“อาจารย์มีโทรศัพท์ด้วยเหรอคะ พราวโทรไปก็ไม่รับ ไลน์ไปก็ไม่อ่าน ส่วนพี่วินก็เหมือนกัน พยายามติดต่ออาจารย์จนจนปัญญาแล้วค่ะ ไม่อย่างนั้นพราวคงไม่ดักรอพบอาจารย์แบบนี้หรอกนะคะ” พราวรุ้งแขวะเข้าให้ คนอะไรไม่รับโทรศัพท์ เห็นมิสคอลล์ไม่โทรกลับ และที่สำคัญไลน์ไปไม่อ่านไม่ตอบ หรือว่าบล็อกเธอแล้วก็ไม่รู้ อันนี้ก็เย็นชาเกินกว่าที่เธอจะกระเทาะเข้าไปในหัวใจที่ไม่ต่างจากภูเขาน้ำแข็งของเขาได้
“อ๋อ ช่วงนี้ผมยุ่งๆ มีเคสผ่าตัดหลายเคสก็เลยไม่ได้หยิบโทรศัพท์มาดู ว่าแต่พวกนั้นนัดวันไหน แล้วก็ที่ไหนล่ะคราวนี้” พีรชัชเอ่ยถามออกไปด้วยความสนใจ เนื่องจากงานที่เขาทำนั้นเครียดมาก เขาก็เลยต้องการปลดปล่อย และแน่นอนว่าเขาไม่เคยพลาดทุกการนัดหมาย เขาจะแลกเวรทุกครั้ง ถ้ามันตรงกับเวรของเขา ถึงใครจะบอกว่าเขาเย็นชา แต่กับเพื่อนๆ เขาไม่ใช่คนเย็นชาอย่างที่คนตรงหน้าชอบว่าเขา
“ร้านไลท์เฮาส์ค่ะ วันศุกร์ที่สามสิบ สองทุ่มนะคะ คนอย่างอาจารย์คงไม่พลาดแน่ๆ” พราวรุ้งเอ่ยออกมาอย่างรู้ใจ คนที่ให้ความสำคัญกับทุกอย่างรอบตัวยกเว้นเธอไม่มีวันพลาดงานนี้แน่ๆ
“ก็ใช่นะสิ ว่าแต่พราวคงไม่ไปใช่มั้ย” พีรชัชแกล้งถามออกไป และทำท่าทางดีใจเหลือคณาที่เธอจะไม่ไป
“ไม่มีทางค่ะ อาจารย์ไม่มีวันสมหวังหรอกค่ะ วันนั้นพราวไปแน่ๆ และพราวก็จะแต่งตัวสวยๆ จนอาจารย์มองแล้วตะลึง หรือว่าจะตกหลุมรักทันทีก็ได้นะคะ พราวไม่ติดจริงๆ” พราวรุ้งเอ่ยออกมาพร้อมทั้งหัวเราะสะใจที่สามารถแกล้งคนที่แกล้งเธอได้ ส่วนพีรชัชได้แต่มองหน้าหญิงสาวและส่ายหน้าระอาอีกครั้ง นี่จะไม่หยุดพยายามจริงๆ ใช่มั้ย จะวิ่งตามเขาทั้งชีวิตจริงๆ เหรอ เขาอยากจะถามเธอมากว่าเธอไม่เหนื่อยหรือไงที่ตามตื้อเขามานานหลายปีขนาดนี้
“กลับไปนอนได้แล้ว ผมต้องไปทำงานแล้ว ถ้าผมว่างแล้วผมจะตอบวินเอง” พีรชัชรีบไล่หญิงสาว เพราะเธอและเขาหยุดคุยกันนานพอสมควร และพราวรุ้งก็รู้ว่าเธอไม่ควรกวนเขา เพราะเขาก็มีงานที่ต้องทำเหมือนกัน ไม่ได้มามีเวลายืนให้เธอเต๊าะเล่นแบบนี้ทั้งวัน
“ค่ะ ไว้เจอกันวันงานนะคะ เก็บอาการให้ดีล่ะ อย่าตกหลุมรักพราวนะคะ เพราะตกแล้วมันไม่มีทางขึ้นได้หรอกนะ” หญิงสาวเอ่ยออกมาพร้อมทั้งหัวเราะด้วยความพึงพอใจที่ฝ่ายชายเลือกที่จะหันหลังเดินจากไปโดยไม่เอ่ยคำลาแม้แต่คำเดียว