หลังจากกลับมาจากสัมภาษณ์งาน หญิงสาวก็นอนกลิ้งไปมาอยู่บนที่นอนด้วยความสับสน เธอเริ่มไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นถูกหรือไม่ เพราะการเอาตัวเข้าแลกครั้งนี้ เธออาจจะสูญเสียทุกสิ่ง แม้แต่หัวใจของเธอเอง ความบริสุทธิ์ที่เก็บรักษามาตลอด มันคุ้มค่าแล้วหรือกับการทำแบบนี้
นี่คือความสับสนที่กำลังตีกันอยู่ในสมองของเธอ เธอทบทวนอยู่หลายชั่วโมงแล้วแต่ก็ยังไม่ได้คำตอบ ใจหนึ่งก็บอกว่าให้ถอยออกมา เขาไม่ได้ดีและไม่ควรค่าให้เธอใฝ่ฝัน แต่อีกใจหนึ่งก็บอกให้โลภ แล้วทำให้เขารักเธอสิ แล้วเธอจะมีความสุขกับผู้ชายที่เธอเลือกแน่นอน
และสุดท้ายแล้วจิตสำนึกด้านร้ายก็ทำงาน มันสั่งให้เธอทำตามหัวใจของตนเอง แล้วก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เขาครอบครอง แม้ว่าสุดท้ายแล้วเธอจะล้มเหลว ก็ยังดีกว่าเธอไม่ได้พยายามทำอะไรเลย เมื่อตัดสินใจได้เช่นนั้น หญิงสาวก็เตรียมเดินหน้าต่ออย่างไม่ลังเลอีกแล้ว
เมนิลารอโทรศัพท์จากฝ่ายบุคคล และทางโรงแรมก็ไม่ปล่อยให้เธอรอนาน เมื่อเช้าวันต่อมา เจ้าหน้าฝ่ายบุคคลก็โทรมานัดวันเริ่มงานกับเธอ และอธิบายรายละเอียดของสิ่งที่ต้องเตรียมไปในวันเริ่มงาน ซึ่งก็คืออาทิตย์หน้า เมนิลาตอบรับทุกอย่างก่อนที่จะวางสายไป
เช้าวันเริ่มงานหญิงสาวมาที่โรงแรมเพื่อที่จะเซ็นสัญญาก่อนที่จะเริ่มงานที่นี่ เธอได้รับการอบรมจากฝ่ายบุคคลอยู่ครึ่งชั่วโมง ก่อนที่เธอจะถูกพาไปที่ห้องทำงานของอชิระ เมื่อมาถึงหญิงสาวก็ต้องตกใจเป็นอย่างมากที่ในห้องของเขามีเพียงเธอและเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลเท่านั้น
“เอ่อ...โทษนะคะแล้วใครจะเป็นคนสอนงานเมล่ะคะ” เมนิลาอดสงสัยไม่ได้ก็เลยเอ่ยถามฝ่ายบุคคลออกไป
“ท่านประธานจะเป็นคนสอนงานเองค่ะ ตอนนี้ท่านก็น่าจะถึงแล้ว คงกำลังขึ้นมาที่ห้อง รบกวนนั่งรอสักครู่นะคะ” เจ้าหน้าฝ่ายบุคคลแจ้งด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะขอตัวออกไปจากห้องทำงานของอชิระ ปล่อยหญิงสาวนั่งรออยู่ที่เก้าอี้ด้วยอาการตัวลีบ ไม่รู้ว่าเขาจะเข้ามาตอนไหน
สายตาของเธอกวาดมองไปเรื่อยๆ ทั่วห้อง ก่อนที่จะไปหยุดอยู่ที่ประตูบานหนึ่ง ซึ่งเธอไม่แน่ใจว่าคือประตูห้องน้ำหรือประตูหนีไฟอะไรหรือเปล่า แต่ก็ช่างเถอะ หน้าที่ของเธอคืออย่าสงสัยอะไร นี่คือสิ่งที่เขาบอกเธอตั้งแต่วันแรก เพราะฉะนั้นเธอก็ต้องทำตามที่เขาบอก จะได้ไม่ต้องมีปัญหากับเขา