บทที่ 4 อดเปรี้ยว ไว้กินหวาน

2456 คำ
บทที่ 4 อดเปรี้ยว ไว้กินหวาน หลังจากคืนนั้นเจคอปก็เงียบหายไปเกือบสองอาทิตย์ จนใบบัวคิดว่าที่เขาขอคบก็แค่พูดเล่น เด็กสาวรู้สึกเสียใจอยู่ลึกๆ แต่ก็ทำใจยอมรับความจริงได้ คงไม่มีผู้ชายคนไหนชอบหรือสนใจลูกคนรับใช้ในบ้าน แม้ว่าสิ่งที่เขาทำวันนั้นยังคงติดตาแต่เธอไม่อยากเก็บมาคิดให้ปวดหัว ก็แค่กอดจูบลูบคลำทุกวันนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติของวัยรุ่น “บ๊าย..เจอกันวันจันทร์นะ” ใบบัวโบกมือลาเพื่อนเพียงคนเดียวที่มีตั้งแต่ย้ายมาเรียนที่นี่ ตากลมโตมองท้ายรถยนต์ที่แล่นออกไปแล้วจึงเดินไปยังป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียน แต่สายตากลับมองไปเห็นร่างสูงคุ้นตาในชุดนักศึกษายืนพิงรถสปอร์ตคนหรูอยู่ถนนฝั่งตรงข้าม “คุณเจ” ใบบัวยืนนิ่งจ้องตากับเขาด้วยหัวใจที่เต้นระรัว คุณเจมาหาเธอเหรอ? หรือยังไง? หรือแค่บังเอิญผ่านมา คำถามมากมายตีกันมั่วไปหมด จนร่างสูงเดินข้ามถนนมายืนอยู่ตรงหน้า เด็กสาวจึงกระชับกระเป๋านักเรียนแนบอกด้วยความประหม่า ท่ามกลางสายตาของนักเรียนหญิงที่ให้ความสนใจเจคอปเป็นจำนวนมาก “ฉันมารับ” “คะ? ” ใบบัวแหงนหน้าคอตั้งมองเขาด้วยสายตาสงสัย ตากลมโตกะพริบปริบๆ จนเจคอประบายยิ้มเต็มใบหน้า เล่นเอาสาวน้อยในชุดนักเรียนมัธยมปลายทั้งหลายแถวนั้น ต่างมองเขาด้วยความตะลึงในความหล่อเหลาไม่เว้นแม้กระทั่งใบบัว “บัว..เป็นอะไร” “อ่อ..คือ” ใบบัวได้สติจึงยิ้มเจื่อนให้เขา “ป่ะ..ขึ้นรถดีกว่า คนมองใหญ่แล้ว” เจคอปดึงกระเป๋านักเรียนของเธอมาถือไว้ แล้วก็ต้องพ่นลมออกจากปากเมื่อหน้าอกเกินขนาดของเธอมันดันเสื้อนักเรียนออกมาจนเขาจินตนาการไปถึงคืนนั้น ห่า..จะของขึ้นอะไรตอนนี้วะกู “คุณเจจะไปส่งบัวที่บ้านเหรอคะ? ” “..........” “คุณเจคะ!” “ห๊ะ..อะไรนะ เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไร” เจคอปสะบัดศีรษะแล้วก้มถามคนตัวเล็กที่มองเขาตาแป๋ว “บัวถามว่า..คุณเจจะไปส่งบัวที่บ้านใช่มั้ยคะ? ” “ฉันจะพาไปกินข้าวก่อนค่อยกลับ..เธอมีอะไรหรือเปล่า” เจคอปเปิดประตูรถให้ใบบัว เด็กสาวลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่สุดท้ายก็ยอมขึ้นไปนั่ง ชายหนุ่มวางกระเป๋านักเรียนบนตักของเธอ แล้วปิดประตูเดินอ้อมมายังฝั่งคนขับสตาร์ทรถแล้วขับออกมา “เมื่อกี้ยังไม่ได้ตอบฉันเลยว่ามีอะไรหรือเปล่า” “เปล่าค่ะ..ไม่มี” ใบบัวนั่งก้มหน้าไม่กล้ามองชายหนุ่ม เกร็งจนคิดอะไรไม่ออก ทั้งแปลกใจ ตื่นเต้น ดีใจกับการมาของเขา ความสับสนทำให้เธอยอมทำตามเขาอย่างว่าง่ายโดยไม่ทันได้ไตร่ตรองให้รอบคอบ “เป็นอะไรนั่งเงียบเชียว” “เปล่าค่ะ..” “หึๆ ..” เจคอปได้แต่ยิ้มมุมปากน้อยๆกับอาการประหม่าของใบบัว พอมองออกว่าเธอก็ดีใจที่เขามาหา คงอีกไม่นานคงได้ปิดจ๊อบเด็กมัธยมปลาย เพราะเด็กสาวดูใสซื่อและหัวอ่อนกว่าที่คิด @ร้านอาหาร ใบบัวนั่งเกร็งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกันกับเจคอป เขาจงใจเบียดตัวเข้าหาเกินปกติจนเธอทำตัวลีบแทบจมหายไปกับพนักโซฟา ชายหนุ่มเป็นคนสั่งอาหารให้เพราะเธอสั่งไม่เป็น ยอมรับว่าไม่เคยเข้าร้านอาหารหรูหรามาก่อน ดีสุดของเธอก็น่าจะเป็นร้านไก่ทอดชื่อดังตามห้างสรรพสินค้าที่ปีหนึ่งจะได้ทานสักครั้ง จากที่ประหม่าอยู่แล้วก็พานทำให้เด็กสาวที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัดยิ่งทำตัวไม่ถูกมากขึ้น “นั่งให้สบายสิ” ไม่พูดเปล่าเจคอปใช้แขนโอบไหล่ของเธอแล้วดึงเข้าหาตัว มองกลายๆ คล้ายกับว่ากำลังกอดกัน “........” ใบบัวได้แต่นั่งนิ่งไม่กล้าโวยวายเพราะกลัวถูกเขาทิ้งไว้ที่นี่แล้วให้จ่ายค่าอาหารเอง ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเงินแค่สามร้อยบาท แต่อาหารที่เขาสั่งราคาจานละเป็นพัน ยังไงก็ต้องตามใจเขาไว้ก่อน หากทำอะไรผิดพลาดมาเธอจะแย่ ทั้งไม่มีเงินแล้วก็ไม่คุ้นเคยกับเส้นทางที่เขาขับรถพามา “เธองอนฉันเหรอ ที่หายไปหลายวัน” “เปล่าค่ะ..บัวไม่ได้งอน” เด็กสาวตอบตามความจริง เธอช้อนตามองเสี้ยวหน้าด้านข้างของชายหนุ่ม แล้วก็พาลใจเต้นที่เขาดูหล่อจนแทบกลั้นหายใจ กลิ่นน้ำหอมราคาแพงทำให้รู้สึกชอบจนต้องแอบสูดกลิ่นไว้จนเต็มปอด “ไม่งอนแล้วทำไมไม่ค่อยพูดเลยล่ะ หื้ม” เจคอปโน้มใบหน้าลงมาสบตากับเด็กสาวในระยะใกล้ มองปากอวบอิ่มที่เม้มเข้าหากันตาปรอย แม่ง..โคตรน่าจูบ “บัวไม่มีอะไรจะพูดนี่คะ” น้ำเสียงเหมือนตัดพ้อทำให้เจคอปอมยิ้ม “ที่หายไปเพราะฉันมีกิจกรรมที่มหาลัย และก็เป็นช่วงสอบมิดเทอมเลยไม่ค่อยมีเวลา ฉันเรียนเภสัชนะเผื่อเธอยังไม่รู้เลยต้องอ่านหนังสือเยอะหน่อย” “ค่ะ” ใบบัวรู้สึกแปลกใจกับคณะที่เขาเรียน บุคลิกของเจคอปน่าจะเรียนบริหารหรือไม่ก็น่าจะเป็นวิศวะมากกว่า “หลายวันที่ไม่ได้เจอกัน เธอคิดถึงฉันอย่างที่ฉันคิดถึงเธอหรือเปล่า? ” คำถามของเขาทำให้ใบบัวใจเต้นแรงอย่างห้ามไม่ได้ คุณเจคิดถึงเธองั้นเหรอ? ไม่..เป็นไปไม่ได้ ถึงจะพยายามไม่คิดเข้าข้างตัวเอง แต่ใบหน้าเนียนใสก็แดงระเรื่อด้วยความเขินอาย “......” “ก็ยังเงียบ..ว๊า ฉันต้องทำยังไงเธอถึงจะเชื่อและไว้ใจ ว่าฉันอยากคบเธอจริงๆ ” เจคอปถอนหายใจปล่อยร่างบางออกจากอ้อมแขน เขาเอนตัวพิงพนักโซฟาแล้วเหลือบมองใบบัวที่เริ่มเลิ่กลั่กเมื่อเขาทำทีไม่สนใจ “ไม่ใช่ไม่เชื่อใจ แต่บัวกลัวแม่รู้ค่ะ” ถ้าแม่รู้ใบบัวคงถูกทำโทษอย่างหนัก ว่ากันตามตรงแค่วันนี้ที่เธอมากับเขาก็ถือว่าเป็นการขัดคำสั่งแม่ “บอกแล้วไง ถ้าฉันไม่พูดเธอไม่พูด ก็ไม่มีใครรู้” เจคอปลอบสังเกตอาการของกวางน้อยและก็ยิ้มอย่างพอใจเมื่อเธอมีท่าทีคล้อยตาม “.......” “ว่าไงใบบัว ตกลงพวกเราจะคบกันได้ยัง? ” เจคอปไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า รีบรุกหนักเข้าหาไม่อยากให้เด็กสาวได้คิดอะไรมากนัก “ถ้าบัวตกลงคบ..คุณเจสัญญาได้มั้ยคะว่าจะเก็บเป็นความลับ บัวไม่อยากให้แม่รู้ ไม่งั้นบัวคงอดเรียนต่อมหาลัยแน่” สาวน้อยผู้อ่อนประสบการณ์ไม่รู้เลยว่านั่นคือสิ่งที่เขาต้องการอยู่แล้ว เจคอปลิงโลดที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ใครจะบอกให้โง่ล่ะ.. “ก็ได้..ถ้าเธอต้องการ..ที่พูดมานี่คือตกลงคบกับฉันแล้วใช่ป่ะ” “ค่ะ..คบก็ได้” ใบบัวตัดสินใจทำในสิ่งที่ใจเรียกร้อง ในเมื่อเขาชัดเจนว่าอยากคบก็ไม่มีอะไรต้องกังวล อย่างที่เขาบอกเป็นเรื่องปกติที่จะมีแฟน เพราะเพื่อนๆ ในห้องก็ต่างมีแฟนแล้วทั้งนั้น ลองคบเจคอปดูก็ไม่เสียหายอะไร ถ้าไปกันไม่รอดก็แค่เลิกกันไม่เห็นมีอะไรยุ่งยาก “ดีมาก..หึ” เจคอปดีดนิ้วนั่งตัวตรง เขาดึงร่างบางในชุดนักเรียนเข้ามาใกล้เชยคางมนขึ้นแล้วกดจูบลงบนริมฝีปากอวบอิ่มหนักๆ โดยไม่สนใจสายตาแขกโต๊ะอื่นที่มองมาอย่างตำหนิ เพราะเขากับเธออยู่ในชุดที่ไม่ค่อยเหมาะสมนัก “อื้อ..คุณเจ !” ใบบัวผลักเขาออกห่างแล้วก้มหน้าลงเมื่อเจอกับสายตาหลายคู่ที่มองอยู่ “ไม่ต้องอายหรอก..เป็นแฟนกันก็ต้องจูบกันมันเป็นเรื่องธรรมชาติ” “แต่บัวอายนี่คะ..” ใบบัวอ้อมแอ้มตอบไม่กล้าสบตาเขา “อาหารมาพอดี..เงยหน้าขึ้นมาได้แล้วบัว” เจคอปเลื่อนจานสเต๊กวากิวมาตรงหน้าใบบัว จัดการหั่นให้พอดีคำใช้ซ้อมจิ้มแล้วยื่นมาที่ปากของเธออย่างเอาใจ เด็กสาวมองหน้าเขาแล้วอ้าปากงับเนื้อเกรดพรีเมี่ยมเข้าปาก ตาเป็นประกายเมื่อได้ลิ้มลองอาหารชั้นดีเป็นครั้งแรก “อร่อยล่ะสิ..ตาโตเชียว” เจคอปเผลอยิ้มกับท่าทางเหมือนเด็กของเธอ อดเอ็นดูในความใสซื่อของอีกคนไม่ได้ ชายหนุมโยกศีรษะเล็กเบาๆ จนผมหางม้าที่เธอมัดไว้สะบัดไปมา จากนั้นก็ตักซุปเห็ดป้อนเธออีกอย่าง “อื้ม..อร่อยมากๆ เลยค่ะ บัวเพิ่งเคยกินเป็นครั้งแรก มิน่ามันถึงแพงขนาดนี้” “ไว้ฉันพามากินบ่อยๆ ” “ไม่ดีกว่าค่ะ..บัวเกรงใจ มันแพงมาก” ปากปฏิเสธแต่ตาละห้อยคล้ายเสียดาย จนเจคอปต้องยิ้มอีกครั้ง “เป็นแฟนกันไม่ต้องเกรงใจหรอก ฉันจะพาเธอตระเวนกินของอร่อยให้ทั่วเมืองเลย” “เอางั้นเลยเหรอคะ” ใบบัวครุ่นคิดก่อนถามไม่เต็มเสียง “เธออยากินอะไร ฉันพาไปได้หมดแหละ” “ว้าว..คุณเจใจดีจัง ขอบคุณนะคะ” ใบบัวยกมือไหว้ชายหนุ่มก่อนอ้าปากงับชิ้นเนื้อเคี้ยวตุ้ยๆ ด้วยรอยยิ้ม อาหารมื้อเย็นผ่านไปด้วยความสุขของเด็กสาวที่ถูกเอาใจจากหนุ่มหล่อที่เพิ่งตกลงคบเป็นแฟน ใบบัวยอมรับว่าหลงระเริงไปกับสิ่งที่เขาทำให้ อาจไม่มากมายสำหรับคนอื่นแต่สำหรับเด็กสาวที่ฐานะยากจนเช่นเธอคือสิ่งที่หายากยิ่งนัก คงไม่ผิดใช่ไหมหากเธอขอแค่พื้นที่เล็กๆ ไว้สำหรับตัวเอง หลังจากนั้นเกือบหนึ่งชั่วโมงรถคันหรูก็แล่นมาจอดบริเวณปากซอยเข้าบ้านของเจคอปเพราะใบบัวไม่ยอมให้ไปส่งหน้าบ้าน “บัวไปนะคะ..ขอบคุณคุณเจที่พาบัวไปเลี้ยงข้าว” ใบบัวยกมือไหว้ก่อนเอี้ยวตัวจะเปิดประตู แต่เจคอปรั้งแขนเธอไว้ “เดี๋ยวสิ..คุยกันก่อน” “คุย? ” ใบบัวหันกลับมาสบตากับเขาแล้วเลิกคิ้วน้อยๆ “เรามาตกลงกันว่าจะเจอวันไหนบ้าง ถ้าเป็นไปได้เธอส่งตารางเรียนมาให้ฉันในแชทด้วยนะ” “ค่ะ” ใบบัวพยักหน้าก่อนล้วงโทรศัพท์เครื่องเก่าของตัวเองออกมา จัดการสแกนคิวอาร์โค้ดที่เจคอปยื่นมาให้ ติ้ง “เรียบร้อยแล้วค่ะ” ใบบัวยิ้มหวานขณะที่เจคอปเหล่มองโทรศัพท์รุ่นเก่าของเธอแล้วถอนหายใจ เพราะรูปที่เธอส่งมาให้มันไม่ชัดเอาเสียเลย “รูปไม่ชัดอ่ะ..กล้องโทรศัพท์เธอไม่ดีแล้วมั้ง” “ไว้บัวยืมโทรศัพท์เพื่อนถ่ายแล้วจะส่งให้ใหม่นะคะ” “ไม่ต้อง..” “อ้าว..” “พรุ่งนี้วันเสาร์ออกมาเจอฉันสิ..เดี๋ยวฉันพาไปซื้อเครื่องใหม่” เจคอปอมยิ้มกับอาการตาโตแล้วเอามือปิดปากของใบบัว ถือว่าเธอโชคดีที่เจอสายปี้แต่เปย์หนักอย่างเขา อย่างน้อยๆ กว่าเขาจะเบื่อ เธอน่าจะได้ไปเยอะพอสมควรจากที่คาดการไว้ เพราะข้าวของแต่ละอย่างดูเก่าและโทรมเหลือเกินเขาต้องซื้อให้ใหม่แน่นอน ยังดีที่เธอเกิดมาหน้าตาสะสวยไม่งั้นคงดูไม่ไม่ได้เลย “ไม่ดีมั้งคะ..เครื่องนี้ยังใช้ได้” “อย่าขัดใจสิ จะซื้อให้ก็คือซื้อให้” เจคอปจิ๊ปากไม่อยากเชื่อว่าใบบัวจะปฏิเสธ ปกติมีแต่คนอ้อนขอ แต่นี่เขาเสนอให้เองกลับไม่อยากได้ โง่หรือเล่นตัววะ.. “ก็ได้ค่ะ” “ดีมาก..ฉันว่าเราเจอกันทุกวันอังคารกับวันพฤหัส และก็วันเสาร์ทั้งวัน เธอโอเคมั้ย” ใบบัวนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนพยักหน้าเห็นด้วยกับเขา “ค่ะ..ไม่มีปัญหา” “วันอังคารกับวันพฤหัสฉันจะไปรับที่โรงเรียน ส่วนวันเสาร์ก็แล้วแต่ว่าเธอสะดวกให้ไปรับที่ไหน” “คุณเจมารอตรงนี้ก็ได้ค่ะ บัวจะนั่งวินมอไซค์ออกมาแม่จะได้ไม่สงสัย ส่วนสองวันที่เหลือก็แค่ไม่กลับค่ำจนเกินไป แม่คงไม่ว่า” “โอเค..ตามนั้น ไว้คืนนี้จะทักบอกนะว่าพรุ่งนี้เจอกันกี่โมง” “ค่ะ..บัวไปนะคะ” “เดี๋ยวสิ..” “คุณเจมีอะไรคะ” ใบบัวเอียงหน้าถามอย่างสงสัยที่เห็นเขาหยิบเงินออกจากกระเป๋าแล้วยื่นมาให้ “อ่ะ..ฉันให้ เอาไว้ซื้อเสื้อผ้าหรือของใช้ส่วนตัว” “ไม่ดีกว่าค่ะ..” ใบบัวมองเงินจำนวนห้าพันแล้วส่ายหน้า เกิดมาเธอไม่เคยมีเงินติดตัวเยอะขนาดนี้มาก่อน “ทำไมต้องปฏิเสธตลอดวะ” เจคอปเริ่มหงุดหงิดแล้วชักสีหน้าใส่ใบบัวที่ทำหน้าเจื่อนทันทีที่เขาเสียงดัง “บัวรับไว้ก็ได้ค่ะ..” ใบบัวรับเงินมาแล้วเก็บเข้ากระเป๋า เพราะกลัวเขาจะโกรธแล้วพานทำให้ความสัมพันธ์มีปัญหา “ก็แค่เนี่ย..ทำไมชอบขัดใจนักก็ไม่รู้” กูชักรำคาญ !! “บัวขอโทษค่ะ ต่อไปจะไม่ทำอีก” “อืม..เธอรีบกลับเถอะ เดี๋ยวจะมืดเสียก่อน” “ค่ะ ๆ บัวไปนะคะ” เจคอปพยักหน้ามองร่างบางเปิดประตูรถแล้วเดินดุ่มๆ ไปตามถนน ที่ยอมปล่อยเธอไปโดยไม่ทำอะไรเพราะไม่อยากให้ไก่ตื่น พรุ่งนี้มีเวลาอยู่ด้วยกันทั้งวันใบบัวไม่รอดแน่ อดเปรี้ยวไว้กินหวานยังไงก็อร่อยกว่าอยู่แล้ว ตัดมาที่อีกคนที่กำลังเดินกลับบ้านด้วยหัวใจพองโต การมีแฟนมันดีแบบนี้นี่เองใครๆ ถึงอยากมีกัน มีคนคอยเอาใจคอยพาไปทานข้าว วันหยุดไปเที่ยวด้วยกัน แค่คิดก็มีความสุข ใบบัวยิ้มแป้นกระชับกระเป๋าแนบอก ในความคิดมีแต่ใบหน้าหล่อเหลาของแฟนหนุ่มอยู่เต็มไปหมด โชคดีที่เธอได้เจอเขา โชคดีจริงๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม