ผู้หญิงของเขา

1432 คำ
"พ่อเลี้ยงครับ ผมว่าจะมาถามว่า..." ภุชงค์ยังไม่ทันจะได้พูดจบ รักษาก็รีบวิ่งลงบันไดชานเรือนและเดินตามหลังนิษฐาไป "อะไรของเขาวะ?" ภุชงค์ส่ายหน้างวยงง เพราะยังไม่ได้ถามเสียด้วยซ้ำว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ด้านรักษาเดินตามนิษฐามาจนกระทั่งถึงสำนักงานไร่ เธอกำลังจะเดินไปหาวาคินที่คอกม้า แต่เขากลับเดินมาขวางทางไว้เสียก่อน ทว่าหญิงสาวไม่ยอมคุยด้วย เธอกอดอกและเมินหน้าหนีไปทางอื่น ขณะที่คนงานในไร่กำลังทยอยกลับมาจากเก็บใบชาในช่วงเช้าเพื่อรับประทานมื้อเที่ยง พวกเขาต่างมองมายังเจ้านายและหญิงสาวที่ยืนอยู่ใต้ต้นมะขามใหญ่หน้าสำนักงานไร่ "จะไปไหน?" ชายหนุ่มถามเสียงดุ แม้จะรู้ว่ากำลังถูกคนงานมองมาก็ไม่สนใจ "ฉันจะไปดูม้า" เธอตอบสั้นๆ และเดินหลบคนขวางทางไปโดยไม่รอต่อปากต่อคำ รักษาจึงเดินตามหลังนิษฐาไปอีก "แล้วคุณจะตามฉันมาทำไมคะ?" เธอถามขึ้นเสียงดังเมื่อเดินมาจนถึงคอกม้า "ก็มาทวงสัญญาไง" รักษาพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม นิษฐาขมวดคิ้วยุ่ง "สัญญาอะไรคะ?" เธอลืมไปเสียสนิท จำไม่ได้เสียด้วยซ้ำว่าตนสัญญาอะไรกับพ่อเลี้ยงรักษาไว้ "ก็สัญญาที่ว่ากลับมาจะพาฉันไปทานข้าวข้างนอกไง" นิษฐาฟังแล้วก็แอบถอนหายใจ พลันมองไปยังเจ้าทิวาที่รอกินหญ้าอยู่ในคอก "แต่คุณก็ดูสบายดีแล้วนี่คะ ออกไปทานเองแม่นายก็คงไม่ว่าอะไรหรอก" หญิงสาวคิดว่าตนไม่จำเป็นที่จะต้องดูแลพ่อเลี้ยงรักษาแล้วเสียด้วยซ้ำ เพราะดูเหมือนเขาจะไม่ได้ป่วยจริงๆ เพียงแค่เรียกร้องความสนใจก็เท่านั้น "แต่เธอมีหน้าที่ต้องดูแลฉัน นั่นคือเหตุผลที่เธอหอบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของฉัน ลืมไปแล้วเหรอ? หรือคิดว่าตัวเองย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะเจ้าของไร่ซะแล้ว" รักษาเลิกคิ้วถามเสียงประชดประชัน "นั่นน่ะสิ ถ้าฉันแต่งงานกับคุณจริงๆ อีกหน่อยฉันก็คงได้เป็นเจ้าของที่นี่ สมบัติทุกอย่าง ม้าทุกตัวแม่นายก็อาจจะยกให้ฉันก็ได้ เพราะว่าคุณน่ะมันป่วย" นิษฐาพูดใส่หน้ารักษา พร้อมกับรอยยิ้มเย้ยหยันอย่างเช่นที่ชายหนุ่มชอบทำใจตน "หึ! ฝันกลางวัน" เขาว่า "ฝันที่กำลังจะเป็นจริงต่างหาก ในเมื่อคุณอยากกล่าวหาฉันดีนัก ก็ได้ ฉันจะไปบอกแม่นายว่าฉันยอมแต่งงานกับคุณ เผื่อแม่นายจะยอมยกสมบัติทุกอย่างให้ฉัน จะได้พอใจในสิ่งที่คุณพูดไง คุณนี่มันป่วยทั้งกายป่วยทั้งใจรู้ตัวหรือเปล่า" เธอว่าให้เขาอีก จากนั้นจึงเดินไปหอบหญ้าไปให้เจ้าทิวา น่าแปลกที่รักษากลับไม่ยอมเถียงอะไร เขาดีใจเสียด้วยซ้ำที่นิษฐาพูดว่าจะยอมแต่งงานแต่โดยดี "อ้าว พ่อเลี้ยง คุณเจีย สวัสดีครับ" ระหว่างนั้นวาคินก็เดินเข้ามาหาทั้งสอง ชายหนุ่มทราบเรื่องที่นิษฐาจะมาอยู่ในไร่เพื่อดูแลเจ้านายจากแม่นายรังสิมาแล้ว และวาคินก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่นิษฐาจะมาอยู่ด้วยกัน "สวัสดีค่ะคุณคิน เดี๋ยววันนี้ฉันมาช่วยกวาดคอกม้านะคะ" เธอพูดแล้วจึงเดินไปหยิบเอาไม้กวาดที่วางอยู่มา "อุ๊ย คุณเจีย ไม่ต้องหรอกครับ ไม่ดีหรอกครับ ให้คนงานที่นี่ทำดีกว่า" วาคินรีบเข้าไปแย่งเอาไม้กวาดจากมือของนิษฐา เพราะเห็นสีหน้าของเจ้านายที่กำลังบึ้งตึงเหมือนอมรังแตน "ให้เจียทำงานเถอะนะคะ จะได้ไม่ต้องอยู่เฉยๆ แล้วก็คิดฟุ้งซ่านจนเป็นประสาทเหมือนคนบางคน" เธอพูดพลันชำเลืองมองไปยังพ่อเลี้ยงรักษา "เขาอยากทำก็ให้เขาทำ มาทำงานไม่ใช่เหรอ ไม่ได้มาอยู่เพื่อเป็นนายหญิงของไร่" วาคินเบิกตาโพลงกับคำพูดของเจ้านาย คิดไม่ถึงว่านอกจากเขาจะยอมพูดแล้วยังจะปากคอเราะรายอีก "ค่ะ ว่าแต่พ่อเลี้ยงเถอะค่ะ ไม่มีงานการทำเหรอคะ หลบออกไปได้แล้ว ฉันจะกวาดขี้ม้า" เธอพูดแล้วจึงดึงไม้กวาดกลับมาจากมือของวาคิน จากนั้นก็ลงมือกวาดเศษหญ้ามากองไว้ และยังแกล้งกวาดเศษหญ้าไปโดนเท้าของพ่อเลี้ยงรักษาด้วย "ฉันจะนั่งรอตรงนี้จนกว่าเธอจะกวาดเสร็จ" เขาไม่สนใจคำพูดและการกระทำของหญิงสาว จากนั้นจึงทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ริมคอกม้า ทว่าทันใดนั้นเสียงเรียกของภุชงค์ก็ดังขึ้น "นายครับ มีคนมาหาครับ" ผู้จัดการไร่หนุ่มเดินตรงมาหา โดยมีหญิงสาวคนหนึ่งเดินตามหลังมาด้วย "รักษาขา ช่อมาเยี่ยมค่ะ" เสียงแหลมดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มจริตจะก้านบนใบหน้าสวยละเมียดละไมเพราะเครื่องสำอาง ช่อเอื้องสวมชุดเดรสเกาะอกสีแดงสด กับรองเท้าส้นสูงปรี๊ดสีเดียวกับชุด ทว่าพื้นหญ้าหน้าฝนเช่นนี้ทำให้ส้นรองเท้าของหล่อนจมลงไปกับดินจนแทบเดินไม่ได้ ทุกสายตาต่างจับจ้องไปยังเจ้าของร่างอรชรที่กำลังพยายามก้าวขาเดิน "อ๊าย! รักษาคะ ช่วยช่อหน่อยสิคะ พื้นที่นี่มันเละจนเดินไม่ได้เลยค่ะ" หล่อนร้องขอความช่วยเหลือมายังพ่อเลี้ยงรักษาเสียงออดอ้อน ทว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มกลับเอาแต่นั่งกอดอกขมวดคิ้ว ส่วนนิษฐาชำเลืองมองมายังรักษา พลันคิดในใจว่าผู้หญิงคนนี้คงเป็นหนึ่งในผู้หญิงของเขาเป็นแน่ "พ่อเลี้ยงครับ เอาไงดีครับ?" ภุชงค์ถามเพราะเห็นว่าช่อเอื้องกำลังพยายามก้าวขา แต่ดูเหมือนหญ้าจะเกี่ยวส้นรองเท้าส้นสูงของหล่อนไว้ "มึงพามาที่นี่ทำไมวะ?" รักษาถามเสียงดุ เมื่อเห็นว่าเพื่อนเก่าที่เคยเรียนมัธยมด้วยกันมาหาถึงที่นี่ "เปล่าครับ คุณช่อเธอไม่ยอมขึ้นไปรอบนเรือนทั้งที่แม่นายบอกแล้ว เธอเดินตามผมมาเองเพราะคิดว่าถึงยังไงพ่อเลี้ยงก็น่าจะอยู่ที่ไร่" "รักษาคะ มาช่วยช่อซะทีสิคะ ช่อจะล้มอยู่แล้วนะ" หล่อนตะโกนมาอีก "มึงนั่นแหละพามา ไปช่วยเขาเลย" รักษาบอกภุชงค์ "ครับๆ" จากนั้นผู้จัดการไร่หนุ่มจึงเดินเข้าไปช่วยประคองหล่อนให้เดินมาหาเจ้านาย "รักษาอ่ะ ทำไมคุณถึงไม่ยอมราดพื้นปูนให้หมดเลยล่ะคะจะได้เดินง่ายๆ" หล่อนถามเสียงโวยวายเมื่อเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้ารักษา ทว่าเขากลับไม่ตอบอะไร และมองหล่อนด้วยแววตาราบเรียบราวกับคนไม่รู้จักกัน "คุณช่อครับ พ่อเลี้ยงไม่สบายอยู่นะครับ อีกอย่างพ่อเลี้ยงก็ยังไม่ค่อยคุยกับใคร เพราะฉะนั้นถ้าคุณมีธุระอะไรก็คุยกับพวกเราได้นะครับ" วาคินพูดขึ้น "ฉันเพิ่งรู้ว่ารักษาเขาไม่สบายประสบอุบัติเหตุ พอรู้เรื่องก็รีบมาจากกรุงเทพฯมาหารักษาเลยนะคะ รักษาคุณเป็นยังไงบ้างคะ?" หล่อนถามเสียงเป็นห่วงเป็นใย แต่พ่อเลี้ยงหนุ่มกลับไม่อยากตอบคำถามและยังหันหน้าไปหาภุชงค์ ช่อเอื้องหน้าเสียที่รักษาไม่ยอมคุยด้วย แต่จังหวะนั้นหล่อนกลับมองไปเห็นนิษฐาที่กำลังกวาดพื้นคอกม้าอยู่พอดี "หึ! คนงานเลี้ยงม้าที่นี่จำเป็นต้องสวยขนาดนี้เลยเหรอคะ" ช่อเอื้องหันไปถามวาคิน ชายหนุ่มกำลังจะอ้าปากพูดทว่ารักษากลับพูดขึ้นเสียก่อน "เจีย พาฉันกลับบ้านหน่อย" นิษฐามองออกว่ารักษาไม่อยากพูดคุยกับผู้หญิงคนที่มาหา เธอพอจะเข้าใจสถานการณ์ จึงยอมวางไม้กวาดและเดินมาหาชายหนุ่มเพื่อพากลับบ้าน "ไปค่ะ" "อะไรกันคะรักษา ช่ออุตส่าห์มาเยี่ยมแต่ไม่คิดจะคุยกับช่อสักคำ" หล่อนตัดพ้อเสียงดังน่ารำคาญ แต่รักษาก็ยังสนใจ และลุกขึ้นเดินกลับบ้านไปพร้อมกับนิษฐา "อ๊าย! บ้าที่สุด!" ช่อเอื้องสบถ แต่ก็จำใจเดินตามหลังสองคนนั้นกลับไปยังเรือนใหญ่ด้วยความไม่พอใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม