ตอนที่ 3 ผู้หญิงบนเตียงของพ่อมดผู้ชั่วร้าย (1)

1726 คำ
มนสิการสะดุ้งเฮือกในความมืดมิดเมื่อรู้สึกได้ว่ามีใครสักคนก้าวขึ้นมาบนเตียง อันที่จริงนั่นเป็นเพียงคำเปรียบเทียบเท่านั้นเพราะในเวลานี้แม้แต่จะกระดิกนิ้วเธอยังทำไม่ได้เลย เธอคิดอย่างหงุดหงิดงุ่นง่าน เมื่อราวเกือบชั่วโมงก่อน คนพวกนั้นเอาเธอมาโยนไว้ที่นี่ เอาผ้ามัดปากเธอไว้ไม่ให้เธอส่งเสียงอะไรและฉีดยาแปลกๆ ให้เธอ ซึ่งทำให้ร่างกายเธอร้อนวูบวาบแปลกๆ เธอทรมานกับความรู้สึกนั้นมาเกือบชั่วโมงแล้วด้วยความหวาดกลัวจับใจ มนสิการได้แต่หลับตาแน่น เธอได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้คนที่เพิ่งก้าวขึ้นมาบนเตียงค้นพบว่ามีเธอนอนอยู่เงียบๆ ข้างกายเขา ให้ผู้ชายคนนั้นนอนหลับไปเลยไม่ต้องมาสนใจเธอ แต่โชคก็ไม่เข้าข้างเมื่อเธอรับรู้ได้ว่ามีมือของใครคนนั้นแตะถูกร่างกายเธอ ไม่นานไฟในห้องก็สว่างขึ้น และผ้าที่ปกคลุมเธอก็ถูกปลดออก มนสิการได้แต่เบิกตากว้างมองคนที่กำลังชะโงกหน้าอยู่เหนือตัวเธอ หญิงสาวค้นพบว่าเขาเป็นผู้ชายที่ดูหล่อเหลาคนหนึ่ง ดวงตาคมกริบและ สีหน้าเย็นชาเย่อหยิ่งของเขากำลังจ้องมองเธอด้วยสายตาสำรวจ ลมหายใจร้อนผ่าวที่เจือไปด้วยกลิ่นของแอลกอฮอล์และดวงตาสีน้ำเงินวาววับคู่นั้นราวกับมีน้ำกลิ้งอยู่ภายในก็ทำให้เธอพอจะรู้ได้ว่าเขากำลังเมา ทว่ากระแสบางอย่างในดวงตาของเขาก็ทำให้เธอรู้สึกร้อนวาบในอก สะบัดร้อนสะบัดหนาวราวกับจับไข้ก็ไม่ปาน เธออยากให้เขากอดเธอ โอบกอดเธอแน่นๆ ให้เธออยู่ในอ้อมกอดของเขา ให้เขาทรมานเธอให้กรีดร้องด้วยความสุขสม ซึ่ง… บ้าชะมัด! เธอคิดอะไรแบบนี้ได้ยังไง นั่นต้องเป็นเพราะฤทธิ์ย***าๆ ที่ไอ้พวกนั้นฉีดให้เธอแน่ๆ มนสิการคิดอย่างพล่าเลือน และเมื่อปากของเธอเป็นอิสระเพราะผู้ชายตรงหน้าปลดพันธนาการออกจากร่างกายของเธอจนหมด อันที่จริงเขา ปลดเปลื้องเสื้อผ้าเธอจนหมดอย่างถือวิสาสะต่างหาก มนสิการก็รีบร้องขอเขา อ้อนวอนเขาด้วยน้ำเสียงสั่นพร่าทันที “ปละ…ปล่อยฉัน” เธอเค้นเสียงสั่นๆ อย่างยากลำบาก ตอนนี้ไม่สนแล้วว่าเธออยู่ในสภาพไหน ขอเพียงเธอหลุดพ้นไปจากที่นี่ได้ ขอเพียงเขามีสติมากพอจะฟังคำขอร้องของเธอ เพราะตอนนี้เธอขยับร่างกายไม่ได้เลย เธอช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ได้แต่หวังว่าผู้ชายตรงหน้าจะมีความเป็นคนมากพอจะปล่อยเธอไป แต่แล้วความหวังของเธอก็สลายแตกระยับไม่มีเหลือ เพียงเพราะคำพูดสั้นๆ แต่หนักแน่นของคนตรงหน้า “ไม่” ไม่พูดเปล่า เจ้าของเรือนกายแกร่งสมบูรณ์ที่เธอเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าเขาไม่สวมอาภรณ์ใดๆ ติดตัวก็ใช้ปลายนิ้วชี้ของเขาไล้ใบหน้าเธอช้าๆ ลากยาวจนมาหยุดอยู่ตรงทรวงอกขาวสล้างที่กำลังผลิพุงเบ่งบานเพราะสัมผัสแผ่วเบาของเขาที่กระตุ้นปลุกเร้าเท่านั้น ฝ่ามือเย็นๆ ของเขาทำให้เธอสะดุ้งวาบและหวามไหวไปทั่งร่าง แต่กระนั้นสติสัมปชัญญะของเธอก็ยังเอาชนะด้านดิบเถื่อนของร่างกายอยู่ดี “ฉะ…ฉันขอร้อง ปล่อยฉันเถอะ” มนสิการละล่ำละลักขอร้อง แม้ว่าตอนนี้ร่างเปลือยเปล่าของเธอกำลังถูกผู้ชายตรงหน้าไล้จับไปแทบทุกส่วน และสายตาสำรวจอย่างหยาบโลนคึกคะนองนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกอายจนแทบจะระเบิด พอๆ กับรู้สึกชอบใจกับสัมผัสของเขา ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าตัวเองโดนยาอะไร และร่างกายเธอต้องการอะไร ทว่าหัวใจของเธอไม่ต้องการ! และเธอจะต่อต้านมัน ต่อต้านให้สุดใจ! เสียงหัวเราะทุ้มต่ำหลุดออกมาจากปากผู้ชายตรงหน้า เขาเปลี่ยนมาคร่อมร่างเปลือยเปล่าของเธอเอาไว้ทั้งตัว ขณะที่มนสิการได้แต่ทอดตัวนิ่งให้เขาได้จับจูบลูบไล้ตามใจเพราะเธอไม่อาจแม้แต่จะกระดิกนิ้วต่อต้านได้ ริมฝีปากร้อนผ่าวของเขาประทับตรงซอกคอบริเวณผิวเนื้ออ่อนของเธอ ขบเม้มดึงดูดจนเธอขนลุกเกรียวไปทั้งร่าง และเมื่อเธอเผลอครางออกมาเขาก็ทำเสียงหึในลำคอก่อนจะผละริมฝีปากออก จ้องมองใบหน้าแดงซ่านของเธอด้วยสายตาขบขัน “เธอนี่ ปากไม่ตรงกับใจนะ ถ้าอยากให้ปล่อยไป ทำไมเธอถึงส่งเสียงครางล่ะ” “…” เธอเงียบ ได้แต่กัดปากแน่นอย่างพูดไม่ออก เธออยากลุกอาละวาดแล้วหนีไปเสียเดี๋ยวนี้ แต่เธอทำไม่ได้ บ้าชะมัด! ชายหนุ่มเหนือร่างเธอไม่พูดอะไร เขาเอาแต่นวดเฟ้นเรือนร่างเธอด้วยปลายนิ้วอย่างชำนาญ ปลุกเร้าและกระตุ้นสัญชาตญาณดิบในร่างกายของเธอให้ปะทุขึ้นมา ซึ่งมันไม่ยากเลยสักนิด และเธอก็ต้องรู้สึกหงุดหงิดอยู่หลายต่อหลายครั้งยามเมื่อเขาทำเหมือนกลั่นแกล้งเธอด้วยการปัดป่ายปลายนิ้วผ่านยอดอกเธอไปมาอย่างแผ่วเบา เขาแตะต้องทรวงอกนุ่มของเธอราวกับนักสำรวจที่กำลังสนใจมันราวกับเป็นสมบัติล่ำค่า ก่อนจะส่งรอยยิ้มเหยียดหยันให้แก่เธอเมื่อเธอส่งเสียงคล้ายกับประท้วงในลำคอเมื่อเขาเริ่มฟอนเฟ้นมันอย่างแผ่วเบานุ่มนวล ทว่าวาบหวามเป็นที่สุด และร่างกายทรยศของเธอก็ดันตอบรับสัมผัสจากเขาอย่างเริงร่าและผลิบานราวกับดอกไม้แรกแย้ม รอยยิ้มร้ายกายของเขาส่งให้แก่เธอ ก่อนคำพูดที่สร้างความอับอายให้เธอจะตามมาติดๆ “แล้วนี่อะไร ร่างกายเธอตอบสนองฉันชัดๆ” “ฮึก” หญิงสาวได้แต่ครางในลำคอด้วยความวาบหวามปะปนกับความรู้สึกอับอายและสิ้นท่า ผู้ชายตรงหน้าเริ่มประพรมริมฝีปากเหนือทรวงอกขาวสล้างของเธอ มนสิการได้แต่ตัวสั่นเทา ขณะที่สองมือหยาบกร้านและเย็นเฉียบของเขาลูบไล้ไปทั่วร่างกายของเธอก่อนจะไปหยุดอยู่ที่ซอกขาด้านใน หญิงสาวถึงกับหนาวเยือก ตัวสั่นน้อยๆ อย่างไม่อาจระงับได้ “อย่าพูดสิว่าเธอไม่ต้องการ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา กระแสเสียงสั่นพร่านั้นบอกให้เธอรู้ว่าเขาก็...รู้สึกไม่ต่างจากเธอ อันที่จริงเธอเริ่มรับรู้เพราะร่างกายสั่นสะท้านอย่างหวามลึกเพราะสิ่งที่กำลังดุนดันหน้าขาของเธออยู่ในเวลานี้ต่างหาก มันใหญ่โต อบอุ่น และน่ากลัว ทว่าไอ้ร่างกายของเธอกลับต้องการมัน ร่างกายเธออยากให้เขาเติมเต็มเธอ ให้เธอหลุดพ้นจากความทรมานนี้เสียที มนสิการต่อสู้กับตนเองอย่างหนัก เธอกัดริมฝีปากจนห้อเลือดเพื่อกลั้นเสียงครางอย่างสุขสมอันน่ารังเกียจ ก่อนจะคลายออกเมื่อเธอสะกดกลั้นมันไม่ไหวอีกต่อไปเพราะร่างสูงใหญ่ตรงหน้ารุกเร้าเธออย่างเร่าร้อนมากยิ่งขึ้น “ได้โปรด ช่วยฉันด้วยค่ะ อย่าทำอะไรฉันเลย” หญิงสาววอนขอร้องเสียงแหบพร่า น้ำตาเธอซึมไหลออกมาจากหางตาช้าๆ เธอหวาดกลัว หวาดหวั่น เธอไม่ต้องการแต่เธอก็เอาชนะร่างกายเธอเองไม่ได้ ผู้ชายตรงหน้าหยุดมือที่กำลังหยอกล้อเหนือทรวงอกของเธอ เขาชะงัก ใช้ดวงตาสีน้ำเงินเข้มของเขาจ้องมองเธอนิ่ง ลมหายใจร้อนผ่าวที่ต้องรดใบหน้าของเธอ ทำให้เธอเธอได้กลิ่นแอลกอฮอล์ในลมหายใจของเขานั้นทำให้เธอมึนเมาและสับสน ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ขยับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาผิดกับท่าทีเร่าร้อนที่ผ่านมา “เธอรู้ไหม...” มนสิการได้แต่เงียบกริบ และตั้งใจฟังที่เขาพูด อันที่จริงเธอไม่รู้จะพูดตอบโต้อะไรเขามากกว่า “ตอนนี้ฉันเมา” น้ำเสียงของเขาแหบพร่าและแผ่วเบา “แล้วคนเมามันไม่ได้มีสติมาคิดอะไรด้วยหรอก โดยเฉพาะการที่จู่ๆ จะมีผู้หญิงสาวๆ มาอยู่บนเตียง” เธอพูดอะไรไม่ออก ในขณะที่เขาก็พูดต่อไปว่า “โดยเฉพาะผู้หญิงที่ปากบอกว่าไม่ แต่ร่างกายกลับตอบสนองฉันได้ถึงใจแบบนี้” พูดจบปลายนิ้วแกร่งของเขาก็กดลงตรงจุดกึ่งกลางร่างกายเธอ มนสิการสะท้านเฮือก ก่อนจะครางลึกในลำคอด้วยความรู้สึกเสียววาบที่พุ่งอยู่ในช่องท้อง ร่างกายเธอบิดเกร็งและทรมาน เธอต้องการการปลดปล่อย เธอต้องการให้เขาเติมเต็มเธอ มากกว่านี้ ยิ่งกว่านี้ “เห็นไหม” น้ำเสียงของเขาเป็นต่ออย่างชัดเจน มันดังอยู่ข้างหูเธอท่ามกลางสติที่พร่าเลือน และพร้อมจะกระโจนหายไปได้ทุกเมื่อ “ฉันว่าให้ฉันช่วยเธอปลดปล่อยนั่นแหละดีแล้ว” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงหยามหยัน ขณะที่หญิงสาวได้แต่ครางเสียงสะอื้นด้วยความรู้สึกต้องการและไม่ต้องการในเวลาเดียวกัน “ไม่…” น้ำตาหยดหนึ่งกลิ้งไหลจากหน่วยตา เธอรู้สึกทรมาน รู้สึกพ่ายแพ้ และชั่วขณะหนึ่งเธอนึกอยากจะตายกับชะตากรรมอันเลวร้ายนี้ “ไวไฟขนาดนี้ เธอจะปฏิเสธทำไม? ทำเหมือนกับไม่เคยอย่างนั้นแหละ” ผู้ชายคนนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่เข้าใจกับคำพูดต่อต้านของเธอ ขณะที่ร่างกายของเธอกลับตอบสนองเขาอย่างร่าเริง เขาดันท่อนขาเธอออกกว้างเพื่อให้เธอเปิดทางต้อนรับเขา มนสิการได้แต่ส่งเสียงครางประท้วง แต่กลับฟังดูราวกับเธอต้องการและเรียกร้องอย่างไรอย่างนั้น วินาทีหนึ่งเธอนึกอยากให้เขาเข้ามาอยู่ในตัวเธอโดยเร็วเพื่อที่เธอจะได้หลุดพ้นจากความทรมาน หากวินาทีถัดมาเธอก็พยายามดิ้นรนต่อสู้ด้วยความไม่ยินยอม เธอกำลังถูกข่มขืน โดยหัวใจเธอพูดได้เช่นนี้ แต่โดยร่างกาย...เธอกลับกำลังสมยอมเขา “ช่วยฉันด้วย...อย่าทำแบบนี้” หญิงสาววอนขอร้องเสียงสั่นพร่า เธอรู้สึกได้ว่าตัวตนของเขากำลังบดเบียดแนบชิดกับร่างกายของเธอ ถูไถปลุกเร้าให้เธอดิ้นทุรนทุรายขาดใจตาย ลมหายใจเธอจะขาดและสะดุดเป็นห่วงๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม