่ที่เชียงรายแล้วจะมีพ่อเลี้ยงไร่เหนือผู้ร่ำรวยมาจีบ ทายก็เลยต้องรีบขอเจียเป็นแฟนก่อนที่พายจะไม่มีโอกาส" "ทาย..." หญิงสาวมองหน้าเพทายด้วยแววตาสับสน "เจียครับ...เป็นแฟนกันนะครับ" เธอไม่ได้มีความรู้สึกยินดียินร้ายกับคำขอของเพื่อนสนิท และยังเอาแต่ส่ายหน้าอย่างลืมตัว ขณะที่เพทายคลี่ยิ้มเฝ้ารอคำตอบใจจดจ่อ... หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป นิษฐากลับมาที่ไร่รักษ์เขาอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้เธอกลับมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ บ่งบอกว่าจะมาอยู่เป็นเวลานาน คุณรังสิมาได้ยินเสียงรถขับเข้ามาจอดหน้าบ้านจึงเดินออกมารับหญิงสาว ส่วนพ่อเลี้ยงรักษายืนมองลงมาจากริมระเบียงห้องนอน เขาเผลอยิ้มมุมปากอย่างลืมตัว "สวัสดีค่ะแม่นาย" นิษฐายกมือไหว้คุณรังสิมาด้วยรอยยิ้ม เธอชะเง้อมองหาพ่อเลี้ยงรักษา ทว่ากลับไม่เห็นแม้แต่เงา ผิดกับตอนที่ตนอยู่กรุงเทพฯ ที่เขาอาจจะส่งข้อความหาทุกวัน ราวก็เป็นการเร่งเร้าให้รีบกลับมา "ยินดีต้อนรับกลับไร่จ้ะหนูเจีย แม่บ้านจัดเตรียมห้องไว้ให้หนูเรียบร้อยแล้วนะ เดี๋ยวให้ขลุ่ยยกกระเป๋าขึ้นไปไว้ให้" นางกล่าวต้อนรับด้วยความอบอุ่น "ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่นาย เดี๋ยวหนูยกกระเป๋าขึ้นไปไว้บนห้องเองดีกว่าค่ะ" "ไม่ต้องหรอก ให้ขลุ่ยยกขึ้นไปให้ดีแล้ว ส่วนหนูเดี๋ยวไปนั่งพักผ่อนที่ริมระเบียงฝั่งสนามม้ากับฉันดีกว่า เดินทางมาเหนื่อยๆ เดี๋ยวฉันจะหาอะไรเย็นๆ ให้ดื่ม" นิษฐาไม่อยากขัดเจ้าของบ้านจึงยอมทำตาม "ก็ได้ค่ะแม่นาย งั้นฝากกระเป๋าด้วยนะจ๊ะขลุ่ย" นิษฐาหันไปพูดกับสาวใช้ด้วยรอยยิ้ม จากนั้นจึงเดินตามคุณรังสิมาออกไปยังระเบียงบ้านฝั่งสนามม้า "ดื่มน้ำมะตูมก่อนนะหนูเจีย" นางบอกเมื่อแม่บ้านยกแก้วน้ำมะตูมมาเสิร์ฟ คุณรังสิมาจ้องมองใบหน้าสวยละมุนของนิษฐาด้วยแววตาเอ็นดู หญิงสาวกำลังยกแก้วน้ำมะตูมขึ้นดื่มด้วยสีหน้ามีความสุข "อร่อยชื่นใจมากค่ะแม่นาย ที่นี่มีแต่ของอร่อยทั้งนั้นเลยนะคะ" เธอพูดด้วยรอยยิ้ม แต่กลับต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่าคุณรังสิมามีสีหน้าจริงจังแตกต่างจากก่อนหน้านี้ "ความจริงฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับหนู" "คะ? แม่นาย..." "ทีแรกฉันตั้งใจว่าจะให้หนูมาช่วยดูแลพ่อเลี้ยงรักษาแลกกับเงินหนึ่งล้านบาทนั่น แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ฉันอยากให้หนูแต่งงานกับพ่อเลี้ยงรักษา เป็นการตอบแทนเงินหนึ่งล้านบาทที่ฉันให้หนูไป" คุณรังสิมาไม่ยอมพูดในสิ่งที่พ่อเลี้ยงรักษากล่าวหานิษฐา และนางยอมถูกคนมองว่าเห็นแก่ตัวที่กำลังบังคับทางอ้อมให้หญิงสาวผู้แสนดีเช่นนิษฐาแต่งงานกับบุตรชายของตน นิษฐาอึ้งไปกับคำขอของคุณรังสิมา แต่ตนก็ไม่ลืมคำสัญญาที่เคยให้ไว้ ว่าจะยอมทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนบุญคุณที่นางช่วยเหลือ "เอ่อ...แม่นาย" "หนูเจีย ฉันไม่ได้บังคับหนูนะ ฉันกำลังบอกความต้องการที่แท้จริงของฉัน แต่ถ้าหนูจะปฏิเสธฉันก็ไม่ว่าอะไร ไม่โกรธ ไม่ทวงเงิน แล้วก็จะยังเอ็นดูหนูเหมือนเดิม แต่รักษานี่สิ..." นางแกล้งพูดไปถึงบุตรชาย แล้วจึงทำสีหน้าเศร้าเหมือนกำลังจะร้องไห้ ถึงแม้มันจะเป็นเพียงละครฉากหนึ่ง แต่ที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อความสุขของทั้งสองคน นิษฐาตกใจจึงรีบขยับเข้าไปนั่งใกล้นาง อ่านจบแล้วอย่าลืมส่งคอมเมนต์มาพูดคุยกันนะคะ ชอบหรือไม่ชอบยังไงก็คอมเมนต์มาบอกด้วยค่ะ ขอบพระคุณค่า❤
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม