EP.1
"การเรียนเป็นยังไงบ้าง"
คำถามแรกของวันเอ่ยขึ้น ระหว่างเวลาอาหารมื้อเช้า ที่คนเป็นพ่อเอ่ยถามบุตรสาว แต่ทว่าใบหน้าตึงเครียดของทั้งคู่กับทำให้บรรยากาศดูไม่อบอุ่นอย่างที่ควรจะเป็น
"ก็ดีค่ะ"
คำตอบสั้น ๆ ที่เอ่ยตอบบิดาไม่ได้สดใสหวานแหววสมวัย แต่เจ้าของคำตอบกลับหน้าตาเศร้าสร้อยราวกับไม่มีชีวิตชีวา
อนุรดี เกษมทรัพย์ตระกูล หรือคุณหนูนุดี เด็กสาวอายุ 18ย่าง19 บุตรสาวคนเดียวของนักธุรกิจที่รวยเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ อย่างท่านอนันต์ เกษมทรัพย์ตระกูล พ่อหม้ายวัย 52ปี ที่สูญเสียภรรยาไปจากโรคร้ายที่คุกคามเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ท่านอนันต์เลยต้องเลี้ยงดูบุตรสาววัยแรกแย้มเพียงลำพังจนทุกวันนี้ แต่เด็กสาววัยรุ่นกับพ่อผู้บ้างาน จะมีความผูกพันอะไรมากมาย เพราะความไม่เข้าใจกัน เลยทำให้ความสัมพันธ์พ่อลูกเกิดช่องว่างที่ยากจะเติมเต็ม
คนเป็นพ่อก็ตั้งความหวังกับลูกเอาไว้มาก ทั้งเรื่องการเรียนและเรื่องสานต่อธุรกิจ ส่วนลูกสาวก็เอาแต่ตัดพ้อต่อโชคชะตา ที่พ่อให้ความสำคัญกับตนน้อยกว่างานตรงหน้า จนไม่มีเวลาพาเธอไปเที่ยวหรือทำอะไรที่กระชับความสัมพันธ์แบบครอบครัวอื่น ๆ เลย นอกจากบังคับให้เธอเรียนและอยู่ในกรอบอยู่ในลู่ทางที่ถูกขีดไว้
"ต่อไป พ่อจะให้คนของพ่อขับรถให้ลูก เพราะถ้าลูกเข้ามหาลัย จะได้มีคนรับส่ง พ่อจะได้ไม่ห่วงหน้าพะวงหลัง"
"ไม่ถามลูกสักคำเหรอคะ ว่าลูกอยากได้บอดี้การ์ดไหม"
"นั่นไม่ใช่สิ่งที่ลูกต้องออกความคิดเห็น เพราะพ่อจำเป็นต้องหาคนดูแลลูกและเป็นหูเป็นตาแทนพ่อ ในตอนที่พ่อมีงานสำคัญต้องจัดการ"
"คุณพ่อก็งานยุ่งทุกวันละคะ ลูกไม่เคยเห็นคุณพ่อว่าง แต่ลูกโตแล้ว...ดูแลตัวเองได้ค่ะ ลูกไม่ต้องการให้มีคนเดินตามตูดต้อย ๆ มันน่าเบื่อค่ะ"
"ไม่ได้...เพราะพ่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว...เรียกเธียรเข้ามาหาฉัน"
"คุณพ่อ! ลูกไม่..."
"ครับท่าน"
ร่างสูงที่ก้าวเข้ามายืนอยู่ข้าง ๆ ท่านอนันต์ ทำให้คุณหนูนุดีสงบปากสงบคำลงทันที
สาวน้อยนิ่งงันไปชั่วอึดใจ ดวงตากลมจ้องนิ่งราวกับโดนมนต์สะกด
จวบจนสายตาคมเหลือบมาจ้องสบดวงตากลมนั้น คุณหนูถึงได้หลบสายตา เพราะไม่อาจสู้ดวงตาคู่คมที่ดูน่าหลงใหลคู่นั้นได้
"นี่คือเธียร คนที่พ่อคัดมาเพื่อดูแลลูกเป็นพิเศษ เธียรจะปกป้องและดูแลลูกได้ในทุก ๆ เรื่อง มีเธียรติดตามลูกไปด้วย พ่อก็วางใจ "
สาวน้อยนิ่งฟัง แต่หันหน้าไปทางอื่นราวกับไม่อยากสนใจในสิ่งที่พ่อพูด แต่มือเล็กกับจิกกำชายกระโปรงแน่น ด้วยความประหม่าที่มีต่อสายตาคมของคนที่ยืนอยู่ข้างพ่อตน
เธียร หรือ ธีระชัย พงศ์พสุชา บอดี้การ์ดหนุ่มที่ท่านอนันต์เลือกเฟ้นมาเพื่อปกป้องดูแลลูกสาว
หัวนอนปลายเท้าเป็นเช่นไรไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ความไว้ใจที่ท่านมีต่อเธียรต่างหาก ที่ทำให้ท่านอนันต์เลือกเขาให้มาดูแลคุณหนูของบ้านนี้
สายตาคมของเธียรจ้องใบหน้าจิ้มลิ้มที่ดูงอแงเป็นเด็ก ๆ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อรับรู้ได้ว่าเจองานที่ยากเข้าแล้ว คุณหนูที่ขี้งอแงเอาแต่ใจแบบนี้ คงจะทำให้เขาเหนื่อยมากแน่ๆ
"ลูกปฏิเสธอะไรได้ด้วยเหรอคะ คุณพ่ออยากทำอะไรก็ทำเถอะ"
"งั้นเริ่มวันนี้เลย เธียร!"
"ครับท่าน"
"ไปส่งคุณหนูที่โรงเรียน ตอนเย็นก็รับกลับมาด้วย"
"ครับท่าน"
ความเย็นฉ่ำของแอร์ในรถหรูทำให้ร่างบางห่อไหล่ เพราะรู้สึกหนาวและตนดันลืมเอาเสื้อแขนยาวกันหนาวมาด้วย เลยจำเป็นต้องกอดอกห่อตัวเป็นดักแด้อย่างที่เห็น
"คุณหนูหนาวเหรอครับ"
"เอ่อ...ใช่"
เธียรสังเกตเห็นตั้งแต่แรกเลยเอ่ยถาม ก่อนจะจอดรถข้างทางทันที จนร่างบางตกใจด้วยไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไร
จวบจนเธียรเดินมาเปิดประตูทางเบาะหลังแล้วร่างสูงก็ถอดสูทของตัวเองออก ร่างบางถึงกับตกใจตาโตในการกระทำนั้น
"จะ...จะทำอะไรน่ะ อย่านะ"
เธียรมองหน้าคุณหนูเล็กน้อย ก่อนจะนำเสื้อคลุมร่างเล็กเอาไว้ เขาก้มลงมาหาเธอจนลมหายใจเป่ารดลำคอของเธอ
คุณหนูหลับตาปี๋เธอแทบลืมหายใจ การกระทำของเขาทำให้เธออดที่จะลืมตาขึ้นมามองไม่ได้ เพราะเขาแสดงออกถึงความดูแลเอาใจใส่เธอแม้เรื่องเล็กน้อย เขาก็ทำมันได้ดี
ดวงตากลมแอบสำรวจใบหน้าหล่อที่จ่อหน้าเธอแค่เพียงคืบ ลมหายใจของเขาสดชื่นและอุ่นซ่านจนเธอสัมผัสได้ สาวน้อยวัยแรกแย้มถึงกับหายใจติดขัด เมื่อบอดี้การ์ดหนุ่มปรนนิบัติใกล้ชิด จนแทบจะถึงตัวกันอยู่แล้ว
"เรียบร้อยแล้วครับคุณหนู คราวหน้าอย่าลืมเสื้อคลุมนะครับ ออกข้างนอกต้องเตรียมมาด้วย"
"เอ่อ...ค่ะ"
คำขานรับทำให้บอดี้การ์ดหนุ่มแอบอมยิ้ม อย่างน้อยลูกสาวของเจ้านาย ก็ยังพูดจาคะขาอย่างให้เกียรติเขาที่เป็นรุ่นพี่ แบบนี้เขาก็จะได้ทำงานได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องคำพูดคำจาให้มากความ
การเริ่มงานวันแรกก็ไม่ถือว่าเลวร้าย ลูกสาวนายก็ไม่ได้ดูดื้อดึงหรือเอาแต่ใจอย่างที่คิด กลับกันเธอดูน่ารักและว่าง่ายมาก ๆ จนเขารู้สึกถูกชะตาแปลกๆ
ถ้าเธอแสดงออกถึงความสดใสร่าเริงสมวัยกว่านี้ เธอจะเป็นคนที่น่ารักน่าเอ็นดูไม่น้อยเลย
(กลางดึก)
ร่างบางหยิบแก้วนมที่แม่บ้านอุ่นมาให้ยกขึ้นดื่ม ก่อนจะเดินไปยืนรับลมอยู่ที่ขอบหน้าต่างที่เปิดกว้าง ภาพมุมนี้ทอดมองออกไปจะมีความสวยงามในสวนที่ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์
ดวงไฟหลากสีสันที่ประดับตกแต่งในสวน สะท้อนให้เห็นความสวยงามของสวนได้อย่างเด่นชัด ไม่เว้นแม้แต่คนที่กำลังออกกำลังกายในสวน
มือที่ถือแก้วนมชะงักค้าง และบีบกำแก้วนั้นแน่น ราวกับกลัวมันจะร่วงจากมือ
ดวงตากลมเบิกโตและกำลังจ้องบางอย่างราวกับสนใจ ปากอิ่มสวยอ้าค้างอย่างไม่ตั้งใจ ก่อนจะรีบถอยมาหลบหลังผ้าม่านพลางหอบหายใจอย่างแรง
ดวงตากลมโตแอบชำเลืองลงไปมองร่างกำยำที่กำลังนั่งยกดัมเบลอยู่บนม้านั่งกลางสวน
ร่างกำยำหนั่นแน่นอวดโชว์ลอนกล้ามที่แน่นเปี๊ยะทั้งร่าง จนคนที่แอบมองเม้มริมฝีปากอย่างลืมตัว
มือบางที่ถือแก้วเริ่มสั่นจนต้องวางมันลงทันที ก่อนจะยกมือขึ้นมาทาบอกแล้วหายใจเข้าปอดลึกๆ ราวกับกลัวว่าอากาศจะไม่มากพอให้หายใจ
คุณหนูหันกลับไปแอบมองเธียรอีกครั้ง โดยเธอเกาะขอบหน้าต่างมองเขาอย่างสนใจ
เธียรเปลี่ยนจากยกดัมเบลมายืนยืดเส้นยืดสาย โยกกายไปมาจนสายตาเหลือบมาเห็นร่างบางที่แอบมองเขาอยู่
พอเธอเห็นเขาจ้อง เธอก็หายเข้าห้องไป ทำให้เธียรทำหน้างงด้วยความสงสัย
ร่างบางที่หลบสายตาเขาเริ่มรู้สึกสนใจในตัวเธียร และเธอเองก็อยากหาอะไรทำแก้เหงา จึงก้มลงมองหน้าอกตัวเอง พลางยกยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเอื้อมมือมาดึงเสื้อคลุมชุดนอนลงเพื่อเปิดให้เห็นไหล่เนียนทั้งสองข้าง ทั้งยังแหวกสาบเสื้อตรงกลาง หมายจะอวดโชว์ร่องอกขาวอวบของตน ให้เขาได้เห็นเต็ม ๆ ทั้งสองตา
สายผูกเสื้อคลุมถูกคลายออกจนเสื้อคลุมหลุดลุ่ยหมิ่นเหม่ จัดแจงเรียบร้อยร่างน้อยก็เกล้าผมขึ้นอวดลำคอขาวเนียน แล้วเดินออกจากห้องมาทางระเบียงอย่างจงใจ
ร่างบางสุดเซ็กซี่ในชุดคลุมผืนบาง ที่ข้างในมีเพียงชุดนอนบางเบาสายบ่าเล็กเท่าเส้นลวด ความอวบอัดที่เบียดชิดกันก็ไร้ชั้นในหุ้มห่อ จนปลายจุกนูนออกมาตามความบอบบางของเนื้อผ้า ช่างล่อตาล่อใจเสือผู้หิวโหย เรียวขาสวยก็ไร้สิ่งปกปิด เพราะชุดนอนด้านในสั้นจนแทบไม่ปิดอะไรเลยสักอย่าง
เธียรถึงกับชะงักค้าง เมื่อภาพที่เขาเห็นในตอนนี้ มันทำให้อารมณ์ดิบที่อยู่ภายในของเขาถูกกระตุ้นทันที
เขายืนมองร่างบาง ที่ดูเหมือนจะไม่สนใจเขา ไม่รู้ว่าเธอรู้หรือเปล่าว่าเขายืนอยู่ตรงนี้
คุณหนูคนสวยเดินไปยังกระถางต้นไม้ที่แขวนประดับอยู่ด้านบนของระเบียง เธอเอื้อมมือขึ้นไปจับดอกไม้จนสุดแขน ชุดนอนตัวบางก็ร่นขึ้นตาม
สายตาคมถึงกับเบิกกว้าง พลางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เมื่อเขาเหลือบไปเห็นเนินสามเหลี่ยมขาวเนียน ที่มีชั้นในตัวจิ๋วห่อทับจนอวบอูมน่าสัมผัส
ขอบข้างขาหนีบขาวเนียนจนเขาลุ้นแทบขาดใจ ยามที่เธอหมุนตัวไปมา เขาก็หวังจะได้เห็นสิ่งที่แพลมออกมาสักนิดให้ชื่นใจ
เธียรยืนตัวแข็งทื่อ จ้องมองภาพตรงหน้าอย่างไม่ยอมละสายตา เต้าอวบอัดที่เห็นปลายจุกอย่างเด่นชัด มันช่างน่าดูดดื่มยิ่งนัก
ร่างบางตรงหน้าสวยงามไปทั้งร่าง ทำเอาเธียรเหงื่อท่วมตัวทั้งที่ไม่ได้ออกกำลังกายแล้ว แถมสามเหลี่ยมบอบบางที่โผล่แพลมออกมาให้เขาเห็น ก็ยั่วยวนใจเสียจนเธียรทนดูต่อไม่ไหว หากดูต่อเขาได้เลือดกำเดาไหลหมดตัวเป็นแน่
ภาพที่เธียรหุนหันออกไป ทำให้คุณหนูแอบอมยิ้มอย่างพึงพอใจ เธอรู้สึกสนุกกับการได้แกล้งบอดี้การ์ดหนุ่มซะแล้ว เธอก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าเขาจะทนการยั่วยวนของเธอได้นานแค่ไหน