02:30 AM
ปัง!! มิลิน สะลึมสะลือสะดุ้งตื่นขึ้นมา ด้วยเสียงประตูเปิดเข้ามาและปิดลงอย่างแรง เธอมองด้วยสายตาหงุดหงิดที่ชายตรงหน้ารบกวนเวลานอนหลับของเธอ
“นอนสบายใจเชียวนะ หึ”
“นายต้องการอะไร”
“เธอก็รู้ ตั้งแต่วันนั้นที่แฟนเธอเอาเธอมาเดิมพัน เธอก็ตกเป็นของฉันแล้ว ฉันจะเอาอะไร หรือไม่เอาอะไรก็เรื่องของฉัน เธอมีแค่สนองและรับมันเท่านั้น”
“เลว” มิลินเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เกลียดชังชายหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่ปิดบัง
“ถึงฉันจะเลวก็อย่าลืมล่ะ ว่าฉันคือผัวเธอ จำใส่หัวไว้ด้วย และตอกย้ำทุกวัน เธอเป็นของฉันที่ไปจากฉันไม่ได้นอกจากฉันไม่ต้องการแล้วเท่านั้น” ชายหนุ่มบันดาลโทสะและก้าวออกไปอีกห้องนอนทันที
มิลินมองชายหนุ่มที่เปิดประตูเข้ามาหาเรื่องเธอทั้งที่เธอนอนไปแล้ว แต่เขาก็เหมือนเดิมไม่มีความเกรงใจ หรือความสงสารให้ใครทั้งนั้น เหมือนกับวันนั้น
บรื้นนน~~~~
เอี๊ยดดด!!
เย้ เย้ วี๊ด วิ๊ว เสียงกองเชียร์เฮร้องและเป่าปากอย่างดีใจที่รถของตนเองเชียร์ลงพนันไว้เข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่ง
“เหี้ยย....แม่งเอ๊ยย พลั่ก พลั่ก” เสียงบันดาลโทสะและมือทุบลงไปที่พ่วงมาลัยหลาย ๆ ทีเพื่อระบายความโกรธที่ตนเองเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับอีกฝ่าย
ตึก ตึก ตึก!!
เสียงเท้าเล็กซอยวิ่งรีบเข้ามาดูชายหนุ่มที่อยู่ในรถได้เกิดบาดเจ็บรึเปล่า เพราะชายหนุ่มพลาดเข้าเส้นชัยเพราะรถชะลอตัวลงลดความเร็วก่อนเข้าเส้นชัย จึงทำให้อีกฝ่ายชนะได้เฉียดฉิว
“ไทเป ไทเป” หญิงสาวเรียกคนที่อยู่ในรถเสียงสั่น ๆ “นายโอเคไหม ได้โปรดลงมาให้ฉันเห็นหน่อยว่านายปลอดภัย” เธอพูดเสียงสั่นโดยไม่สามารถควบคุมได้เพราะเป็นห่วงคนด้านใน
“เธอเข้ามาทำไม มิลิน รีบออกไปเลยนะ” ชายหนุ่มเปิดประตูโดยไม่มีอาการบาดเจ็บให้หญิงสาวได้เห็น แต่กลับพูดเชิงไล่ให้หญิงสาวออกไปจากสนามแข่งอย่างร้อนรน
“ฉันเป็นห่วงนาย เจ็บตรงไหนไหม” ลิลินถามด้วยความเป็นห่วง
“รีบวิ่งออกไปให้เร็วที่สุดมิลิน ไทเปขอร้องล่ะ” ชายหนุ่มพูดเสียงสั่นและขอร้องให้หญิงสาวออกไปจากสนามแข่ง
ตึก ตึก ตึก!!
เสียงฝีเท้าหนักเดินตรงเข้ามาที่คนสองคนกำลังโต้เถียงกัน และมาหยุดยืนอยู่ตรงกลางสนทนา
“จะรีบไปไหน” เสียงเย็นชา เอ่ยถามชายหนุ่มตรงหน้า
“กูขอแหละนายอย่ายุ่งกับมิลินเลย อยากได้อะไรมึงเอาไป” ไทเปพูดด้วยเว้าวอนและขอร้อง
“ไม่ทันแล้วล่ะ เพราะนายเป็นคนเดิมพันเอง ไทเป” ชายร่างสูงบอกชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสีหน้าที่เย้ยหยัน
“ดะ....เดิมพันอะไร” เสียงเล็ก ๆ ถามด้วยเสียงที่สั้นและมองชายหนุ่มสองคนไปมา ไทเปแฟนหนุ่มได้แต่ก้มหน้า ชายร่างสูงอีกคนมองเธอและแสยะยิ้มให้และกล่าวพูด
“เธอไงของเดิมพัน หึหึ”
“ไทเป บอกฉันที ว่าผู้ชายคนนี้พูดเรื่องบ้าอะไร”
“มิลิน ฉันขอโทษ” ไทเปพูดด้วยสั่นและแววตาแวววาวไปด้วยน้ำใส ๆ
“พูดเรื่องบ้าอะไรกัน” มิลินถามด้วยเสียงที่เริ่มมีน้ำโห เพราะเธอไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าสองคนทำบ้าอะไรกันลับหลังเธอ
“มันเอาเธอ มาเดิมพัน ถ้ามันแพ้เธอก็เป็นของฉัน” เสียงเหี้ยมและเย็นชาไม่มีความล้อเล่นอยู่บนใบหน้า มิลินหันไปหาชายหนุ่มที่เป็นแฟนก็เห็นก้มหน้าไม่ยอมสู้หน้าเธอสักนิด
“ไทเป พูดสิ นายเอาฉันไปเดิมพันจริง ๆ เหรอ”
“ใช่....ฉันไม่คิดว่าจะแพ้มัน” เขาบอกเธอด้วยเสียงที่สั่น
“นายมันบ้า เคยแคร์ฉันบ้างไหม” มิลินเอ่ยถามและเสียใจมาก เธอไม่เคยคิดว่าคนตรงหน้าที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนของเธอ จะกล้าทำเรื่องแบบนี้กับเธอ ที่เขาบอกเธอทุกวันว่ารักเธอจะปกป้องเธอจากอันตราย
“ฉันขอโทษ”
“เคยรักฉันบ้างไหม หรือแค่ลมปากที่นายแค่พูดมันออกมาเฉย ๆ ไทเป”
“ฉันรักเธอจริง ๆ มิลิน ฉันไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้”
“เรื่องนี้ฉันไม่เกี่ยว พวกนายเคลียร์กันเอง” มิลินทำท่าจะออกจากวงสนทนา แต่ชายร่างสูงอีกค้นคว้าตัวเธอและจับพาดบ่าเสียก่อน
“เธอไปไหนไม่ได้แล้ว ตอนนี้เธอเป็นของฉัน” เสียงทุ้มต่ำดุๆ เอ่ยบอกหญิงสาว
“ปล่อยนะไอ้บ้า ปล่อยเดี๋ยวนี้ ไทเป ช่วยมิลินด้วย” มิลินดิ้นมือก็ทุบแผ่นหลังหนาไปมา แต่ชายหนุ่มก็ไม่สะทกสะท้านกับหัวเราะชอบใจกับความพยศกับของเล่นชิ้นใหม่ที่ได้มา
“อย่ายุ่งกับเธอนะ ไอ้ลูคัส กูขอร้อง” ไทเปรีบวิ่งเข้ามาขว้างชายหนุ่มตรงหน้าไม่ให้เดินต่อได้
“มึงแพ้เอง และมึงเป็นคนวางเดิมพันเอง มึงรู้กฎดี คนที่พลาดคือมึง ถอยไป” ลูคัสกระแทกไหล่ใส่ชายหนุ่มอีกคนให้หลบให้พ้นทางจากเขา
“มึงเอารถกูไปก็ได้ ปล่อยมิลินเถอะ” ลูคัสไม่ได้สนใจเดินแบกหญิงสาวร่างบางพาดบ่าและเดินด้วยจังหวะที่มั่นคง
“จัดการ” ชายหนุ่มสั่งลูกน้อง ทันทีที่เห็นชายหนุ่มอีกคนพยายามวิ่งเข้ามา ลูกน้องชายหนุ่มต่างยืนกั้นและปิดล้อมไม่ให้ชายหนุ่มวิ่งเข้าไปหาแฟนสาวได้ จนได้ยินเสียงรถขับออกไป ลูกน้องของลูคัสถึงสลายตัวออกทันที
“มิลินฉันขอโทษ อึก ฮื่อ” ชายหนุ่มเอ่ยขอโทษแฟนสาวที่เธอไม่ได้ยินเขา และเขาจะไม่ได้เจอเธออีกต่อไป ใจมันเจ็บและไม่น่าให้อภัยความคึกคะนองของตนเลยที่กล้าเอาคนที่ตัวเองรักไปเดิมพันแต่แรก “ฉันรักเธอ มิลิน”