​​​​​​​ไม่เด็กแล้วนะ

1426 คำ
เพลงขวัญมาอยู่ที่บ้านของนายหัวครบหนึ่งสัปดาห์แล้ว หญิงสาวช่วยงานป้าแววและบุหลันบ้างเวลาที่นายหัวไม่อยู่ เพราะไม่อยากจะทำตัวเป็นคุณหนูที่มาอยู่บ้านเขาแล้วไม่ช่วยหยิบจับอะไรเลย แต่ถ้านายหัวอยู่บ้านเธอก็จะเข้าห้องและนั่งทำงานของตนเองไปเงียบๆ และวันนี้ก็ครบกำหนดที่เธอจะต้องทำแกงไตปลาให้กับนายหัวอารัณย์ทานอีกครั้ง หญิงสาวตั้งใจปรุงรสชาติให้ออกมาใกล้เคียงกับวันนั้นให้มากที่สุด “ป้าแววว่ารสชาติเหมือนเดิมไหมคะ” “เหมือนจ้ะ” “พี่ก็ว่าเหมือนนะ” “โล่งอกไปทีค่ะ” เพลงขวัญถอดหายใจด้วยความโล่งอก ทั้งสามคนช่วยกันจัดโต๊ะอาหารซึ่งเสร็จทันเวลาที่นายหัวกับเพื่อนมาถึงบ้านพอดี “น่ากินมากเลยนะบุหลัน” วริศผู้จัดการสวนและพ่วงตำแหน่งหัวหน้าคนงานเอ่ยชมเพราะตอนนี้มีแค่บุหลันยืนรออยู่ที่โต๊ะอาหารเพียงคนเดียว “ไม่ใช่ฝีมือบุหลันหรอกค่ะ คุณวริศ บนโต๊ะนั่นฝีมือป้าแววกับน้องเพลง” “แล้วเพลงขวัญไปไหนแล้วล่ะ” นายหัวอารัณย์ถาม เขาอยากจะแนะนำเพลงขวัญให้รู้จักกับผู้จัดการสวนยางเอาไว้เพราะอาจจะได้เจอกันบ้างถ้าเธอยังอยู่ที่นี่ “อยู่ในครัวค่ะ เดี๋ยวบุหลันไปตามให้นะคะ” บุหลันเข้าไปตามเพลงขวัญส่วนตัวเองก็นั่งรอในครัวเพราะไม่อยากไปรบกวนเวลาทานอาหารของเจ้านาย “เพลงขวัญนั่งลงสิ” “นี่ใช่น้องเพลงจริงๆ เหรอ ไม่เห็นหน้ามาหลายปีสวยขึ้นเยอะเลย ทำหน้างงแบบนั้นคงจำไม่ได้ล่ะสิ” “เพลงไม่แน่ใจเท่าไหร่” หญิงสาวรู้สึกคุ้นหน้าอยู่บ้างแต่ยังนึกชื่อเขาไม่ออก “พี่วริศไง เราเคยเจอกันแล้วตอนนั้นน้องเพลงยังเป็นเด็กอยู่เลย” “อ้อ พี่วริศ เพลงจำได้แล้วค่ะ ขอโทษนะคะที่จำไม่ได้ตั้งแต่แรก” “น้องเพลงโตเป็นสาวแล้วส่วนพี่ก็แก่ลงจะจำไม่ได้ก็ไม่แปลกอะไรเลย” “เพิ่งรู้ว่าเคยรู้จักกันมาก่อน” “ครับ ผมกับน้องเพลงเคยรู้จักกันแต่ก็นานมากแล้ว ยังคิดอยู่เลยว่าโตมาหน้าตาจะเป็นยังไง พอโตเป็นสาวแล้วสวยกว่าที่คิดไว้เยอะเลย” “แต่ฉันว่ายังเด็กอยู่เลยนะ” “นายหัวก็ชอบว่าหนูเป็นเด็กอยู่เรื่อย อย่าลืมนะคะว่าวันนี้เราพนันอะไรกันไว้” “นี่พนันอะไรกันเหรอน้องเพลง” ชลทีถามขึ้นบ้างเพราะเห็นว่าสีหน้าของเธอนั้นจริงจังเอามากๆ “ยังบอกไม่ได้ค่ะคุณชล แต่เพลงมั่นใจว่าครั้งนี้เพลงต้องชนะนะแน่ๆ” เพลงขวัญที่เคยเจอกับชลทีมาแล้วพูดจากับเข้าด้วยท่าทางสนิทสนมและทำให้นายหัวไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ เพราะเวลาคุยกับเขาเพลงขวัญจะห่างเหินมากกว่านี้ “ฉันหิวแล้ว รีบกินเถอะ” เพลงขวัญใจเต้นแรงเมื่อเห็นชายสามคนตักแกงไตปลามากินกับขนมจีนและผักสดที่เตรียมไว้ เธอกำลังลุ้นสุดตัวว่าทุกคนจะพอใจกับรสชาติที่เธอตั้งใจปรุงอย่างสุดฝีมือหรือไม่ “แกงไตปลาวันนี้อร่อยมาก ฝีมือป้าแววนี้ใช้ได้เลย ไม่เหมือนครั้งก่อน ว่าไหมชล” วริศหันมาถามชลที “อร่อยกว่าทุกครั้งที่เคยกินเลย” ชลทีเห็นด้วยกับเพื่อน เพลงขวัญได้แต่มองแล้วยิ้มเพราะสองในสามเสียงก็เท่ากับว่าการเดิมพันครั้งนี้เธอเป็นผู้ชนะ และนายหัวจะต้องเลิกมองว่าเธอเป็นเด็กสักที “ในเมื่อคุณชลกับพี่วริศบอกว่าอร่อย เพราะฉะนั้นก็ถือว่าเพลงชนะ ต่อไปนายหัวห้ามพูดว่าเพลงเป็นเด็กและเพลงก็จะไม่แทนตัวเองว่าหนูอีกแล้ว คุณชลกับพี่วริศเป็นพยานให้เพลงด้วยนะคะ” “นี่พนันกันว่าแกงไตปลาจะอร่อยไหมเหรอ ใครเป็นคนเริ่ม” ชลทีหันมามองหน้านายหัวอารัณย์ที่เป็นทั้งเพื่อนและเจ้านายสลับกับเพลงขวัญที่นั่งยิ้มอย่างผู้ชนะ “นายหัวเริ่มค่ะ” คำตอบของเพลงขวัญทำให้ผู้จัดการโรงงานและผู้จัดการสวนยางพาราหัวเราะออกมาพร้อมๆ กันเพราะดูแล้วคนที่เริ่มน่าจะนิสัยเด็กไม่ต่างจากเพลงขวัญเท่าไหร่ หลังจากทานกันจนอิ่มทั้งสามหนุ่มก็ย้ายมานั่งดื่มเหล้าอยู่ที่หน้าระเบียงโดยมีบุหลันและเพลงขวัญช่วยกันทำกับแกล้มให้ “เดี๋ยวพี่กับป้าแววกลับก่อนนะเพลง เพลงก็เข้านอนได้เลย ของพวกนั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เราค่อยเก็บ” “จะดีเหรอคะ” “นายหัวกับเพื่อกินเหล้ากันแบบนั้นกว่าจะเลิกก็ตีหนึ่งตีสองนู่นแหละป้าเห็นจนชินแล้ว” “แล้วเขาจะเมาไหมคะ” “ป้ายังไม่เคยเห็นนายหัวเมาเลยนะ พวกเขาน่ะคอทองแดงกันทั้งนั้น” เพลงขวัญพยักหน้ารับทราบจากนั้นเธอก็เดินไปถามนายหัวว่ามีอะไรอยากได้เพิ่มไหมเพราะจะได้เตรียมให้ก่อนจะเข้านอน “กินเหล้าเป็นไหม” ชลทีถามขึ้นเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามาหา “เป็นค่ะ” เธอตอบด้วยความมั่นใจเพราะตอนเรียนอยู่ก็เคยดื่มเบียร์อยู่บ้าง “งั้นก็กินด้วยกันสิ” วริศเอ่ยชวนอีกคน “ไม่ใช่เด็กแล้วนี่ งั้นก็นั่งกินด้วยกันเลยสิ” นายหัวอารัณย์มองเธออย่างท้าทายเพราะอยากจะรู้เหมือนกันว่าคนที่ย้ำมาตลอดว่าตนเองไม่ใช่เด็กเจอเหล้าดีกรีแรงเข้าไปจะเมาคอพับลงไหม “ได้สิคะ แข่งกันไหมล่ะว่าใครจะเมาก่อน” หญิงสาวท้าทาย “แข่งกับนายหัวคงยาก พี่ว่าถ้าอยากแข่งจริงแข่งกับชลทีดีไหมล่ะ” วริศรีบเสนอเพราะในบรรดาเขาสามคนนั้นชลทีคออ่อนที่มากที่สุด “แข่งไหมคะคุณชล” ชลทีพยักหน้ารับคำท้าและคิดว่ายังไงตนเองก็ชนะ แต่ดื่มไปได้ไม่นานชายหนุ่มก็ขอยอมแพ้ “พี่กลับก่อนนะเพลง เอาไว้ครั้งหน้าพี่จะแข่งด้วย” “ค่ะพี่วริศ” นายหัวอารัณย์กับเพื่อนช่วยพยุงคนที่เมาคอพับลงไปยังรถของวริศพอกลับขึ้นมาก็ไม่เห็นเพียงขวัญฟุบอยู่บนโต๊ะ “เพลงขวัญไหวไหม เมาหรือเปล่า” หญิงสาวไม่ตอบแต่ยกมือขึ้นโบกเป็นสัญลักษณ์ว่าตนเองไม่เมาก่อนละลุกขึ้นแล้วเดินเซเข้าไปในบ้าน ชายหนุ่มเดินตามไปจนเธอเข้าห้องนอนเขาจึงกลับมาอาบน้ำและเตรียมตัวเข้านอนบ้าง แต่ยังไม่ทันได้นอนเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเสียก่อนเขาจึงเดินมาเปิดเพราะกลัวว่าเพลงขวัญจะต้องการความช่วยเหลือ “มีอะไร” เขาถามคนที่ยืนโงนเงนอยู่หน้าห้อง “เพลงมีเรื่องจะคุยกับนายหัว” “พรุ่งนี้ค่อยคุยดีไหม เธอเมามากแล้ว” “ไม่เอา เพลงจะคุยตอนนี้” เสียงตอบของเธอฟังยังไงก็เมาแต่เขาก็ขี้เกียจเถียงกับคนเมา “เอาล่ะมีอะไรก็ว่ามา” เขาเดินกลับเข้ามาในห้องนอนแล้วนั่งลงเก้าอี้ ส่วนเธอนั้นตรงดิ่งไปนั่งบนเตียง “เพลงอยากถามว่าทำไมนายหัวถึงชอบพูดว่าไม่ชอบเด็กแล้วเพื่อนนายหัวก็ยังบอกอีกว่านายหัวไม่อยากมีเมียเด็ก” “ในเป็นรสนิยมส่วนตัวฉันไม่จำเป็นต้องตอบเธอหรอกมั้ง ไม่ชอบเด็กก็คือไม่ชอบเด็ก” “นายหัวก็พูดแค่ประโยคเดิมๆ ไม่ชอบเด็กๆ” “ยังไม่เคยมีเมียเด็กสักหน่อยจะรู้ว่าไม่อร่อยได้ไง” “เธอพูดเหมือนตัวเองอร่อย” “แกงไตปลาที่เพลงทำอร่อยยังไงเพลงก็อร่อยแบบนั้น” “ฉันว่าเธอน่าจะเมามากแล้วนะ กลับไปนอนได้แล้ว” “ไล่กันจัง กลัวอะไรคะ กลัวว่ามีเมียเด็กแล้วจะติดใจเหรอคะ” เพลงขวัญเป็นคนที่ดื่มเหล้าแล้วจะไม่เมาคอพับแต่เธอมักจะทำอะไรไปโดยไม่รู้ตัว “อย่ายั่วให้ยากเลย ยังไงฉันก็ไม่มีทางเอาเธอทำเมียหรอก”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม