บทที่ 2
อีกครั้ง
"ธันว่าไงมั้ง" จินนี่รีบกระแซะทันทีเมื่อระรินเดินกลับมา ชั่วโมงนี้อาจารย์ยกคลาส นักศึกษาจึงจับกลุ่มคุยกันฆ่าเวลาเพื่อรอเรียนวิชาถัดไป
“คุยงาน” คนถูกถามเลี่ยงตอบแต่อีกคนไม่พอใจจึงตัดพ้อ
“เล่าให้ฟังไม่ได้เลยเหรอ” หน้าแสนสวยบูดบึ้ง
“ธันจ้างทำงาน ไม่มีอะไรหรอกจินนี่”
เรื่องรับจ้างทำความสะอาดคอนโดไม่เคยบอกใคร ส่วนธันวาจะบอกคนอื่นหรือเปล่าเธอไม่รู้ เป็นเพื่อนสนิทก็จริง แต่เลือกเล่าเฉพาะบางเรื่องเท่านั้น
“เดี๋ยวนี้รินมีหัดมีความลับกับเราแล้วเหรอ..น้อยใจจัง”
จินนี่เป็นลูกคุณหนูจึงค่อนข้างขี้น้อยใจ แต่ก็ดีกับระรินมาก ระรินจึงไม่อยากขัดใจ หากพอเล่าได้ก็อยากเล่า
“เราซื้อของผิดธันเลยเรียกไปว่านิดหน่อย ไม่มีอะไรอย่างที่คิดหรอก..สบายใจได้” ยืนยันหนักแน่น
“บอกว่าคุยงานก็ควรจบไหม จะเซ้าซี้อีกทำไม” เพื่อนในกลุ่มอีกคนพูด จินนี่จึงชักสีหน้าไม่พอใจ
“ทำไมปริมชอบขัด”
“อย่าทะเลาะกัน เราไม่อยากปวดหัว” ระรินรีบห้ามทัพกลัวบานปลาย
“เราชอบธัน เราถึงถาม รินอย่าปิดบังนักสิ”
จินนี่ยังคงเซ้าซี้ไม่เลิก แต่ระรินยังไม่ทันพูด ปริมก็สวนขึ้นอีกครั้ง
“ชอบก็ไปบอกผู้ชาย มาบอกเพื่อนทำไมมิทราบ”
“เราไม่กล้ากลัวถูกปฏิเสธ ธันเปลี่ยนคู่เดตเป็นว่าเล่น แต่ละคนสวย ๆ ทั้งนั้น เลยไม่มั่นใจว่าธันจะสนใจเราหรือเปล่า ขอรวบรวมความกล้าอีกนิด” แอบชอบธันวาตั้งแต่เรียนปีสอง จนตอนนี้ปีสามก็ยังไม่กล้าสารภาพ คุยกันแทบนับครั้งได้ มันน่าเศร้าตรงนี้แหละ
“หนุ่ม ๆ แก๊งนั้นชอบคนสวย ถ้าจินนี่สารภาพธันเล่นด้วยแน่นอน” ปริมพูดให้กำลังใจเต็มที่
“ไม่อยากเป็นแค่คนควงแต่เราอยากเป็นแฟน ฉะนั้นต้องรอจังหวะดี ๆ ค่อยเข้าหา ตอนนี้คงทำใจมองธันจีบคนอื่นไปก่อน” จินนี่อธิบายความคิดของตัวเอง
“จินนี่ใจแข็งมาก ทนเห็นคนที่ชอบจีบคนอื่นได้ยังไง” ระรินเท้าคางพูด ทึ่งกับความอดทนของเพื่อน
ถ้าเป็นเธอ..จะทนได้ไหม?
“ไม่ใช่แค่ชอบ แต่เรารักธันเลยแหละ”
“ระวังหมาคาบไปแดกด้วยนะ ทุกวันนี้ด้านได้อายอด เงียบ ๆ หงิม ๆ อย่างจินนี่คงไม่ทันคนอื่น” ปริมเป็นมีนิสัยห้าว ๆ เลยพูดตรงกว่าทุกคนในกลุ่ม
“ถ้าธันมีท่าทีจะจริงจังกับใครเราก็จะพุ่งชน แต่ตอนนี้สบายใจมาก เพราะธันยังไม่คบใคร เห็นควงเล่นมาตลอด”
“หล่อรวยขนาดนั้นคงรักสนุก มากกว่าเลือกผูกติดกับผู้หญิงคนเดียว เผื่อใจไว้ด้วยแล้วกัน อย่ามาร้องไห้ทีหลังถ้าธันมันอยากโสดตลอดไป” ปริมพูดตามสิ่งที่เห็น
ตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสามธันวายังไม่เคยมีแฟน ดีหน่อยก็ควงไปคลับหรือไม่ก็เต๊าะผ่านไอจี ด้วยนิสัยโผงผางเขาจึงเปิดเผยเวลาจีบสาว ไม่เคยงุบงิบกินเงียบเหมือนชาร์วีกับจิรกร แต่ถึงจะเปิดเผย ปริมก็ยังไม่เห็นใครปราบแบดบอยตัวพ่ออย่างธันวาได้สักคน
“ไม่ร้องไห้หรอกย่ะ” จินนี่ยู่หน้าใส่ปริม
“จ้ะ..แม่คนเข้มแข็ง” ปริมบีบจมูกเพื่อนอย่างเอ็นดู ส่วนระรินก็หัวเราะกับคำพูดถัดมาของจินนี่
“ที่ไม่ร้องเพราะเราจะเป็นแฟนคนแรกของธันให้ได้ ธันต้องรักเราคนเดียวเท่านั้น”
.
.
.
วันเสาร์..
พอถึงเวลานัดรถญี่ปุ่นกลางเก่ากลางใหม่ ก็ขับมาจอดยังลานจอดรถของคอนโดสุดหรู ร่างภายใต้ชุดกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดพอดีตัวเดินเข้าลิฟต์ด้วยความคุ้นเคย
ธันวาไม่ได้พักที่นี่เธอจึงไม่เคยเจอเขา ส่วนใหญ่จะเลือกมาหลังเลิกเรียน หรือไม่ก็วันหยุดช่วงบ่าย เพราะธันวาจะออกไปแล้ว เหลือไว้แค่เศษซากความรื่นรมย์ กับคราบคาวที่เขาเปิดศึกบนเตียงกับคู่ขา
เจอสภาพห้องเละเทะครั้งแรกก็กระอักกระอ่วน แต่ทำใจและปลอบตัวเองว่าทำเพื่อเงิน หลับหูหลับตาทำมาตลอดหลายเดือน จนตอนนี้ใจเริ่มด้านชา เป็นเหตุผลที่ไม่อยากบอกจินนี่ว่าทำงานให้เขา ไม่งั้นเพื่อนคงถามไม่จบไม่สิ้น เผลอ ๆ อาจขอมาด้วย ซึ่งไม่ดีสำหรับเธอแน่นอน
ร้อนเงินเพราะฐานะไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน ด้วยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ บริษัทจัดทัวร์ไปต่างประเทศของพ่อเลยประสบปัญหาขาดทุน ยังเรียนที่มหาวิทยาลัยคริสตัลได้ เพราะครอบครัวจินนี่ออกค่าเทอมให้ก่อน แล้วพ่อก็หมุนเงินมาคืนให้ทีหลัง
คอยลุ้นตลอดว่าจะหมุนไม่ทันเมื่อไร ถ้าเป็นอย่างนั้นคงย้ายที่เรียน หรือไม่ก็ดรอปไว้ก่อน ด้วยเหตุนี้จึงต้องทำงานหาค่าใช้จ่ายส่วนตัวตั้งแต่เรียนปีสอง
คอนโดที่เธอพัก เป็นห้องที่พ่อซื้อไว้ตอนกิจการรุ่งเรือง แต่ไม่รู้จะขายเอาเงินไปหมุนตอนไหน ลุ้นยิ่งกว่าลุ้นหวยเสียอีก ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายไม่มีความแน่นอนสักอย่าง
แกร๊ก..
ทันทีที่เปิดประตูก็กวาดตามองไปทั่ว ความเงียบบอกว่าไม่มีคนอยู่ ทุกอย่างยังคงเป็นระเบียบ อาจไม่ต้องทำอะไรมาก เช็ดถูเล็ก ๆ น้อย ๆ น่าจะเสร็จ
ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงจัดการทุกอย่างจนเรียบร้อย จากนั้นถือวิสาสะทิ้งตัวนั่งบนโซฟาแสนนุ่ม มองความหรูหราที่ชาตินี้คงไม่มีปัญญาได้สัมผัสหากไม่มาทำงานให้ธันวา เป็นคนรวยมันดีมาก แค่ซื้อห้องไว้ระเริงความสุขก็หรูหราหมาเห่า คอนโด 50 ตร.ม. ของเธอเทียบไม่ติดเลย
Rrrrr Rrrrr
เห็นสายเรียกเข้าแล้วถอนหายใจ ไม่อยากรับแต่ต้องรับ เพราะปลายสายคือแม่เลี้ยงที่ไม่อาจเพิกเฉยกับการติดต่อ
“ว่าไงคะน้าเบญ”
[ว่างคุยหรือเปล่า]
“ว่างค่ะ”
เธอกับแม่เลี้ยงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เบญจาเป็นภรรยาใหม่ของพ่อที่อยู่ร่วมบ้านมาตั้งแต่เด็ก ถึงมีลูกสาวอีกคนกับพ่อเบญจาก็ยังดีด้วยเสมอมา เป็นเธอเองที่อึดอัด เลยขอย้ายมาอยู่คนเดียวตอนเรียนปีหนึ่ง ส่วนรุ้งพรายน้องสาวก็ต่างคนต่างอยู่ ไม่สุงสิงมานานกว่าสองปี มีเพียงพ่อกับแม่เลี้ยงเท่านั้นที่โทรหาเป็นประจำ
[พี่ตรีติดพนันออนไลน์ ถ้าว่างแวะมาบ้านหน่อยนะ น้าอยากให้รินลองคุยกับพี่ตรีดู เพื่อเขาจะยอมฟังแล้วเลิกเล่น ตอนนี้น้าเตือนก็ไม่ฟัง เมื่อวานเพิ่งทะเลาะกันด้วย]
“จริงเหรอคะ!” ระรินตกใจจนเผลอถามเสียงดัง
[น้าเพิ่งรู้เมื่อสามวันก่อน ตอนพี่ตรีขอเงินค่าเทอมที่น้าเก็บไว้จ่ายให้พวกหนูเอาไปใช้ก่อน]
“น้าเบญก็ยอมให้เหรอคะ” ระรินปวดหัวขึ้นมาทันที
[เพิ่งมารู้ทีหลังเลยให้ไป นึกว่าจะเอาไปหมุนที่บริษัทแต่ไม่ใช่ น้าเครียดมากเลยริน ยังไงก็มาคุยกับพ่อหน่อยนะ]
“ได้ค่ะ..พรุ่งนี้จะเข้าไป”
[ขอบใจจ้ะ ว่าแต่กินข้าวเย็นยังจ๊ะ]
“รินเพิ่งทำงานเสร็จ กะจะแวะกินก่อนกลับห้อง”
[กินข้าวเยอะ ๆ ด้วยนะริน น้าเป็นห่วง]
"ขอบคุณค่ะน้าเบญ"
[งั้นน้าไม่กวนแล้ว..แค่นี้แหละจ้ะ]
ระรินทิ้งตัวนอนอย่างหมดแรง แววดรอปเรียนมีให้เห็นราง ๆ กิจการไม่กระเตื้องซ้ำพ่อยังเล่นพนัน หนี้สินก็พอกพูน ทีนี้ได้หมดตัวของแท้
คิดไปคิดมาคนอดนอนก็เผลอหลับ เมื่อคืนไปรับจ๊อบแพ็กของจนเกือบสว่าง ได้นอนไม่ถึงสี่ชั่วโมงก็ต้องไปทำต่ออีกโกดัง พอเลิกงานก็ขับรถมาที่นี่เลย
ชีวิตโคตรดี (ดีที่ยังไม่ตาย)
.
.
.
21.30 น.
“ทำเลยเหรอคะ” สาวสวยหุ่นเซ็กซี่ถามหลังจากประตูปิดลง ธันวาผงกหัวจากทรวงอกขนาดใหญ่ขึ้นมอง รอยยิ้มกรุ้มกริ่มก็ปรากฏ
“จะรออะไรล่ะ” เสือหิวโอบร่างสาวสวยไปยังห้องนอนเล็ก โดยไม่เห็นว่ามีคนกำลังขยับตัวอยู่บนโซฟาหน้าทีวี
“พวกเราจะไม่คุยกันก่อนเหรอ ฉันแอบเขินนะเนี่ย”
เขินบ้าอะไร
ธันวาเริ่มมีสีหน้าไม่พอใจ ตามมาถึงห้องจะเล่นตัวทำไมอีก พักนี้เหมือนเขาดวงไม่ดี เจอแต่ผู้หญิงลีลาท่าเยอะ กูชักไม่โอเคแล้วว่ะ
“เดี๋ยวก่อน!” เอ็มม่าร้องห้ามเสียงดัง อีกคนในห้องจึงสะดุ้งตื่นเต็มตา
"อื้อ" ระรินลุกนั่งด้วยความงัวเงีย มองไม่ชัดว่าใครกำลังนัวเนียกันอยู่กลางห้อง
“ไปทำในห้องเถอะ ฉันไม่ไหวแล้วคนสวย” พูดเสียงแหบพร่า ปวดช่วงล่างจนแทบปริแตก เขาอัดอั้นมานานเกินไป
ถ้าวันนี้ไม่ได้เอา..คงแห้งตาย
“ดะ..ได้ค่ะ” สาวสวยเคลิบเคลิ้มเมื่อถูกรุกเร้าหนักหน่วง
เจอครั้งแรกก็ถูกใจหน้าหล่อ ๆ ของธันวาทันที โดยเฉพาะดวงตาร้อนแรง แค่มองก็รู้ว่าเซ็กซ์จัด ดูจากรถและคอนโดเขาคงรวยใช่เล่น มีแนวโน้มว่าอาจไม่จบแค่ครั้งเดียว เธอคงเกาะไปยาว ๆ หากเขายังโสด
“ธันกลับมาแล้วเหรอคะ”
เสียงใครวะ?
ชายหนุ่มหันซ้ายหันขวา และสิ่งที่เห็นก็เล่นเอาหน้ามืด อารมณ์พิศวาสหายเกือบครึ่ง
อีกแล้วเหรอ?
เวรกรรมอะไรของกู
“ระริน!”
“ขอโทษนะ รินเผลอหลับเลยยังไม่กลับ เอ่อคือ..”
คนเพิ่งตื่นขยี้ตาตอนพูด พอทุกอย่างชัดแจ๋วก็อ้าปากค้าง เมื่อเห็นผู้หญิงอีกคนยืนหน้าบึ้งอยู่ข้างกายเจ้าของคอนโด
ธันวามากับคู่ขา! เธอตายแน่..ถูกเขาฆ่าแน่ ๆ
“คนนี้ใคร?” เอ็มม่าถามธันวาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“แม่บ้าน”
“แม่บ้านอะไรจะทรงนี้คะ”
หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม ตัวเล็กแต่สัดส่วนอวบอัด ผิวพรรณเนียนละเอียด ใครเชื่อก็บ้าแล้ว
ธันวาไม่โสดอย่างที่บอก เอ็มม่าจึงโมโหที่ถูกหลอก มีอารมณ์แค่ไหนเธอก็ไม่หน้าด้านมีอะไรกับผู้ชาย ขณะแฟนของเขาอยู่ในห้องหรอกนะ
“แม่บ้านจริง ๆ พวกเราไปต่อที่ห้องกันดีกว่า” ธันวาตั้งใจจะพาเอ็มม่าเข้าห้อง ทว่าฝ่ายหญิงดึงตัวห่าง
“ไม่ค่ะ ฉันจะกลับ”
“อะไรวะ” ธันวายืนเท้าสะเอวทำหน้ายุ่ง หงุดหงิดจนอยากระเบิดอารมณ์ใส่ใครสักคน
เวรเอ๊ย! หดแล้วหดอีกลูกชายกู
ระริน..ฮึ่ม
“คุณบอกโสดแต่เท่าที่เห็นคงไม่ใช่” เอ็มม่าชี้ไปยังหญิงสาวที่นั่งทำหน้าเหลอหลาหัวฟูอยู่บนโซฟา
“กลับไปดิวะ จะนั่งบื้ออยู่ทำไม!” ธันวาหันมาตวาดใส่ระริน
“ค่ะ ๆ รินขอโทษนะธัน ขอโทษจริง ๆ” เธอลนลานลุกยืน รีบหยิบกระเป๋ามาคล้องไหล่ วิ่งตรงไปยังประตูโดยไม่สบตากับผู้หญิงอีกคน
“ฉันจะไปเองค่ะ คุณอยู่ต่อเถอะ” เอ็มม่ารั้งแขนระรินให้หยุดยืนอยู่หน้าประตู
“คนนี้เป็นแม่บ้าน อย่างอนเลยนะเอ็มม่า ถ้าไม่โอเคกับห้องนี้ พวกเราไปต่อกันที่อื่นก็ได้”
คนของขึ้นพยายามรั้งคู่ขาที่เพิ่งเต๊าะได้สุดกำลัง นึกคาดโทษระรินไว้ในใจ หากคืนนี้ไม่ได้ปี้
เธอต้องรับผิดชอบ!
“ไม่ค่ะ..ฉันจะกลับ” เอ็มม่าสำรวจความเรียบร้อย ก่อนก้าวขาออกจากห้อง โดยไม่ฟังเสียงทัดทานของธันวา
“เดี๋ยวสิเอ็มม่า เดี๋ยว!”
ปัง!
ประตูถูกปิดกระแทกหน้าเจ้าของห้อง เขาจึงยืนหลับตากัดฟันกรอด โมโหจนควันออกหู
กูจะไม่ทน!
“กลับนะคะ..บ๊าย” เธอยิ้มแห้งพลางโบกมือหย็อย ๆ เตรียมออกจากห้อง
“หยุดอยู่ตรงนั้นเลย”
เสียงลอดไรฟันดังออกมา ระรินจึงชะงักเท้าก่อนค่อย ๆ หันมองธันวาที่กัดกรามจนเป็นสันนูน หน้าหล่อเหลาแดงก่ำ ไม่รู้โมโหหรืออารมณ์ค้าง
“ขอโทษค่ะ..รินไม่ได้ตั้งใจ”
“เธอต้องรับผิดชอบ”