นายหัวกลับจากสวนยางก่อนเวลาแปดโมงเช้าเล็กน้อยพอมาถึงก็รีบไปอาบน้ำก่อนจะออกมาอีกครั้งในเวลาไม่นาน
“หิวหรือยัง” เขาถามเพลงขวัญที่นั่งรออยู่บนโซฟารับแขกกลางห้อง
“ยังค่ะ”
“แต่ฉันหิวแล้ว” เขาเดินไปยังโต๊ะทานอาหารทำให้เพลงขวัญก็ต้องเดินตามไปด้วย
“นายหัวคะ หนูไปกินกับป้าแววและพี่บุหลันได้ไหม” เธอเกรงใจทั้งเจ้าของบ้านและลูกจ้างอีกสองคน
“กินด้วยกันนี่แหละ”
“แต่หนูเป็นลูกหนี้ของนายหัวคนอื่นรู้คงไม่ดีแน่” เพลงขวัญไม่อยากถูกคนอื่นมองไปในทางอื่น
“สถานะลูกหนี้จะเริ่มหลังจากเธอเรียนจบแต่ตอนนี้เธออยู่ที่นี่ในฐานะของคนที่ฉันต้องดูแลตามคำสั่งเสียของยายนวลปราง”
“แต่หนูว่า...”
“ถ้ายายเธอรู้คงเสียใจนะที่เธอกำลังจะขัดคำสั่งของท่าน” นายหัวอารัณย์อ้างถึงยายของเธอเพราะรู้ว่าเพลงขวัญจะต้องทำตาม
“ค่ะ”
หลังทานอาหารแล้วเพลงขวัญก็ช่วยบุหลันเก็บโต๊ะและกำลังจะล้างจานแต่นายหัวก็มาเรียกให้เธอให้ตามไปที่ห้องทำงาน
“เพลงไปก่อนนะคะ” หญิงสาวบอกบุหลันและป้าแววจากนั้นตัวเองก็รีบเข้าไปหานายหัวในห้องทำงาน
“นายหัวมีอะไรจะใช้หนูเหรอคะ”
“ไม่มี แค่อยากจะเรียกมาคุยนิดหน่อย”
“เรื่องบ้านของหนูใช่ไหมคะ”
“ก็ใช่ ฉันเพื่อนที่เป็นให้ตำรวจไปเก็บหลักฐานที่บ้านแล้วลายนิ้วมือตรงประตูเป็นของคนที่ฉันคิดไว้จริงๆ แต่เราเอาผิดอะไรไม่ได้เพราะหลักฐานมันอ่อนแล้วของในบ้านก็ไม่มีอะไรหาย”
“ค่ะ หนูเข้าใจ แต่นายหัวจะให้หนูอยู่ที่นี่ฟรีๆ เหรอคะ หนูเกรงใจนะ ถึงจะเป็นคำสั่งของยายก็เถอะ ให้หนูช่วยพี่บุหลันกับป้าแววทำงานก็ได้นะคะ”
“งานบ้านไม่ได้เยอะอะไร สองคนนั้นทำไหวอยู่แล้ว ปกติเธออยู่บ้านทำอะไรบ้าง”
“หนูรับงานพิสูจน์อักษรและก็งานแปลค่ะ”
“แล้วทำทุกวันไหม”
“ก็แล้วแต่ช่วงค่ะ แล้วแต่คนจ้าง”
“แล้วช่วงนี้มีงานไหม”
“หนูเพิ่งรับงานใหม่มาเมื่อวานค่ะ”
“ถ้ามีงานเธอก็ทำงานของเธอไป”
“แล้วนายหัวมีงานอะไรให้หนูช่วยไหมคะ”
“ช่วงนี้ยังไม่มี แต่ถ้าเป็นช่วงสิ้นเดือนงานก็จะเยอะหน่อย เอาไว้ถ้าฉันอยากให้ช่วยฉันจะบอกก็แล้วกัน”
“ค่ะ นายหัวคะ วันนี้หนูขอกลับไปเอาของที่บ้านได้ไหมคะ”
“ได้สิ เดี๋ยวฉันไปส่ง”
“หนูเกรงใจ”
“แล้วเธอจะกลับยังไง ขับรถเป็นไหมล่ะ”
“ไม่เป็นค่ะ”
“งั้นวันนี้ฉันจะไปส่งเก็บของก่อน แล้วถ้าว่างจะสอนขับรถให้ ในโรงรถมีอีกคันที่ไม่ค่อยได้ใช้”
“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ หนูมีจักรยาน”
“แล้วมันขี่เข้าเมืองหรือไปไกลๆ ได้ไหมล่ะ ที่ฉันจะสอนให้เพราะบางครั้งฉันอาจให้เธอไปทำธุระให้ฉันบ้าง”
“ค่ะ”
นายหัวอารัณย์ขับรถมาส่งเพลงขวัญระหว่างรอเพลงขวัญเก็บของเขาก็สำรวจไปรอบๆ และคิดว่าถ้าเธอเรียนจบและกลับมาอยู่ที่นี่ก็คงจะต้องปรับปรุงอีกมากและคงต้องทำรั้วให้มิดชิดมากกว่าเดิม แต่นั่นก็ยังอีกตั้งสองปี ถึงตอนนั้นหญิงสาวอาจจะไม่อยากกลับมาอยู่ในที่แบบนี้ก็ได้
“เสร็จแล้วค่ะนายหัว” เพลงขวัญมีของไม่เยอะเพราะของใช้ส่วนใหญ่เธอไม่ได้เอามาจากกรุงเทพด้วย
“ไม่ลืมอะไรแล้วใช่ไหม รีบกลับไปทำงานหรือเปล่า พอดีฉันต้องเข้าไปโรงงาน” เขาเพิ่งได้รับสายจากชลทีผู้จัดการโรงงานที่โทรมาแจ้งเรื่องบริษัทใหม่ที่อยากจะสั่งซื้อยางแปรรูปจากโรงงานของเขา
“ไม่รีบค่ะ หนูไปกับนายหัวก่อนก็ได้”
เขามาเธอมายังโรงที่ตั้งอยู่อีกด้านของสวนยางพาซึ่งเป็นโรงงานขนาดใหญ่ที่รับน้ำยางจากชาวบ้านและสวนใกล้เคียงมาแปรรูปเป็นยางแผ่นและยางแผ่นรมควันก่อนจะส่งออกไปยังโรงงานต่างๆ อีกที
“ลงมาด้วยกันไหม ฉันจะแนะนำให้รู้จักกับผู้จัดการโรงงาน”
“ได้ค่ะ” เพลงขวัญรีบลงจากรถและเดินตามเขาเข้าไปในส่วนของสำนักงานที่ตั้งอยู่ทางด้านหน้าของโรงงาน
เขาแนะนำให้เธอรู้จักกับชลทีจากนั้นก็ให้เธอนั่งรอขณะที่เขาคุยงานกับชลที เพลงขวัญฟังเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างแต่ก็นั่งฟังจนจบ
พอคุยงานเสร็จเขาก็พากลับมาที่บ้านจากนั้นเธอก็ขอตัวไปจัดของและนั่งทำงานจนถึงเวลาอาหารกลางวันก็ออกมาทานพร้อมกับเขา แล้วก็เข้าไปทำงานต่อและกลับออกมาช่วยป้าแววทำกับข้าวสำหรับมื้อเย็น
“ไม่น่าเชื่อว่าจะทำแกงไตปลาเป็นนะ”
“ยายสอนมาค่ะป้าแวว แต่ไม่รู้ว่ารสชาติจะเหมือนที่ยายไหม ป่าแววลองชิมให้หน่อยสิคะ”
“อืม ใช้ได้เลย ป้าว่ารสชาติเหมือนยายของหนูทำเลย”
“จริงเหรอผ้า บุหลันขอลองชิมบ้าง”
“เหมือนจริงๆ ด้วย แบบนี้น้องเพลงจดสูตรไว้แล้ว อร่อยๆ แบบนี้หากินได้ยากมาก”
“มันอร่อยจริงๆ ใช่ไหม ไม่ใช่ว่าแกล้งชมกันนะพี่บุหลัน”
“อร่อยสิ แต่ถ้าไม่เชื่อเดี๋ยวให้นายหัวตัดสินก็ได้นะ”
“เพลงนึกว่าเราจะทำกินกันเอง ถ้ารู้ว่าต้องให้นายหัวด้วยเพลงไม่อาสาทำหรอกนะคะ”
“นี่มันของโปรดของนายหัวเลยนะ แต่น่าเสียดายที่วันนี้ไม่มีขนมจีน แต่ไม่เป็นไร ถ้าหนูเพลงทำถูกใจเดี๋ยวมื้อต่อไปค่อยเตรียมขนมจีนมาด้วย” ป้าแววที่รู้ใจนายหัวมากกว่าใครพูดขึ้น หญิงสูงวัยคิดว่าแกงไตปลารสชาตินี่นายหัวจะต้องชอบเพราะมันเหมือนกันรสชาติที่ยายนวลปรางทำอย่างไม่มีผิดเพี้ยน
“ป้าแววคะ หนูว่าแกงนี่เรากินกันเองเถอะค่ะ แล้วของนายหัวให้ป้าแววทำใหม่ดีกว่าไหมคะ”
ไม่มีใครสนใจฟังคำขอของเพลงขวัญเลยสักคนเพราะตอนนี้แกงไตปลารสชาติจัดจ้านตั้งอยู่บนโต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้ว
“เพลงขวัญมากินด้วยกันสิ”
“ค่ะ” เพราะรู้ว่าปฏิเสธไปก็เท่านั้นเพลงขวัญเลยไม่อยากปฏิเสธให้เหนื่อย
“แกงไตปลาวันนี้รสชาติดีมากเลยนะป้าแววได้สูตรใหม่มาเหรอ” นายหัวอารัณย์เอ่ยชมและตักเข้าปากติดกันหลายช้อนด้วยความอร่อย
“อร่อยจริงๆ เหรอคะนายหัว” เพลงขวัญถาม
“อือ เธอลองกินสิ แต่มันจะเผ็ดไปสำหรับเธอหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ เคยกินหรือเปล่าล่ะ”
“หนูเป็นคนใต้นะคะนายหัวไม่เคยกินก็แปลกแล้วค่ะ” หญิงสาวพูดแล้วยิ้มก่อนจะตักแกงไตปลาฝีมือตัวเองเข้าปาก
“เสียดายวันนี้ไม่มีขนมจีนนะ”
“เอาไว้ครั้งหน้าป้าจะเตรียมขนมจีนไว้นะคะ ถ้าหนูเพลงยังอยู่ที่นี่นายหัวก็จะได้กินบ่อยๆ”
“มันเกี่ยวกับเพลงขวัญยังไงล่ะป้า” นายหัวอารัณย์หันมาถามแม่ครัวด้วยความสงสัย
“ก็แกงรสชาติแบนนี้ป้าทำได้ที่ไหนล่ะ ที่นายหัวกินอยู่นั้นฝีมือหนูเพลง”
“ผมไม่อยากจะเชื่อ เด็กสมัยใหม่จะทำแกงใต้ได้อร่อยแบบนี้ บางทีอาจจะแค่บังเอิญก็ได้นะ”
“ถ้านายหัวไม่เชื่อเดี๋ยวพรุ่งนี้หนูจะทำให้กินอีกรอบ ถ้ามันยังอร่อยเหมือนเดิมนายหัวต้องเลิกหาว่าหนูยังเด็ก”
“ได้สิ แต่ขอเป็นอาทิตย์หน้านะ ฉันจะชวนเพื่อนฉันมากินด้วย อย่าทำให้ฉันขายหน้าล่ะ”
“รับคำท้าค่ะ” เพลงขวัญมองหน้าเขาด้วยความมั่นใจเพราะแกงรสชาตินี้เธอทำมาตั้งแต่เริ่มฝึกทำอาหารกับยาย