ท้ายสุดเดเมียนจึงตัดสินใจเร่งฝีเท้าตรงไปจับต้นแขนหญิงสาวแล้วบีบไว้แน่น ดวงตาของเขาฉายแววข่มขู่ขณะพูดว่า “ไปนอนได้แล้ว จะทำท่าดีดดิ้นอะไรนักหนา ทำยังกับว่าฉันไม่เคยนอนเตียงเดียวกับเธอ แล้วก็เก็บไอ้ความคิดที่จะหนีไปจากรัศมีสายตาของฉันเอาไว้ซะ เพราะมันไม่มีทางสำเร็จอย่างเด็ดขาด”
พูดจบชายหนุ่มก็ลากหล่อนตรงดิ่งไปยังเตียงกว้าง ออกแรงกดหญิงสาวให้ทรุดลงนั่งกับเตียง
ตะวันวาดขืนตัวไม่ยอมเดเมียนง่ายๆ ชายหนุ่มถลึงตามองหล่อนก่อนจะออกแรงเพิ่มจนหญิงสาวอุทานออกมาด้วยความเจ็บ
“โอ๊ย”
เขาอาศัยจังหวะนี้จัดการกดไหล่ของหล่อนจนแผ่นหลังบางสัมผัสกับที่นอนหนานุ่ม ซึ่งแม้จะพยายามขืนกายเพียงใดแต่หล่อนก็แพ้แรงของผู้ชายอยู่ดี
“ก็แค่นี้แหละ เธอนี่มันโง่จริงๆ ตะวันวาด รู้ทั้งรู้ว่าถ้าขัดคำสั่งฉันจะเจ็บตัวแต่เธอก็ยังทำ” ชายหนุ่มพูดเป็นเชิงบ่น ดวงตาฉายประกายของความพอใจที่บังคับให้หญิงสาวนอนบนเตียงได้
แต่มีหรือที่ตะวันวาดจะยอมง่ายๆ หญิงสาวอาศัยจังหวะที่เดเมียนถอยห่างผุดลุกขึ้นด้วยความรวดเร็ว แล้ววิ่งไปซุกตัวที่มุมห้อง หัวเด็ดตีนขาดยังไงหล่อนก็ไม่มีวันยอมนอนร่วมเตียงกับเดเมียนอย่างเด็ดขาด!
“ดิฉันยอมเจ็บตัว ดีกว่าที่จะนอนร่วมเตียงเดียวกันกับคุณ แค่ประสบการณ์ในคืนนั้นดิฉันก็เจ็บปวดกับมันมากพอแล้ว ดิฉันอยากจะขอความกรุณาให้คุณเห็นใจดิฉันบ้าง”
หญิงสาวตอบโต้เขาเสียงสั่นทันทีที่ทรุดตัวลงนั่งกอดเข่า แม้จะกลัวแต่นิสัยดื้อดึงก็ทำให้หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะตอบโต้เดเมียน ฉะนั้นภาพที่ชายหนุ่มเห็นจึงเป็นภาพของหญิงสาวนั่งกอดเข่าตนเองแล้วซุกหน้าลง แต่กลับโต้เถียงเขาฉอดๆทั้งที่นั่งตัวสั่นจนทำเอาคนใจแข็งโกรธหล่อนไม่ลงที่ดื้อดึงกับเขา
ท้ายสุดเดเมียนจึงได้แต่ตามใจหล่อน
“เอาเถอะ ในเมื่อเธอกล้าที่จะร้องขอ ถ้าฉันไม่ให้เธอก็ออกจะใจดำเกินไปหน่อย งั้นเธอก็ซุกตัวอยู่ตรงนั้นตลอดนะ ห้ามกระดุกกระดิกหรือย้ายที่อย่างเด็ดขาด ถ้าฉันไม่เห็นว่าเธออยู่ที่เดิมล่ะก็ ฉันจะย้ายที่ให้เธอเอง แต่ขอเตือนเอาไว้ก่อนว่าฉันคิดค่าขนส่ง ‘แพง’ เธออาจจะต้องจ่ายจน...หมดตัว”
ในขณะที่พูดประโยคสุดท้ายเดเมียนก็กระตุกยิ้มพลางมองสบตากับ หญิงสาวที่เงยหน้าขึ้นมองเขาขวับด้วยดวงตาสีน้ำตาลใสแจ๋วด้วยทีท่าตื่นตระหนก แล้วชายหนุ่มก็กวาดตามองหล่อนไปทั่วร่างด้วยสายตาโลมเลียเรือนกายหล่อน ทำเอาคนถูกมองสะท้านวูบ หวนนึกถึงสัมผัสจากฝ่ามืออุ่นจัดที่เคยลูบไล้ไปทั่วกายของหล่อนก็ได้ตาซุกหน้าลงกับเข่าตนเองแล้วใช้สองมือโอบกอดเข่าตนเองแน่น ไม่ปรารถนาจะสบตากับเขาอีกต่อไป
ตะวันวาดได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วๆ ในลำคอของเดเมียน แม้จะนึกขวางหูนักหากหล่อนก็ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาต่อว่าเขาและเพียงไม่นานแสงไฟในห้องก็ดับมืดลง และหล่อนก็ได้แต่นั่งกอดเข่าตนเอง ณ มุมแห่งนี้เท่านั้น และดูเหมือนว่า คนขี้แกล้งจะจงใจลดอุณหภูมิในห้องลงจนหญิงสาวเริ่มรู้สึกว่าร่างกายของหล่อนกำลังสั่นเทาด้วยความหนาว แต่ตะวันวาดก็กัดฟันสู้ จนในที่สุดความง่วงงุนบวกกับร่างกายที่จะว่าไปก็ยังไม่หายไข้ดีนักก็ทำให้หล่อนค่อยๆ เอนกายลงนอนกับพื้นพรมหนานุ่ม งอเข่านอนขดตัวประหนึ่งลูกแมวน้อยที่ต้องการไออุ่นในคืนอันหนาวเหน็บก็ไม่ปาน
แม้ปากจะพูดเช่นนั้น หากคนใจแข็งไม่จริงกลับค่อยๆ เอื้อมมือไปยังโคมไฟหัวเตียง ชายหนุ่มเปิดไฟด้วยความเบามือก่อนจะค่อยๆ เดินตรงไปหา หญิงสาวที่บัดนี้นอนซุกตัวหลับสนิทกับพื้นด้วยสายตาระอา
ทั้งที่ตัวเองก็ยังไม่หายดี คนเขาจะให้นอนที่ดีๆ นุ่มๆ สบายๆ ก็ไม่เอา อยากดิ้นรนหาความลำบากใส่ตัวทำไมก็ไม่รู้ ชายหนุ่มคิดแล้วส่ายหน้าด้วยความหน่ายกับนิสัยดื้อรั้นของหล่อนที่สัมผัสได้มาสองสามวันนี้นับตั้งแต่รู้จักกันมา หรือมันจะเป็นนิสัยของผู้หญิงไทยกันทุกคนหรือเปล่านะ ดื้อรั้นและหยิ่งทะนง ไม่เข้าเรื่อง
เดเมียนคิดหากลึกลงไปเขามีความเอ็นดูและออกจะชื่นชอบในนิสัยนี้...ด้วยอรนลินน้องสาวเพียงคนเดียวของเขาก็เป็นเช่นนี้ไม่ใช่หรือ ที่ทำให้เดเมียนรักหล่อนได้อย่างสนิทใจทั้งที่ควรจะโกรธว่าแม่ของหล่อนเคยแย่งพ่อของเขาไป
และเพราะเห็นว่าตะวันวาดมีนิสัยดื้อดึงที่เขาเห็นว่าคล้ายคลึงกับอรนลินทำให้เดเมียนไม่อาจหักใจทำร้ายหล่อนไปได้มากกว่านี้ ทั้งที่หากเป็นยามปกติ มีหรือที่เดเมียนจะเป็นเช่นนี้
ชายหนุ่มใช้ปลายนิ้วไล้โครงหน้าเรียวหวานของหญิงสาวแผ่วเบา แสงสีส้มสลัวของโคมไฟที่ตั้งอยู่ไกลก่อให้เกิดเหลี่ยมมุมบนใบหน้าสวย แลดูทั้งอ่อนหวานน่าทะนุถนอม หากขณะเดียวกันใบหน้าของหล่อนก็มีทั้งแววดื้อดึงและถือทิฐิแม้ ในยามหลับ
ถ้าเพียงแต่หล่อนจะไม่ใช่นางนกต่อ...
เดเมียนชะงักนิ้วแล้วชักมือตนเองกลับ ดวงตาสีเทาที่อ่อนแสงจนแทบจะทอประกายอ่อนหวานแปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว...เขาไม่ควรรู้สึกเช่นนี้กับผู้หญิงที่ชาร์ล คอร์นเนอร์ส่งเข้ามา แม้หล่อนจะปฏิเสธแต่ตราบใดที่เขายังหาข้อมูลมายืนยันคำพูดของหล่อนที่บอกว่าไม่ใช่ไม่ได้...หล่อนก็คือผู้ต้องสงสัยต่อไป
“เธอกล้ามากที่ทำให้ฉันปั่นป่วนได้ถึงเพียงนี้...ตะวันวาด”
ชายหนุ่มพึมพำแล้วช้อนอุ้มตัวหญิงสาวที่กำลังหลับสนิทไม่รับรู้เลยว่ากำลังมีใครมายุ่งกับร่างกายของหล่อน เดเมียนค่อยๆ วางตัวหล่อนลงบนเตียงนุ่มช้าๆ จัดการห้มผ้าให้หญิงสาวด้วยกริยาแผ่วเบาและหันไปเพิ่มอุณหภูมิของแอร์เป็นยี่สิบองศา เลิกแกล้งให้หญิงสาวนอนหนาวดังเช่นเมื่อครู่ ก่อนที่เขาจะสอดกายนอนเบียดกับหล่อน ตวัดท่อนแขนพาดผ่านเอวอ่อน จ้อมมองใบหน้าเรียวเล็กที่กำลังหลับพริ้มแล้วเผลอยิ้มออกมา ไม่นาน...เดเมียนก็เข้าสู่ห้วงนิทรารมย์ไปอีกคน
ในยามที่แสงแรกแห่งตะวันสาดส่องผ่านม่านเนื้อหนาเข้ามากระทบใบหน้าของหญิงสาวจนตะวันวาดทนไม่ไหวค่อยๆ เปิดเปลือกตาของตนเองขึ้น แล้วหญิงสาวก็ต้องตัวแข็งทื่อเมื่อพบว่าเป็นอีกครั้งที่หล่อนตื่นนอนบนเตียงของ เดเมียน
หญิงสาวจ้องมองใบหน้าคมคายที่กำลังหลับตาพริ้มของเดเมียนแล้วก็ใจสั่น ความใกล้ชิดยิ่งกว่าชิดเช่นนี้ทำเอาหล่อนกำลังทำตัวไม่ถูก จะขยับตัวให้หลุดจากอ้อมแขนเขาก็กลัวเขาจะตื่น ซึ่งหล่อนไม่อยากจะคิดว่าถ้าเดเมียนตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าหล่อนเองเป็นคนปลุกเขาขึ้นมาชายหนุ่มจะหาวิธีอะไรมากลั่นแกล้งหล่อนอีกหรือไม่
ตะวันวาดมองชายหนุ่มที่กอดหล่อนไว้ไม่วางตา เดเมียนเป็นผู้ชาย หล่อเหลาที่หาตัวจับได้ยาก...ชายหนุ่มมีจมูกโด่งเป็นสันสวย ดวงตาสีเทาคมกริบ ในยามที่เขาทอดสายตามองหล่อน ริมฝีปากบางราวกับอิสตรีหากหล่อนก็รับรู้ได้ว่ายามเขาโมโหริมฝีปากนี้ก็ลงโทษหล่อนด้วยความหยาบกระด้างเพียงไร ทุกชิ้นส่วนบนใบหน้าของเขารับกับโครงหน้าแกร่งและบ่งบอกว่าเขานั้นช่างหยิ่งทะนงและ ถือดีเป็นที่สุด เรือนกายแกร่งสูงใหญ่ที่หากยืนเทียบกันหล่อนคงสูงไม่พ้นไหล่ของเขาดีด้วยซ้ำ ในยามที่ก้าวเข้ามาข่มขู่หล่อน เดเมียนเหมือนราชสีห์ที่พร้อมจะกระโจนตะปบเหยื่อ ทุกสิ่งที่ประกอบเป็นเขาช่างดูน่าเกรงขามจนหล่อนนึกกลัว...แต่ก็ไม่รู้ทำไมที่หลายต่อหลายครั้งหล่อนกล้าที่จะต่อปากต่อคำกับเขา คนที่ขึ้นชื่อว่าไม่เคยปรานีใคร และเย็นชาเสียจนไม่น่าเข้าใกล้
หากนั่นก็คือเสน่ห์อันชวนมองและน่าหลงไหลของเดเมียน เพียร์สันไม่ใช่หรือ? หญิงสาวคิดในใจขณะที่พินิจมองเขาไม่วางตานานเท่าไหร่ไม่รู้ มารู้สึกตัวอีกทีมือใหญ่ของคนที่หล่อนคิดว่าเขาหลับไปแล้วก็กอดกระชับหล่อนแน่นจนหญิงสาวรู้สึกได้ถึงทรวงอกของหล่อนเบียดชิดกับอกแกร่งเรียบตึงของเขา