พ่อเลี้ยงใจร้าย

1724 คำ
"พ่อเลี้ยงทำไมคะแม่นาย?" "รักษาเขาแค่อยากให้หนูพิสูจน์ ว่าหนูเข้ามาอยู่ในไร่นี้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ เขาก็เลยบอกว่าจะแต่งงานกับหนู" คุณรังสิมาพูดในสิ่งที่ตนวางแผนเอาไว้ "แปลว่า...พ่อเลี้ยงรู้เรื่องเงินหนึ่งล้านบาทแล้วเหรอคะ?" นิษฐายิ่งไม่สบายใจ เพราะเรื่องเงินก้อนนี้อาจทำให้ชายหนุ่มรังเกียจตน เขาคงหาว่าตนหน้าเงินและเข้ามาหลอกเอาทรัพย์สินจากคุณรังสิมาเป็นแน่ "เขาแอบได้ยินที่เราคุยกันเรื่องเงินคืนก่อนที่หนูจะกลับกรุงเทพฯ แต่รักษาเขาเป็นคนเสนอเองนะว่าเขายินดีแต่งงานกับหนู เพื่อที่หนูจะได้ไม่ต้องหาเงินหนึ่งล้านมาคืน และฉันก็อยากให้หนูแต่งงานกับรักษามาก" นางอธิบาย "งั้นก็แปลว่าคนที่อยากให้หนูแต่งงานกับพ่อเลี้ยงคือแม่นายเหรอคะ?" "ก็ใช่ ฉันอยากให้หนูแต่งงานกับรักษามาก แต่ฉันยืนยันได้เลยนะว่าคนที่พูดเรื่องแต่งงานขึ้นมาก่อนก็คือพ่อเลี้ยงรักษา" นางไม่ได้โกหกในเรื่องนี้ แม้จะบอกจุดประสงค์จะแตกต่างกันก็ตาม "แต่แม่นายคะ เรื่องแต่งงานมันเป็นเรื่องใหญ่มากเลยนะคะ หนูคิดว่าหนูคงจะต้องหาเงินมาคืนแม่นายให้เร็วที่สุด เราจะได้ไม่ต้องพูดเรื่องแต่งงานนี้กันอีก" "หนูเจีย หนูจะไม่ลองคิดดูก่อนเลยเหรอลูก อย่าลืมนะว่ารักษาเขาเป็นคนพูดเองว่าเขาอยากแต่งงานกับหนู จะทำลายความต้องการเขาขนาดนั้นเลยเหรอ อีกอย่างมันก็เป็นความต้องการจริงๆ ของฉันด้วย ฉันไม่ได้อยากทวงบุญคุณอะไรเลยนะ แต่ฉันจะถือว่าเป็นบุญของฉันมากเลยถ้าหนูยอมแต่งงานกับพ่อเลี้ยงเขา" คุณรังสิมาโน้มน้าว เมื่อนางพูดเช่นนั้นแล้วยิ่งทำให้นิษฐาหนักใจ เพราะความจริงแล้วตนควรที่จะตอบแทนบุญคุณนางในทุกเรื่องที่สามารถทำได้ หญิงสาวมีสีหน้าเศร้าหมองและกำลังครุ่นคิด แต่ลึกๆ ในใจก็มีความรู้สึกดีๆ ให้กับพ่อเลี้ยงรักษาแม้จะเพิ่งจะรู้จักกันก็ตาม นิษฐาจ้องมองใบหน้าของคุณรังสิมาพร้อมกับนึกไปถึงเรื่องที่คุยกันวันนั้น เรื่องที่นางบอกว่าเหงาและอยากมีหลาน "ถ้างั้น...หนูขอเวลาคิดหน่อยนะคะแม่นาย" เธอบอก "ได้สิจ๊ะ แต่ฉันคาดหวังนะ คาดหวังว่าหนูจะยอมรับความปรารถนาดีของฉัน นางกุมมือของนิษฐาไว้ จากนั้นจึงปล่อยให้หญิงสาวได้พักผ่อนตามลำพัง นิษฐานั่งอยู่คนเดียวที่ริมระเบียงราวหนึ่งชั่วโมงแล้ว เธอกำลังคิดไปถึงเรื่องที่เพทายขอเป็นแฟน และตนก็ตอบไปเพียงแค่ว่าขอคิดดูก่อนเช่นนี้ ตอนนี้มันจึงรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งหัวใจ แต่หากพูดถึงความเป็นจริง สำหรับเพทายแล้วเธอรักเขาแบบเพื่อนเท่านั้น แต่สิ่งที่คุณรังสิมาขอกลับเป็นบุญคุณที่ต้องตอบแทน ตนคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตหากปฏิเสธคนที่มีบุญคุณกับตนมากขนาดนี้ "เฮ้อ...ทำไมมันถึงได้หลายเรื่องแบบนี้นะ" นิษฐาถอนหายใจและพึมพำอยู่คนเดียว โดยไม่รู้ว่าพ่อเลี้ยงรักษาเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังตนแล้ว "มีเรื่องอะไรให้คิดขนาดนั้น?" เขาถามขึ้นเสียงเรียบ และเดินมาทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้อีกตัวหนึ่งใกล้ๆ กัน นิษฐาจึงหันไปมองใบหน้าหล่อคมคาย "มาก็ดี ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณอยู่พอดี" "ให้ฉันเดา คงเป็นเรื่องแต่งงาน?" รักษาเลิกคิ้วถาม เธอจึงทำหน้าบึ้งไม่สบอารมณ์ "ใช่ค่ะ ทำไมคุณถึงตกลงแต่งงานกับฉันล่ะคะ?" นิษฐาถาม ทว่ารักษากลับเงียบไม่ยอมตอบ "นี่คุณ ถึงขั้นนี้แล้วก็คุยกันให้มากกว่าเมื่อก่อนหน่อยเถอะนะคะ" เธอพูดราวกับกำลังขอร้อง "เธอคงตอบตกลงคุณแม่ไปแล้วสินะ ว่าจะยอมแต่งงานกับฉัน" เขาถามตรงประเด็น เพราะเรื่องเดียวที่อยากรู้ตอนนี้ก็คือคำตอบของหญิงสาว "ถ้าฉันตอบว่าฉันคิดล่ะ ฉันคิดว่าจะตอบตกลงแต่งงานกับคุณ คุณจะว่ายังไงคะ?" "หึ!" รักษาแค่นหัวเราะด้วยรอยยิ้มเหยียดหยันทันทีที่ได้ฟังนิษฐาพูด "แต่นั่นเป็นเพราะความต้องการของคุณและแม่คุณนะคะ แต่ฉันรู้หรอกว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่" "เธอไม่รู้หรอกว่าฉันคิดอะไรอยู่" รักษาพูดเท่านั้นแล้วจึงลุกขึ้นยืน จากนั้นจึงเดินกลับเข้าไปในบ้านโดยไม่สนใจหญิงสาวเลย "พ่อเลี้ยง เดี๋ยวก่อนสิคะ ยังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย" เธอเรียกตามหลัง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมหันกลับมามอง นิษฐาได้แต่มองตามหลังคนตัวโตด้วยความหงุดหงิด เพราะรักษายังคงเอาแต่ใจตัวเองเช่นอาทิตย์ที่แล้ว แต่มีสิ่งเดียวที่เขาเปลี่ยนไป คือพูดมากกว่าเดิมเท่านั้น หญิงสาวตัดสินใจเดินตามชายหนุ่มกลับเข้าไปในบ้าน ก๊อก ๆ ๆ "พ่อเลี้ยงคะ ออกมาคุยกันก่อนสิคะ" เธอเคาะประตูเรียก แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับใดๆ มือเรียวจึงถือวิสาสะหมุนลูกบิดประตู เห็นว่าไม่ได้ล็อกจึงเปิดเข้าไป ถึงเห็นว่าชายหนุ่มนั่งอยู่บนเตียงนอนของเขา "ขอโทษนะคะที่เข้ามารบกวน" เธอเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา "จะขอโทษทำไม อีกหน่อยแต่งงานกันเธอก็ต้องย้ายเข้ามานอนในห้องนี้อยู่ดี" รักษาพูดประชดประชัน ขุ่นเคืองใจที่นิษฐาเป็นผู้หญิงหน้าเงินเหมือนที่ตนตราหน้าไว้ เธอช่างไม่ต่างอะไรจากผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เขาเคยเจอ "ถ้าคุณไม่พอใจขนาดนั้นฉันไม่แต่งงานกับคุณก็ได้ค่ะ ฉันยอมให้แม่ยายมองว่าฉันเป็นคนไม่สำนึกบุญคุณก็ได้ อีกอย่างฉันก็ตั้งใจจะหาเงินมาคืนแม่นายอยู่แล้ว แต่จะรีบหามาคืนให้เร็วขึ้นก็แล้วกันนะคะ" ในเมื่อรักษาไม่อยากแต่งงานเธอก็จะไม่มีวันแต่ง นิษฐาพูดจบแล้วจึงหมุนตัวหันหลังให้เขาเพื่อเดินออกจากห้องนอน แต่ร่างกำยำกลับรีบกระโดดลงจากเตียงนอน และก้าวขาฉับๆ เข้ามาขวางทางไว้เสียก่อน "ฉันไม่ต้องการเงินผ่อนจ่าย ฉันต้องการให้เธอแต่งงานกับฉันเพื่อใช้หนี้เงินหนึ่งล้านบาทที่ยืมไป ไม่รับเป็นอย่างอื่นด้วย" รักษาประกาศเสียงดังต่อหน้านิษฐา แต่นั่นกลับยิ่งทำให้หญิงสาวสับสน ชายหนุ่มพูดเหมือนไม่อยากแต่งงาน แต่กลับกำลังบังคับให้ตนแต่งงาน มันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย "ก็ไหนบอกไม่อยากแต่งไงคะ?" นิษฐากอดอกถามน้ำเสียงเอาเรื่อง "ฉันพูดตอนไหนว่าฉันไม่อยากแต่ง?" รักษาพเยิดหน้าถามกลับ "ก็คุณพูดเหมือนฉันแต่งงานกับคุณเพราะเงินอ่ะ" "แล้วมันไม่จริงตรงไหน?" เขาเลิกคิ้วถามอีก "มันไม่จริงตรงนี้แหละ ตรงที่ฉันไม่ได้อยากเป็นคนไม่รู้บุญคุณคน แต่ที่ฉันจะแต่งงานกับคุณก็ไม่ได้แปลว่าฉันอยากจะแต่ง" เธอเหนื่อยที่จะอธิบาย และยิ่งเห็นว่ารักษามีนิสัยไร้เหตุผลเช่นนี้ยิ่งไม่อยากพูดจาดีๆ กับเขาแล้ว "ก็แค่ข้ออ้าง เข้ามาดูสมบัติในบ้าน เห็นว่าแม่ฉันร่ำรวยมีเงินก็เลยทำดีเข้าหา คิดว่าฉันไม่รู้หรือยังไง" "คุณรักษา ฉันบอกคุณแล้วไงว่าถ้าคุณจะมองฉันในแง่ร้ายขนาดนั้นเราก็ไม่ต้องแต่งงานกันก็ได้ แม่นายไม่ได้บังคับ ท่านถามถ้าฉันเต็มใจหรือไม่เต็มใจ ตอนนี้ฉันพูดได้เลยว่าฉันไม่แต่งงานกับคุณ หลบไป" เธอออกปากไล่เขาที่ยืนขวางประตูห้องนอนอยู่ ทว่าชายหนุ่มกลับยังคงยืนอยู่ที่เดิม และจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาดูถูกดูคลาน "เธอต้องแต่งเพื่อตอบแทนบุญคุณคุณแม่ ถึงแม้ว่าฉันจะดูถูกดูแคลนเธอก็ต้องแต่ง" "คนไร้เหตุผล" เธอว่าให้เขา "ฉันเคยคิดว่าเธอแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่น" "หยุดพูดเลยนะ!" นิษฐาพูดแทรกขึ้นทันที และยังชี้นิ้วตรงริมฝีปากของชายหนุ่มเป็นการบอกให้เขาหยุดพูด "คุณกลับไปเป็นคนไม่พูดเหมือนเดิมนั่นแหละดีแล้ว ดูพูดออกมาแต่ละคำสิ ไอ้คุณรักษา" นิษฐาว่าให้เขาอย่างเหลืออดเลือดทน จากนั้นจึงผลักคนตัวโตให้หลบออกจากประตูและรีบเดินออกจากห้องนอนไป นิษฐาเดินลงบันไดชานเรือนลงมายังชั้นล่าง เธอกอดอกยืนมองต้นมะม่วงหน้าบ้านด้วยสีหน้าบึ้งตึง ขณะที่ภุชงค์กำลังเดินมาหาเจ้านาย แต่เขาดันเจอว่านิษฐายืนอยู่ ผู้จัดการไร่หนุ่มไม่รู้ว่าหญิงสาวเป็นใคร กำลังจะเดินเข้ามาทักแต่กลับเห็นว่าเธอกำลังพูดคนเดียว "ไม่น่าล่ะมะม่วงไม่เป็นลูก ก็เพราะดันมาเกิดในบ้านพ่อเลี้ยงรักษานี่ไง คนอะไรบ้าจริง" นิษฐาพูดกับต้นมะม่วง ทำให้ภุชงค์ที่ยืนฟังอยู่กลั้นขำแทบไม่ไหว "ฮ่าๆๆๆๆๆ" เขาหัวเราะร่าเสียงดังเสียจนหญิงสาวต้องรีบหันขวับไปมอง "คุณเป็นใคร แล้วหัวเราะอะไรคะ?" หญิงถามสีหน้าบึ้งตึง ไม่ใช่ไม่พอใจที่ชายหนุ่มหัวเราะร่า แต่ยังคงรู้สึกโกรธเคืองพ่อเลี้ยงรักษาอยู่ต่างหาก "ปะ เปล่าครับ ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจหัวเราะที่เห็นคุณคุยกับต้นมะม่วงนะครับ" ภุชงค์รีบขอโทษขอโพย "ไอ้ชงค์! มึงมาทำไม?" ทว่าทันใดนั้นเสียงพ่อเลี้ยงรักษาก็ตะโกนถามขึ้น เขายืนอยู่บนชานเรือนและกอดอกมองลงมายังนิษฐา ภุชงค์จึงรีบเดินขึ้นไปหาเจ้านายบนเรือน ส่วนนิษฐารีบเดินออกจากบริเวณนั้นเพราะไม่อยากเห็นหน้าพ่อเลี้ยงรักษานั่นเอง อ่านจบแล้วส่งคอมเมนต์มาให้กำลังใจปันหยีด้วยนะคะ ❤❤
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม