ร่างบางตื่นขึ้นมาในเช้าของวันใหม่ก่อนจะมองใบหน้าหล่อร้ายของผู้ชายที่นอนอยู่ข้าง ๆ เธอ พร้อมกับมือหนาที่กอดรัดเอวเธอแน่น ร่างเปลือยเปล่าของเธอและเขาแนบชิดกันจนสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิร่างกาย ใบหน้าเล็กแดงก่ำเนื่องจากมีของแข็งบางอย่างที่สัมผัสกับต้นขาของเธออยู่นั่นเอง
เธอเงยมองหน้าหล่อที่หลับสนิทด้วยความรู้สึกหลากหลาย ตอนเขาหลับก็เป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่งที่มีหน้าตาหล่อเหลาและมีความร้ายผ่านรูปหน้าอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกถึงความเลวร้ายอย่างเวลาเขาตื่น
เธอไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตของเธอจะเจอกับเรื่องแบบนี้ได้ เธอไม่รู้ว่ามันเป็นความโชคดีหรือโชคร้ายของเธอที่เขาทำแบบนี้กับชีวิตเธอ แต่ถ้าเทียบกับละครหลังข่าวที่เธอเคยดูและเคยเห็นพวกเจ้าหนี้นอกระบบทวงหนี้มันค่อนข้างรุนแรงและน่ากลัว มันคงจะเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เธอยังก้าวต่อไปข้างหน้าได้สินะ
“แอบมองฉันขนาดนี้ต้องการอะไรเหรอหนูน้อย”
เสียงอารมณ์ดีของนาวาดังขึ้นเมื่อเขารู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังถูกมองนานสองนาน แต่พอเขาหรี่ตาขึ้นมามองหญิงสาวข้างกายก็เห็นว่าเธอกำลังมองมาที่เขา แต่สายตากลับเลื่อนลอยเหมือนไม่ได้โฟกัสจนไม่รู้ว่าเขากำลังมองเธอกลับคืนนั่นเอง
“อะ...เอ่อ”
ลูกพลับถึงกับทำตัวไม่ถูกเมื่อถูกจับได้ว่าเธอแอบมองเขาอยู่ ก่อนจะรีบซุกหน้าเข้าแผงอกแกร่งเพื่อหลบสายตาเขาอย่างลืมตัว และเธอไม่รู้ตัวเลยว่านั่นเหมือนไปสะกิดอารมณ์ของเขาที่มีในทุกเช้าอยู่
พรึ่บ!
“ฮะ...เฮียวา!”
ใบหน้าตื่นกลัวเอ่ยเรียกนาวาขึ้นเมื่อเขาขึ้นมาคร่อมทับเธอ
“ฉันหิว”
นาวาเอ่ยขึ้นก่อนจะก้มลงไปซุกไซ้ซอกคอระหงของลูกพลับอย่างกระหาย
“ไม่เอาได้ไหมคะ”
ร่างบางเอ่ยขอคนบนร่างออกไปด้วยน้ำเสียงกระเซ่าจากความถูกซุกไซ้
“แล้วถ้าไม่ได้ล่ะ”
นาวาผละออกมาถามเธอขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“แต่วันนี้หนูมีเรียน วะ...ไว้คืนนี้ได้ไหม”
ระหว่างที่เธอพูดก็หลบสายตาด้วยใบหน้าแดงก่ำ นั่นทำเอานาวาแทบทนไม่ไหว
“ถ้าไม่อยากให้เอาก็อย่าทำหน้าแบบนั้น”
นาวาพูดขึ้นพร้อมกับมองใบหน้าเล็กที่ดูบอบบางจนน่ารังแก และแน่นอนว่าเขาชอบรังแกเด็กไร้ทางสู้อย่างเขา
“...”
ดวงตากลมเบิกมองเขาอย่างไม่เข้าใจพลับคิ้วเรียวขมวดเป็นคำถาม เพราะเธอไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้าแบบไหนนั่นเอง
จ๊วบบบ!
“อื้อ!”
อีกครั้งที่ริมฝีปากบางถูกฉกไปจากริมฝีปากร้าย ๆ ของนาวา เธอจะรู้ไหมว่าความใสซื่อและอ่อนแอของเธอเป็นสิ่งที่นาวาชอบมากที่สุด ชอบจนอยากเก็บไว้เล่นคนเดียวไม่ให้ใครได้เห็นเธอ
ร่างกายที่อ่อนระทวยเพราะถูกชักนำจากคนมากประสบการณ์อย่างเขาทำเอาเธอแทบละลายอย่างไม่รู้ตัว ได้แต่กร่นด่าความใจง่ายของตัวเองที่เคลิ้มไปกับเขาอย่างง่ายดายทุกครั้งไป
“หึ!”
นาวาผละจากจูบก่อนจะแค่นหัวเราะออกมาอย่างพอใจกับท่าทางของคนใต้ร่าง
“พะ...พอแล้วได้ไหมคะ”
สายตาและน้ำเสียงออดอ้อนเหมือนลูกแมวน้อยของเธอ ยิ่งทำให้เขาที่พยายามหักห้ามใจไว้แทบห้ามไม่อยู่
“ถ้าหนูกล้าขอ เฮียก็กล้าให้”
นาวาเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์และยอมปล่อยเธอไปอย่างง่ายดายเพื่ออดเปรี้ยวไว้กินหวาน
ในเมื่อเธอกล้าขอเขาก็กล้าให้ ในเมื่อเธอกล้าต่อรองงั้นคืนนี้เขาก็จะตักตวงความสุขจากร่างกายของเธอโดยที่เธอไม่มีสิทธิปฏิเสธเขาได้โดยที่ร่างบางไม่รู้ตัวเลยว่าคืนนี้เธอจะโดนกับอะไร
.....
รถหรูของนาวาขับมาส่งลูกพลับที่มหาวิทยาลัยเพราะว่าเขาต้องไปดูงานที่คาสิโนพอดี เลยถือโอกาสมาส่งหนูน้อยของเขาด้วยถือเป็นคำปลอบล่วงหน้าของเขานั่นเอง
“เลิกเรียนแล้วไปหาฉันที่คาสิโนเลยเข้าใจไหม”
“เข้าใจค่ะ”
ลูกพลับตอบรับอย่างเลี่ยงไม่ได้ก่อนจะสะพายกระเป๋าแล้วทำท่าจะเปิดประตูลงไป แต่...
หมับ!
จ๊วบบบ!!
“อื้อ!”
เธอร้องขึ้นด้วยความตกใจหลังจากถูกจู่โจมอย่างไม่รู้ตัว ปากเล็กถูกตักตวงความหอมหวานจนร่างสูงพอใจเขาถึงได้ผละออกจากปากของเธอ
“ตั้งใจเรียนนะ หนูน้อยของเฮีย”
นาวาพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี แต่กลับทำให้ร่างบางถึงกับหน้าแดงอย่างทำตัวไม่ถูก
“นะ...หนูไปก่อนนะคะ”
ร่างบางรีบลงจากรถด้วยท่าทางลนลานไปทันทีโดยมีสายตาของนาวามองตามหนูทดลองของเขาไปอย่างอารมณ์ดี
แต่
“พลับ”
เสียงเข้มของชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาทักหญิงสาวขึ้นอย่างสนิทสนม
“อ้าวปอร์น”
หญิงสาวตอบรับด้วยรอยยิ้มหวานตามใบหน้าของเธอ
“ไม่สบายหรือเปล่าเนี่ย ทำไมหน้าแดง ๆ”
ชายหนุ่มไม่พูดเปล่ายังยกมือขึ้นอังหน้าผากของลูกพลับอย่างสนิทสนม
“เปล่า อากาศคงร้อนน่ะ...”
“งั้นเราไปเรียนกันเถอะ”
พูดจบลูกพลับก็เดินนำเข้าไปยังตัวอาคารพร้อมกับชายหนุ่มที่เดินตามหลังไปติด ๆ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่ามีสายตาคมของนาวาที่ยังไม่ขับรถออกไปมองตามตั้งแต่ต้นจนลับสายตา
“เดี๋ยวเฮียจะทำให้หนูพลับเกลียดการยิ้มไปตลอดชีวิตเอง”
...
หลังจากนาวากลับมาถึงคาสิโนเขาก็รีบจัดการเคลียร์งานที่ต้องจัดการทันที และงานอดิเรกของเขาหลังจากว่างงานก็คือ การทดลองยาตัวใหม่ไปเรื่อย ๆ อย่างที่เขาชอบทำนั่นเอง และวันนี้หนูน้อยของเขาก็ทำให้เขาคิดค้นสูตรยาตัวใหม่ที่อยากทำออกมาได้อีกหนึ่งตัว ยาที่เขาจะใช้อบรมสั่งสอนหนูน้อยยิ้มหวานของเขา
นิ้วเรียวยาวของชายหนุ่มกวาดไล่ตัวหนังสือเพื่อเลือกตัวยาที่จะใช้เป็นส่วนผสมของแต่ละครั้ง ซึ่งเขาก็ดัดแปลงไปเรื่อยเปื่อยจากยาตัวเก่าตามความรู้และความชอบของเขา และที่เขามีความรู้เกี่ยวกับยาค่อนข้างมากก็เพราะว่าแม่และพี่สาวของเขาเป็นหมอทำให้เขามีตำราเกี่ยวกับแพทย์มากมายรวมถึงตำรายาทุกแขนงที่เขาต้องใช้บางอย่างผสมร่วมนั่นเอง
ใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้น ก่อนที่นาวาจะยกขวดใสที่มีของเหลวอยู่ในนั้นขึ้นมาจ้องมองด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ
“เฮียแทบจะอดใจรอเย็นนี้ไม่ไหวแล้วสิหนูน้อย”
ก๊อก ๆ ๆ
“เฮีย คุณวีมาขอพบครับ”
รอยยิ้มร้ายกาจที่กำลังบ่งบอกถึงความสุขหายไปในทันทีเมื่อได้ยินชื่อของคนที่มาหาเขา
“...”
นาวาวางยาไว้บนโต๊ะทดลองแล้วเดินออกจากห้องด้วยใบหน้านิ่งเรียบกลับเข้าห้องทำงานของเขา
พอเขาเข้ามาก็เห็นร่างสูงวัยไล่ ๆ กับเขานั่งไขว่ห้างรออยู่ในห้องของเขาก่อนแล้ว นั่นยิ่งทำให้นาวาไม่ชอบใจกับคนตรงหน้าเลยสักนิด
“มารยาทยังเหมือนเดิมเลยนะไอ้วา”
นาวาปรับอารมณ์ก่อนจะเดินไปนั่งตรงข้ามกับชายหนุ่มอีกคนและเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มและท่าทีสบาย ๆ อีกครั้งกับคนตรงหน้า
“ขายที่ดินตรงนั้นให้กูคืนซะ”
เขาไม่อ้อมค้อมก่อนจะเอ่ยเข้าเรื่องที่มาในวันนี้ทันที
“หึ! ใจร้อนซะด้วย”
แต่นาวายังคงแสดงท่าทางสบายใจออกไปตามสไตล์ของเขาเหมือนเดิม
“...”
ชายหนุ่มตรงหน้ามองหน้านาวานิ่งอย่างไม่ชอบใจ
“ตอนนี้ที่ดินตรงนั้นเป็นของกูแล้วว่ะ แล้วกูก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินจนต้องคิดจะขาย”
นาวายกยิ้มก่อนจะเอ่ยออกไป
“มึงก็รู้ว่ากูคุยกับเจ้าของเขาไว้แล้ว!”
ทั้งที่คนตรงหน้ารู้ว่าเขากำลังจะซื้อที่ดินตรงนั้น แต่นาวาก็ยังจะซื้อตัดหน้าเขา
“มึงจะโทษกูไม่ได้นะเว้ย ในเมื่อมึงให้ราคาไม่ถึงเอง”
นาวาตอบกลับอย่างไม่รู้สึกผิดใดๆ
“กูไม่ได้มาขอมึง”
คำพูดนี้บ่งบอกได้อย่างดีว่าเขาไม่ได้ขอความเห็นจากนาวา แต่เขามาเพื่อให้นาวาขายให้เขาโดยไม่มีข้อแม้
“จุ๊ ๆ ๆ น่ากลัวว่ะ”
นาวาขยับเอามีดวางบนโต๊ะแล้วเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ แต่สายตากลับบ่งบอกถึงความดุดันอย่างไม่ปิดบัง
“หรือว่ามึงกลัว?”
นาวาเอ่ยถามชายตรงหน้าออกไปด้วยสีหน้านิ่งเรียบ แต่กลับบ่งบอกถึงความท้าทายอย่างมาก
“กลัว? มึงมีอะไรให้กูต้องกลัววะไอ้วา”
“หึ! มึงน่าจะรู้ตัวเองดีไอ้วี”
แล้วทุกอย่างภายในห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งโดยมีร่างสูงสองคนกำลังนั่งมองหน้ากันอย่างไม่ยอมแพ้ จนกระทั่ง...
ก๊อก ๆ ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่ประตูจะเปิดออกมาทันทีด้วยฝีมือของร่างบางที่กลับมาหานาวาตามที่เขาบอก
“กลับมาแล้ว...ขอโทษค่ะ”
เมื่อลูกพลับเปิดประตูเข้ามาเห็นว่านาวามีแขกก็รีบก้มหัวขอโทษก่อนจะปิดประตูออกไปรอข้างนอกเหมือนเดิม
แต่ใบหน้าของเธอที่โผล่เข้ามาด้านในเมื่อกี้ทำให้คนในห้องได้เห็นใบหน้าหวานไร้เดียงสาของเธอเข้าเต็ม ๆ นั่นทำให้สีหน้าของนาวีเปลี่ยนจากนิ่งเรียบยกยิ้มขึ้นอย่างร้ายกาจ
“เด็กมึง...สวยดีนะ”