บทที่ 4
อดเปรี้ยว ไว้กินหวาน
หลังจากคืนนั้นเจคอปก็เงียบหายไปเกือบสองอาทิตย์ จนใบบัวคิดว่าที่เขาขอคบก็แค่พูดเล่น เด็กสาวรู้สึกเสียใจอยู่ลึกๆ แต่ก็ทำใจยอมรับความจริงได้ คงไม่มีผู้ชายคนไหนชอบหรือสนใจลูกคนรับใช้ในบ้าน แม้ว่าสิ่งที่เขาทำวันนั้นยังคงติดตาแต่เธอไม่อยากเก็บมาคิดให้ปวดหัว ก็แค่กอดจูบลูบคลำทุกวันนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติของวัยรุ่น
“บ๊าย..เจอกันวันจันทร์นะ”
ใบบัวโบกมือลาเพื่อนเพียงคนเดียวที่มีตั้งแต่ย้ายมาเรียนที่นี่ ตากลมโตมองท้ายรถยนต์ที่แล่นออกไปแล้วจึงเดินไปยังป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียน แต่สายตากลับมองไปเห็นร่างสูงคุ้นตาในชุดนักศึกษายืนพิงรถสปอร์ตคนหรูอยู่ถนนฝั่งตรงข้าม
“คุณเจ”
ใบบัวยืนนิ่งจ้องตากับเขาด้วยหัวใจที่เต้นระรัว คุณเจมาหาเธอเหรอ? หรือยังไง? หรือแค่บังเอิญผ่านมา คำถามมากมายตีกันมั่วไปหมด จนร่างสูงเดินข้ามถนนมายืนอยู่ตรงหน้า เด็กสาวจึงกระชับกระเป๋านักเรียนแนบอกด้วยความประหม่า ท่ามกลางสายตาของนักเรียนหญิงที่ให้ความสนใจเจคอปเป็นจำนวนมาก
“ฉันมารับ”
“คะ? ” ใบบัวแหงนหน้าคอตั้งมองเขาด้วยสายตาสงสัย ตากลมโตกะพริบปริบๆ จนเจคอประบายยิ้มเต็มใบหน้า เล่นเอาสาวน้อยในชุดนักเรียนมัธยมปลายทั้งหลายแถวนั้น ต่างมองเขาด้วยความตะลึงในความหล่อเหลาไม่เว้นแม้กระทั่งใบบัว
“บัว..เป็นอะไร”
“อ่อ..คือ” ใบบัวได้สติจึงยิ้มเจื่อนให้เขา
“ป่ะ..ขึ้นรถดีกว่า คนมองใหญ่แล้ว”
เจคอปดึงกระเป๋านักเรียนของเธอมาถือไว้ แล้วก็ต้องพ่นลมออกจากปากเมื่อหน้าอกเกินขนาดของเธอมันดันเสื้อนักเรียนออกมาจนเขาจินตนาการไปถึงคืนนั้น ห่า..จะของขึ้นอะไรตอนนี้วะกู
“คุณเจจะไปส่งบัวที่บ้านเหรอคะ? ”
“..........”
“คุณเจคะ!”
“ห๊ะ..อะไรนะ เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไร” เจคอปสะบัดศีรษะแล้วก้มถามคนตัวเล็กที่มองเขาตาแป๋ว
“บัวถามว่า..คุณเจจะไปส่งบัวที่บ้านใช่มั้ยคะ? ”
“ฉันจะพาไปกินข้าวก่อนค่อยกลับ..เธอมีอะไรหรือเปล่า”
เจคอปเปิดประตูรถให้ใบบัว เด็กสาวลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่สุดท้ายก็ยอมขึ้นไปนั่ง ชายหนุ่มวางกระเป๋านักเรียนบนตักของเธอ แล้วปิดประตูเดินอ้อมมายังฝั่งคนขับสตาร์ทรถแล้วขับออกมา
“เมื่อกี้ยังไม่ได้ตอบฉันเลยว่ามีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะ..ไม่มี”
ใบบัวนั่งก้มหน้าไม่กล้ามองชายหนุ่ม เกร็งจนคิดอะไรไม่ออก ทั้งแปลกใจ ตื่นเต้น ดีใจกับการมาของเขา ความสับสนทำให้เธอยอมทำตามเขาอย่างว่าง่ายโดยไม่ทันได้ไตร่ตรองให้รอบคอบ
“เป็นอะไรนั่งเงียบเชียว”
“เปล่าค่ะ..”
“หึๆ ..” เจคอปได้แต่ยิ้มมุมปากน้อยๆกับอาการประหม่าของใบบัว พอมองออกว่าเธอก็ดีใจที่เขามาหา คงอีกไม่นานคงได้ปิดจ๊อบเด็กมัธยมปลาย เพราะเด็กสาวดูใสซื่อและหัวอ่อนกว่าที่คิด
@ร้านอาหาร
ใบบัวนั่งเกร็งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกันกับเจคอป เขาจงใจเบียดตัวเข้าหาเกินปกติจนเธอทำตัวลีบแทบจมหายไปกับพนักโซฟา
ชายหนุ่มเป็นคนสั่งอาหารให้เพราะเธอสั่งไม่เป็น ยอมรับว่าไม่เคยเข้าร้านอาหารหรูหรามาก่อน ดีสุดของเธอก็น่าจะเป็นร้านไก่ทอดชื่อดังตามห้างสรรพสินค้าที่ปีหนึ่งจะได้ทานสักครั้ง จากที่ประหม่าอยู่แล้วก็พานทำให้เด็กสาวที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัดยิ่งทำตัวไม่ถูกมากขึ้น
“นั่งให้สบายสิ” ไม่พูดเปล่าเจคอปใช้แขนโอบไหล่ของเธอแล้วดึงเข้าหาตัว มองกลายๆ คล้ายกับว่ากำลังกอดกัน
“........” ใบบัวได้แต่นั่งนิ่งไม่กล้าโวยวายเพราะกลัวถูกเขาทิ้งไว้ที่นี่แล้วให้จ่ายค่าอาหารเอง ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเงินแค่สามร้อยบาท แต่อาหารที่เขาสั่งราคาจานละเป็นพัน ยังไงก็ต้องตามใจเขาไว้ก่อน หากทำอะไรผิดพลาดมาเธอจะแย่ ทั้งไม่มีเงินแล้วก็ไม่คุ้นเคยกับเส้นทางที่เขาขับรถพามา
“เธองอนฉันเหรอ ที่หายไปหลายวัน”
“เปล่าค่ะ..บัวไม่ได้งอน”
เด็กสาวตอบตามความจริง เธอช้อนตามองเสี้ยวหน้าด้านข้างของชายหนุ่ม แล้วก็พาลใจเต้นที่เขาดูหล่อจนแทบกลั้นหายใจ กลิ่นน้ำหอมราคาแพงทำให้รู้สึกชอบจนต้องแอบสูดกลิ่นไว้จนเต็มปอด
“ไม่งอนแล้วทำไมไม่ค่อยพูดเลยล่ะ หื้ม”
เจคอปโน้มใบหน้าลงมาสบตากับเด็กสาวในระยะใกล้ มองปากอวบอิ่มที่เม้มเข้าหากันตาปรอย แม่ง..โคตรน่าจูบ
“บัวไม่มีอะไรจะพูดนี่คะ” น้ำเสียงเหมือนตัดพ้อทำให้เจคอปอมยิ้ม
“ที่หายไปเพราะฉันมีกิจกรรมที่มหาลัย และก็เป็นช่วงสอบมิดเทอมเลยไม่ค่อยมีเวลา ฉันเรียนเภสัชนะเผื่อเธอยังไม่รู้เลยต้องอ่านหนังสือเยอะหน่อย”
“ค่ะ” ใบบัวรู้สึกแปลกใจกับคณะที่เขาเรียน บุคลิกของเจคอปน่าจะเรียนบริหารหรือไม่ก็น่าจะเป็นวิศวะมากกว่า
“หลายวันที่ไม่ได้เจอกัน เธอคิดถึงฉันอย่างที่ฉันคิดถึงเธอหรือเปล่า? ”
คำถามของเขาทำให้ใบบัวใจเต้นแรงอย่างห้ามไม่ได้ คุณเจคิดถึงเธองั้นเหรอ? ไม่..เป็นไปไม่ได้ ถึงจะพยายามไม่คิดเข้าข้างตัวเอง แต่ใบหน้าเนียนใสก็แดงระเรื่อด้วยความเขินอาย
“......”
“ก็ยังเงียบ..ว๊า ฉันต้องทำยังไงเธอถึงจะเชื่อและไว้ใจ ว่าฉันอยากคบเธอจริงๆ ”
เจคอปถอนหายใจปล่อยร่างบางออกจากอ้อมแขน เขาเอนตัวพิงพนักโซฟาแล้วเหลือบมองใบบัวที่เริ่มเลิ่กลั่กเมื่อเขาทำทีไม่สนใจ
“ไม่ใช่ไม่เชื่อใจ แต่บัวกลัวแม่รู้ค่ะ”
ถ้าแม่รู้ใบบัวคงถูกทำโทษอย่างหนัก ว่ากันตามตรงแค่วันนี้ที่เธอมากับเขาก็ถือว่าเป็นการขัดคำสั่งแม่
“บอกแล้วไง ถ้าฉันไม่พูดเธอไม่พูด ก็ไม่มีใครรู้”
เจคอปลอบสังเกตอาการของกวางน้อยและก็ยิ้มอย่างพอใจเมื่อเธอมีท่าทีคล้อยตาม
“.......”
“ว่าไงใบบัว ตกลงพวกเราจะคบกันได้ยัง? ”
เจคอปไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า รีบรุกหนักเข้าหาไม่อยากให้เด็กสาวได้คิดอะไรมากนัก
“ถ้าบัวตกลงคบ..คุณเจสัญญาได้มั้ยคะว่าจะเก็บเป็นความลับ บัวไม่อยากให้แม่รู้ ไม่งั้นบัวคงอดเรียนต่อมหาลัยแน่”
สาวน้อยผู้อ่อนประสบการณ์ไม่รู้เลยว่านั่นคือสิ่งที่เขาต้องการอยู่แล้ว เจคอปลิงโลดที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ใครจะบอกให้โง่ล่ะ..
“ก็ได้..ถ้าเธอต้องการ..ที่พูดมานี่คือตกลงคบกับฉันแล้วใช่ป่ะ”
“ค่ะ..คบก็ได้”
ใบบัวตัดสินใจทำในสิ่งที่ใจเรียกร้อง ในเมื่อเขาชัดเจนว่าอยากคบก็ไม่มีอะไรต้องกังวล อย่างที่เขาบอกเป็นเรื่องปกติที่จะมีแฟน เพราะเพื่อนๆ ในห้องก็ต่างมีแฟนแล้วทั้งนั้น ลองคบเจคอปดูก็ไม่เสียหายอะไร ถ้าไปกันไม่รอดก็แค่เลิกกันไม่เห็นมีอะไรยุ่งยาก
“ดีมาก..หึ”
เจคอปดีดนิ้วนั่งตัวตรง เขาดึงร่างบางในชุดนักเรียนเข้ามาใกล้เชยคางมนขึ้นแล้วกดจูบลงบนริมฝีปากอวบอิ่มหนักๆ โดยไม่สนใจสายตาแขกโต๊ะอื่นที่มองมาอย่างตำหนิ เพราะเขากับเธออยู่ในชุดที่ไม่ค่อยเหมาะสมนัก
“อื้อ..คุณเจ !” ใบบัวผลักเขาออกห่างแล้วก้มหน้าลงเมื่อเจอกับสายตาหลายคู่ที่มองอยู่
“ไม่ต้องอายหรอก..เป็นแฟนกันก็ต้องจูบกันมันเป็นเรื่องธรรมชาติ”
“แต่บัวอายนี่คะ..” ใบบัวอ้อมแอ้มตอบไม่กล้าสบตาเขา
“อาหารมาพอดี..เงยหน้าขึ้นมาได้แล้วบัว”
เจคอปเลื่อนจานสเต๊กวากิวมาตรงหน้าใบบัว จัดการหั่นให้พอดีคำใช้ซ้อมจิ้มแล้วยื่นมาที่ปากของเธออย่างเอาใจ เด็กสาวมองหน้าเขาแล้วอ้าปากงับเนื้อเกรดพรีเมี่ยมเข้าปาก ตาเป็นประกายเมื่อได้ลิ้มลองอาหารชั้นดีเป็นครั้งแรก
“อร่อยล่ะสิ..ตาโตเชียว”
เจคอปเผลอยิ้มกับท่าทางเหมือนเด็กของเธอ อดเอ็นดูในความใสซื่อของอีกคนไม่ได้ ชายหนุมโยกศีรษะเล็กเบาๆ จนผมหางม้าที่เธอมัดไว้สะบัดไปมา จากนั้นก็ตักซุปเห็ดป้อนเธออีกอย่าง
“อื้ม..อร่อยมากๆ เลยค่ะ บัวเพิ่งเคยกินเป็นครั้งแรก มิน่ามันถึงแพงขนาดนี้”
“ไว้ฉันพามากินบ่อยๆ ”
“ไม่ดีกว่าค่ะ..บัวเกรงใจ มันแพงมาก” ปากปฏิเสธแต่ตาละห้อยคล้ายเสียดาย จนเจคอปต้องยิ้มอีกครั้ง
“เป็นแฟนกันไม่ต้องเกรงใจหรอก ฉันจะพาเธอตระเวนกินของอร่อยให้ทั่วเมืองเลย”
“เอางั้นเลยเหรอคะ” ใบบัวครุ่นคิดก่อนถามไม่เต็มเสียง
“เธออยากินอะไร ฉันพาไปได้หมดแหละ”
“ว้าว..คุณเจใจดีจัง ขอบคุณนะคะ”
ใบบัวยกมือไหว้ชายหนุ่มก่อนอ้าปากงับชิ้นเนื้อเคี้ยวตุ้ยๆ ด้วยรอยยิ้ม อาหารมื้อเย็นผ่านไปด้วยความสุขของเด็กสาวที่ถูกเอาใจจากหนุ่มหล่อที่เพิ่งตกลงคบเป็นแฟน
ใบบัวยอมรับว่าหลงระเริงไปกับสิ่งที่เขาทำให้ อาจไม่มากมายสำหรับคนอื่นแต่สำหรับเด็กสาวที่ฐานะยากจนเช่นเธอคือสิ่งที่หายากยิ่งนัก คงไม่ผิดใช่ไหมหากเธอขอแค่พื้นที่เล็กๆ ไว้สำหรับตัวเอง
หลังจากนั้นเกือบหนึ่งชั่วโมงรถคันหรูก็แล่นมาจอดบริเวณปากซอยเข้าบ้านของเจคอปเพราะใบบัวไม่ยอมให้ไปส่งหน้าบ้าน
“บัวไปนะคะ..ขอบคุณคุณเจที่พาบัวไปเลี้ยงข้าว” ใบบัวยกมือไหว้ก่อนเอี้ยวตัวจะเปิดประตู แต่เจคอปรั้งแขนเธอไว้
“เดี๋ยวสิ..คุยกันก่อน”
“คุย? ” ใบบัวหันกลับมาสบตากับเขาแล้วเลิกคิ้วน้อยๆ
“เรามาตกลงกันว่าจะเจอวันไหนบ้าง ถ้าเป็นไปได้เธอส่งตารางเรียนมาให้ฉันในแชทด้วยนะ”
“ค่ะ” ใบบัวพยักหน้าก่อนล้วงโทรศัพท์เครื่องเก่าของตัวเองออกมา จัดการสแกนคิวอาร์โค้ดที่เจคอปยื่นมาให้
ติ้ง
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
ใบบัวยิ้มหวานขณะที่เจคอปเหล่มองโทรศัพท์รุ่นเก่าของเธอแล้วถอนหายใจ เพราะรูปที่เธอส่งมาให้มันไม่ชัดเอาเสียเลย
“รูปไม่ชัดอ่ะ..กล้องโทรศัพท์เธอไม่ดีแล้วมั้ง”
“ไว้บัวยืมโทรศัพท์เพื่อนถ่ายแล้วจะส่งให้ใหม่นะคะ”
“ไม่ต้อง..”
“อ้าว..”
“พรุ่งนี้วันเสาร์ออกมาเจอฉันสิ..เดี๋ยวฉันพาไปซื้อเครื่องใหม่”
เจคอปอมยิ้มกับอาการตาโตแล้วเอามือปิดปากของใบบัว ถือว่าเธอโชคดีที่เจอสายปี้แต่เปย์หนักอย่างเขา อย่างน้อยๆ กว่าเขาจะเบื่อ เธอน่าจะได้ไปเยอะพอสมควรจากที่คาดการไว้ เพราะข้าวของแต่ละอย่างดูเก่าและโทรมเหลือเกินเขาต้องซื้อให้ใหม่แน่นอน ยังดีที่เธอเกิดมาหน้าตาสะสวยไม่งั้นคงดูไม่ไม่ได้เลย
“ไม่ดีมั้งคะ..เครื่องนี้ยังใช้ได้”
“อย่าขัดใจสิ จะซื้อให้ก็คือซื้อให้”
เจคอปจิ๊ปากไม่อยากเชื่อว่าใบบัวจะปฏิเสธ ปกติมีแต่คนอ้อนขอ แต่นี่เขาเสนอให้เองกลับไม่อยากได้ โง่หรือเล่นตัววะ..
“ก็ได้ค่ะ”
“ดีมาก..ฉันว่าเราเจอกันทุกวันอังคารกับวันพฤหัส และก็วันเสาร์ทั้งวัน เธอโอเคมั้ย”
ใบบัวนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนพยักหน้าเห็นด้วยกับเขา “ค่ะ..ไม่มีปัญหา”
“วันอังคารกับวันพฤหัสฉันจะไปรับที่โรงเรียน ส่วนวันเสาร์ก็แล้วแต่ว่าเธอสะดวกให้ไปรับที่ไหน”
“คุณเจมารอตรงนี้ก็ได้ค่ะ บัวจะนั่งวินมอไซค์ออกมาแม่จะได้ไม่สงสัย ส่วนสองวันที่เหลือก็แค่ไม่กลับค่ำจนเกินไป แม่คงไม่ว่า”
“โอเค..ตามนั้น ไว้คืนนี้จะทักบอกนะว่าพรุ่งนี้เจอกันกี่โมง”
“ค่ะ..บัวไปนะคะ”
“เดี๋ยวสิ..”
“คุณเจมีอะไรคะ” ใบบัวเอียงหน้าถามอย่างสงสัยที่เห็นเขาหยิบเงินออกจากกระเป๋าแล้วยื่นมาให้
“อ่ะ..ฉันให้ เอาไว้ซื้อเสื้อผ้าหรือของใช้ส่วนตัว”
“ไม่ดีกว่าค่ะ..” ใบบัวมองเงินจำนวนห้าพันแล้วส่ายหน้า เกิดมาเธอไม่เคยมีเงินติดตัวเยอะขนาดนี้มาก่อน
“ทำไมต้องปฏิเสธตลอดวะ” เจคอปเริ่มหงุดหงิดแล้วชักสีหน้าใส่ใบบัวที่ทำหน้าเจื่อนทันทีที่เขาเสียงดัง
“บัวรับไว้ก็ได้ค่ะ..” ใบบัวรับเงินมาแล้วเก็บเข้ากระเป๋า เพราะกลัวเขาจะโกรธแล้วพานทำให้ความสัมพันธ์มีปัญหา
“ก็แค่เนี่ย..ทำไมชอบขัดใจนักก็ไม่รู้” กูชักรำคาญ !!
“บัวขอโทษค่ะ ต่อไปจะไม่ทำอีก”
“อืม..เธอรีบกลับเถอะ เดี๋ยวจะมืดเสียก่อน”
“ค่ะ ๆ บัวไปนะคะ”
เจคอปพยักหน้ามองร่างบางเปิดประตูรถแล้วเดินดุ่มๆ ไปตามถนน ที่ยอมปล่อยเธอไปโดยไม่ทำอะไรเพราะไม่อยากให้ไก่ตื่น พรุ่งนี้มีเวลาอยู่ด้วยกันทั้งวันใบบัวไม่รอดแน่ อดเปรี้ยวไว้กินหวานยังไงก็อร่อยกว่าอยู่แล้ว
ตัดมาที่อีกคนที่กำลังเดินกลับบ้านด้วยหัวใจพองโต การมีแฟนมันดีแบบนี้นี่เองใครๆ ถึงอยากมีกัน มีคนคอยเอาใจคอยพาไปทานข้าว วันหยุดไปเที่ยวด้วยกัน แค่คิดก็มีความสุข ใบบัวยิ้มแป้นกระชับกระเป๋าแนบอก ในความคิดมีแต่ใบหน้าหล่อเหลาของแฟนหนุ่มอยู่เต็มไปหมด โชคดีที่เธอได้เจอเขา โชคดีจริงๆ