ไร่รักษ์เขา
นิษฐากำลังจัดเสื้อผ้าของตนเองใส่ตู้เสื้อผ้า และกำลังคิดพิจารณาเรื่องแต่งงานกับรักษา ทว่ากลับโดนขัดจังหวะ เมื่อพ่อเลี้ยงหนุ่มถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้องนอนของตน และยังทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงนอนอีกด้วย
"ถึงฉันจะไม่ได้ล็อกประตูห้อง แต่ก็ควรจะรู้จักเคาะประตูบ้างนะคะ"เธอพูดโดยไม่ยอมหันไปมองคนตัวโต
"ฉันจะทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตใคร ที่นี่มันเป็นบ้านของฉัน" นิษฐาจำใจต้องหันมามองรักษาในที่สุดแม้จะไม่อยากมองหน้าเขา
เพราะคำพูดคำจาของชายหนุ่มมันทำร้ายจิตใจของเธออีกครั้ง ร่างเล็กลุกขึ้นยืนหลังจากจัดของเสร็จแล้ว จากนั้นจึงเก็บกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไว้ชิดกำแพง
"งั้นก็เชิญตามสบายนะคะ ฉันจะออกไปข้างนอก" ร่างเล็กกำลังจะเดินออกจากห้องนอนไป ทว่าพ่อเลี้ยงรักษากลับพูดขึ้นเสียก่อน
"เธอจะเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้ทำไม อีกหน่อยก็ต้องย้ายของทั้งหมดไปไว้ห้องนอนของฉันอยู่ดี" นิษฐาหันกลับมามองใบหน้าคมคายด้วยสีหน้าบึ้งตึง เธอกำลังพยายามข่มอารมณ์ความโกรธอยู่
"ให้มันถึงคืนนั้นก่อนเถอะนะคะ อ้อ จะว่าไปแล้วคุณก็ช่วยกรุณาพูดให้มันน้อยๆ เหมือนเมื่อก่อนหน่อยนะ ฉันฟังคุณพูดแล้วฉันก็รู้สึกว่าชีวิตมันสิ้นหวังยังไงก็ไม่รู้" เธอว่าให้เขา
รักษาจึงลุกขึ้นจากเตียงนอน จากนั้นจึงเดินเข้ามาใกล้นิษฐา ร่างเล็กจึงก้าวถอยไปจนแผ่นหลังชนเข้ากับประตูห้องนอน มือเรียวควานหาลูกบิดประตู แต่รักษากลับดึงข้อมือเล็กมากุมไว้เสียก่อน
"สิ้นหวังยังไง?" เขาเลิกคิ้วถามเสียงดุ และกอดรั้งร่างเล็กให้ขยับออกห่างจากบานประตู
"ก็คุณชอบพูดแต่อะไรแย่ๆ" เธอเหนื่อยที่จะอธิบายถึงสิ่งแย่ๆ ที่เขาเคยพูด
"และเธอก็จะต้องทนฟังคำพูดแย่ๆ จากปากของฉันไปตลอดชีวิตเลยล่ะ รับได้หรือเปล่าล่ะ?"
"คุณพูดกับฉันยังไงฉันก็จะพูดกลับไปแบบนั้น คุณนั่นแหละรับให้ได้ก็แล้วกัน"
นิษฐาพูดแล้วจึงสะบัดมือของเขาออก จากนั้นจึงเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาและเมินหน้าหนีไปทางอื่น
"แล้วตกลงเธอจะพาฉันออกไปทานข้าวซอยเมื่อไหร่?" รักษาทวงสัญญาอีกครั้ง ร่างกำยำเดินมาทิ้งตัวนั่งลงข้างกายบอบบาง
ชายหนุ่มสูดดมกลิ่นกายหอมละมุนของนิษฐาด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้ม ขณะที่หญิงสาวกำลังคิดว่าจะพาเขาออกไปดีหรือไม่ เพราะดูแล้วรักษาก็ไม่ได้ป่วยอะไรแล้ว
"ก็ในเมื่อคุณไม่ได้ป่วยแล้วทำไมถึงต้องให้ฉันคอยดูแลคุณด้วยคะ?" เธอหันมาถาม แต่ไม่รู้ว่าเขานั่งใกล้ชิดตนถึงขนาดนี้
ปลายจมูกโด่งของทั้งสองชนกัน สัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นของกันและกัน และความใกล้ชิดนี้กำลังก่อเกิดความสัมพันธ์บางอย่างขึ้นในใจของทั้งสองคน
"เพราะว่าฉันยังป่วยอยู่ เธอมองไม่ออกเหรอ?" รักษาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงฟังดูเหม่อลอย สายตายังคงจับจ้องใบหน้าสวยหวาน แน่นิ่งราวกับต้องมนต์สะกด ความงดงามนี้ทำให้ชายหนุ่มไม่ขยับออกห่างกาย
ทว่านิษฐากลับดึงสติกลับมาได้เสียก่อน เธอรีบขยับออกห่างจากพ่อเลี้ยงรักษา แต่ยังคงรู้สึกราวกับว่าลมหายใจอุ่นหอมของเขายังคงติดอยู่ที่ปลายจมูก
"คุณรักษา มีธุระอะไรอีกหรือเปล่าคะ?" เธอถามพลันมองไปยังนาฬิกาติดผนังแก้เก้อเขิน
"ถ้าเธอไม่ยอมตอบ งั้นฉันก็จะหาวันที่ฉันสะดวกเองก็แล้วกันนะ" รักษาพูดแล้วจึงลุกขึ้นยืน
"ค่ะ" นิษฐาจึงตอบสั้นๆ และหันมาแหงนหน้ามองคนตัวโตก่อนจะลุกขึ้นยืนเช่นเดียวกัน จากนั้นรักษาจึงเดินออกจากห้องนอนไป
โรงแรม
ช่อเอื้องนอนเปลือยกายอยู่บนเตียง โดยพ่อเลี้ยงต้นสักกำลังคร่อมกายของหล่อนไว้ในสภาพเปลือยเปล่าเช่นเดียวกัน
เขากำลังพรมจูบเต้านมอวบอิ่ม ก่อนจะครอบดูดยอดบัวตูมชี้ชันเป็นไต ลิ้มรสเรือนกายอรชรด้วยความหื่นกระหายไม่รู้จักอิ่ม
"อ้าส์ ดูดเบาๆ สิคะ พ่อเลี้ยงแรงเยอะแล้วก็เก่งมาก ทำให้ช่อแทบเดินไม่ไหวแล้วนะคะ" ช่อเอื้องเอ่ยปากชื่นชม
ขณะที่มือเรียวกำลังโอบกุมลำเอ็นแข็งชันของพ่อเลี้ยงต้นสัก และชักรูดมันขึ้นลง เตรียมพร้อมสำหรับเซ็กซ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกรอบ
ขณะที่มือหนากำลังสอดลำนิ้วลงกลางกลีบเนื้อฉ่ำน้ำคาวรักที่ถูกปลดปล่อยออกมาโดยปราศจากเครื่องป้องกัน ช่อเอื้องถ่างขาออกพร้อมกับส่งเสียงครวญคราง
"อ๊าส์ พ่อเลี้ยง..."
"อ้าส์...ก็เธอหอมไปทั้งตัวขนาดนี้ ทั้งสาวทั้งสวยขนาดนี้ จะให้ฉันทำแค่สองรอบเองเหรอ?" พ่อเลี้ยงต้นสักทำเสียงอ้อน เขาขยับย้ายมาดูดดุนหัวนมชี้ชันอีกข้างหนึ่งอย่างหนักหน่วง
"ก็ถ้าพ่อเลี้ยงจะรักช่ออีกรอบ พ่อเลี้ยงก็ต้องยอมยกรถคันนี้ให้กับช่อขับ" หล่อนได้โอกาสจึงเอ่ยขอ ทว่าพ่อเลี้ยงต้นสักกลับไม่สามารถให้ในสิ่งที่ช่อเอื้องต้องการได้
"มันจะไม่ดีเอานะ ถ้าเมียฉันเห็นว่าเธอเอารถของฉันไปขับมันจะเป็นเรื่อง ไว้เดี๋ยวฉันจะซื้อคันใหม่ให้" เขาบอกปัด แม้จะยังไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อรถคันใหม่ให้ช่อเอื้องก็ตาม
"กลัวเมียขนาดนั้นเลยเหรอคะ?" หล่อนถามเสียงกระแนะกระแหน
"ไม่ได้กลัว แต่ฉันแค่ไม่อยากทะเลาะกับเมียแก่ของฉันที่บ้าน"
เพราะความจริงแล้วที่ดินทั้งหมดยังเป็นชื่อบิดาของเจนจิราอยู่ และหล่อนก็เป็นเมียแต่งที่อยู่ด้วยกันมาเกือบยี่สิบปี พ่อเลี้ยงต้นสักจึงไม่อยากมีปัญหาเพราะเกรงว่าจะไม่ได้สมบัติจากพ่อตา
"งั้นช่อก็จะต้องได้รถบีเอ็มดับเบิลยูเหมือนกับรถของพ่อเลี้ยง ภายในอาทิตย์หน้าด้วยนะคะ" ช่อเอื้องต่อรอง เธอทำสีหน้าน้อยอกน้อยใจเมื่อเขาพูดถึงภรรยา
"แหม เริ่มจากของเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้เหรอจ๊ะคนดี รถนั่นมันราคาตั้งหลายล้านเชียวนะ" เขาว่า
"หรือพ่อเลี้ยงจะให้ช่อไปขอกับเมียพ่อเลี้ยงให้ยกรถให้ช่อล่ะคะ?" ช่อเอื้องขู่ ทำให้พ่อเลี้ยงต้นสักหมดอารมณ์ เขาจึงลุกขึ้นจากเตียงนอนและเดินไปหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่
"อย่ามาขู่ฉันแบบนี้นะจ๊ะ ระวังมันจะจบไม่สวย" พ่อเลี้ยงต้นสักชี้หน้าช่อเอื้องเป็นการต่อว่า
"ช่อไม่ได้ขู่ ช่อถ่ายรูปตอนพ่อเลี้ยงหลับหลังจากเสร็จรอบแรกไว้แล้ว อีกอย่างช่อก็รู้จักกับเมียของพ่อเลี้ยงด้วย ไม่รู้แหละ ถ้าช่อไม่ได้ขับบีเอ็มดับเบิลยูอาทิตย์หน้าช่อก็ไม่ยอม"
ช่อเอื้องขู่เสียจนพ่อเลี้ยงต้นสักหัวเสีย เขาจ้องมองหล่อนด้วยแววตาคาดโทษ
"เธอนี่มัน!" และไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าว่า
"มันอะไรเหรอคะ? มันเก่งมากใช่ไหมที่ทำให้พ่อเลี้ยงน้ำแตกไปสองรอบแต่เมียแก่พ่อเลี้ยงทำให้ไม่ได้ ไว้ช่อได้รถเมื่อไหร่จะทำให้พ่อเลี้ยงถึงสวรรค์มากกว่านี้อีก"
หล่อนพูดแล้วจึงลุกขึ้นมาสวมใส่เสื้อผ้า พ่อเลี้ยงต้นสักจ้องมองเรือนร่างน่าเสน่หาตรงหน้า แต่ก็ได้แต่ถอนหายใจและเดินออกจากห้องโรงแรมไปเพราะอารมณ์เสีย