“อึก!”
ความปวดที่เกิดขึ้นภายในร่างกายทำให้ร่างบางที่ขยับตัวถึงกับร้องขึ้นมาและนิ่งไป ดวงตากลมโตค่อย ๆ ลืมขึ้นมาช้าๆอย่างยากลำบากและมองไปรอบ ๆ ห้อง ห้องที่เธอจำได้ว่าเป็นห้องที่เธอเข้ามาเมื่อวาน และอยู่ในห้องนี้จนถึงตอนนี้ ตอนที่ไม่รู้ว่าเวลาเท่าไหร่แล้วเธอรู้เพียงแค่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเธอ ความเจ็บปวดที่เธอมันเกิดขึ้นเพราะอะไร และนั่นก็ทำให้น้ำตาใสคลอเบ้าออกมาทันที
เธอค่อย ๆ ประคองตัวเองลุกนั่งด้วยความยากลำบากก่อนจะฝืนลงจากเตียงเข้าห้องน้ำจัดการตัวเอง ร่องรอยที่ปรากฏอยู่บนร่างกายตอกย้ำอย่างดีว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคือความจริงไม่ใช่เรื่องโกหกหรือความฝัน และเธอก็ยังจำความรุนแรงและกระหายของผู้ชายคนนั้นได้ดี
“ก็แค่เรื่องโชคร้ายเรื่องหนึ่งในชีวิตเองพลับ”
ลูกพลับพูดกับตัวเองผ่านกระจกเพื่อปกปิดความเสียใจของตัวเอง และพยายามบอกตัวเองว่ามันก็เป็นแค่เรื่องแย่ๆเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเท่านั้น มันคุ้มแล้วที่เธอแลกกับความปลอดภัยของพ่อเธอ ไม่เห็นต้องเสียใจเลย
ถึงจะพูดแบบนั้น แต่น้ำตาก็ยังหยดลงจากดวงตากลมโตของเธอ เธอรีบยกมือขึ้นเช็ดมันอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะไปล้างคราบสกปรกออกจากตัวทั้งที่ร่างกายเธอร้อนดั่งไฟและอ่อนแรงเต็มทน
...
ลูกพลับเดินออกจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูเพียงผืนเดียวและเผลอชะงักไปกับร่างสูงของนาวาที่นั่งไขว่ห้างสูบบุหรี่อยู่บนโซฟา
“เก่งนี่ เดินไหวด้วย”
นาวาเอ่ยขึ้นอย่างเย้ยหยัน เพราะตอนเขาเข้ามาและได้ยินเสียงน้ำดังออกจากห้องน้ำ เขาถึงกับแค่นหัวเราะให้กับความเก่งของสาวน้อยที่ยังลุกเดินไหว เพราะเมื่อคืนเขาเล่นงานเธอจนเธอร้องไห้ออกมาอีกทั้งตัวยังร้อนจนเขาต้องเอายาแก้ไข้กรอกปากเธอตอนเช้ามืด
“คุณคงจะรักษาคำพูดของคุณ”
ลูกพลับพูดโดยไม่กล้าสบสายตาของนาวา แต่เพื่อตอกย้ำสิ่งที่เขาเสนอให้เธอ เธอก็ต้องพูดมันออกไป
“หึ! ฉันจะรักษาสัญญาก็ต่อเมื่อเธอไม่ดื้อกับฉัน”
“มะ...หมายความว่ายังไง”
ลูกพลับถามออกไปอย่างไม่เข้าใจ ไม่ดื้อกับเขาอย่างนั้นเหรอทำไมเขาพูดเหมือนกับว่าเธอยังต้องมาเจอกับเขาอีกล่ะ
“เธอคิดว่าความบริสุทธิ์ของเธอมันแพงเท่าเงินที่พ่อเธอติดฉันอยู่เหรอ”
คิ้วหนายกขึ้นถามร่างบางตรงหน้า
“...”
และมันก็ทำให้ลูกพลับถึงกับชะงักนิ่งไป นั่นสินะเธอคิดได้ยังไงว่าการที่นอนกับเขาคืนเดียวเขาจะยอมปล่อยเธอกับพ่อไปง่าย ๆ ถ้าเขาไม่ร้ายกาจและเจ้าเล่ห์เขาคงไม่อยู่ในจุดนี้ได้หรอก
“เธอต้องมาหาฉันทุกครั้งที่ฉันเรียกหาโดยไม่มีข้อแม้”
“...”
“แต่เธอไม่ต้องกลัว ฉันเป็นพวกขี้เบื่อ ฉันเล่นกับใครได้ไม่นานหรอก”
นาวาเอ่ยบอกลูกพลับออกไป แต่ที่เขาพูดมันคือเรื่องจริงทั้งหมด เขาไม่เคยเล่นกับใครได้นานหรอก ส่วนใหญ่ก็คนละวันสองวัน เว้นแต่คนที่ถูกใจจริง ๆ นั่นแหละเขาถึงจะเล่นด้วยได้เป็นอาทิตย์ เท่าที่เขาจำได้คนที่เขาเล่นด้วยถึงเดือนน่าจะมีอยู่คนสองคนได้
“แค่นี้ใช่ไหมคะ”
ลูกพลับเอ่ยถามออกไป ในเมื่อเธอเลือกก้าวเข้ามาในวงจรของเขาแล้วเธอก็ต้องยอมรับ จะให้เธอทำยังไงได้ล่ะ เงินเจ็ดล้านกับผู้หญิงอายุยี่สิบอย่างเธอ จะให้เธอไปหาเงินมาจากไหนใช้หนี้เขาได้ แม้แต่ผ่อนจ่ายเธอยังไม่มีปัญญาเลย
“ยัง...ฉันอายุมากกว่าเธอสิบเอ็ดปี เวลาคุยกับฉันก็พูดให้มันน่ารักหน่อย”
“...”
“พูดแทนตัวเองกับฉันเหมือนเมื่อคืนน่ะ”
“...”
ลูกพลับไม่ได้ตอบอะไรออกไป เพราะถ้าเขาต้องการเธอก็คงทำได้เพียงทำตามที่เขาบอกแค่นั้น
“ไปเลือกเสื้อในตู้ฉันใส่สักตัวสิ คงไม่อวดเก่งจนจะใส่เสื้อขาด ๆ ของตัวเองออกไปหรอกนะ”
นาวาเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มกับหญิงสาว
และแน่นอนว่าลูกพลับเลือกจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าก่อนจะหยิบเสื้อเชิ๊ตสีขาวของนาวาออกมาหนึ่งตัวเพื่อใส่ปกปิดร่างกายของเธอออกจากที่นี่ ถึงแม้ว่าจะไม่อยากเอาอะไรของเขาก็ตามแต่เธอก็ไม่อยากใส่เสื้อขาด ๆ ออกไปจากที่นี่เหมือนที่เขาพูด
“หึ!”
และการกระทำของลูกพลับก็ทำให้นาวาแค่นหัวเราะออกมาอย่างพอใจ
“ฉันขอ...”
คำพูดของลูกพลับถูกกลืนลงในลำคอคืนทันทีเมื่อเจอสายตาเยือกเย็นของนาวาอย่างที่ไม่ได้เห็นมาก่อน และจำคำพูดของเขาก่อนหน้านี้ได้
“นะ...หนูขออะไรคุณอย่างหนึ่งได้ไหม”
ลูกพลับเอ่ยพูดคำพูดที่พูดกับผู้ใหญ่เป็นปกติ แต่กลับรู้สึกไม่ปกติและไม่อยากพูดกับผู้ชายตรงหน้าเลยสักนิด
“เฮีย”
“...”
คิ้วเรียวขมวดแน่นกับคำพูดของเขา
“แทนฉันว่าเฮีย”
นาวาเอ่ยออกมาตามที่ต้องการ เพราะเวลาได้เป็นเฮียของอีหนูแล้วเขารู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมา
“นะ...หนูขออะไร ฮะ...เฮียอย่างหนึ่งได้ไหมคะ”
“ว่ามาสิ”
ถึงแม้ว่ามันจะดูกล้ำกลืนฝืนทนมาก แต่นาวาก็ไม่ถือสาอะไร เพราะตอนนี้เธอคงจะยังไม่ชินนั่นเอง
“ถ้าพ่อหนูมาขอยืมเงินเฮียอีก ฮะ...เฮียอย่าให้พ่ออีกได้ไหม”
เพราะหนี้เจ็ดล้านมันก็มากเกินความสามารถของเธอแล้ว ตอนนี้เขาใช้เธอเป็นของเล่นเป็นหนูทดลองพ่อเธอและบ้านของเธออาจจะปลอดภัย แต่ถ้าวันไหนที่เขาเบื่อเธอขึ้นมา วันนั้นทุกอย่างก็อาจจะเปลี่ยนไป
“หึ! ถ้าพ่อเธอไม่ส่งดอกให้ฉันแบบนี้ ถึงเธอไม่ขอฉันก็คงไม่ให้”
เขาเอ่ยขึ้นอีกครั้ง เพราะครั้งนี้เขาแค่อารมณ์ดีเลยเลือกจะให้ไป แต่เขาก็ไม่ได้ทำโรงทานหรอกนะที่จะคอยให้ใครต่อใครยืมเงินเขาเป็นว่าเล่นโดยไม่เคยส่งดอกและต้นให้กับเขา
“...”
ลูกพลับไม่ได้พูดอะไรอีก เพราะอย่างน้อยก็ยังดีที่เขายังไม่คิดจะให้พ่อเธอเป็นหนี้เขาอีก
“เบอร์ฉันอยู่ในโทรศัพท์เธอแล้ว ถ้าฉันโทรไปตอนไหนก็ต้องรับเข้าใจไหม”
“ค่ะ”
ลูกพลับก้มหน้ารับคำอย่างเลี่ยงไม่ได้ นั่นทำให้นาวาลุกมาหาเธอก่อนจะยกมือขึ้นทัดผมให้เธออย่างอ่อนโยน
“ทำตัวน่ารัก ๆ แบบนี้ให้ได้ตลอดรู้ไหม เพราะถ้าเป็นเด็กดีกับเฮีย เฮียใจดีมาก”
ฟอดด!! นาวาเอ่ยขึ้นก่อนจะก้มไปหอมแก้มนวลเนียนของเธอทั้งที่ไม่เคยหอมใคร
แต่ท่าทางย่นคอหลบและตื่นกลัวของลูกพลับมันทำให้นาวาชอบมาก ยิ่งเธอกลัวมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งทำให้เขาอยากแกล้งเธอมากเท่านั้น มันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะปกติเขาเจอแต่ผู้หญิงมากประสบการณ์และเป็นฝ่ายเข้าหาเขาเอง นี่คงจะเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ของเขาก็ว่าได้
“งะ...งั้นหนูกลับก่อนนะคะ”
“อย่าลืมกินยาคุมล่ะ เพราะฉันยังไม่คิดจะเป็นพ่อของใคร”
นาวาไม่ลืมเอ่ยเตือนลูกพลับออกไป เพราะไม่รู้ว่าหนูน้อยของเขาจะใสซื่อจนรู้เรื่องพวกนี้หรือเปล่า
“คา...ค่ะ”
ลูกพลับตอบเสียงสั่นก่อนจะหยิบกระเป๋าของเธอเดินออกจากห้องนอนของนาวาออกมาอย่างยากลำบาก โดยมีสายตาคมของนาวามองตามเธอจนหลับสายตา
.....
“พลับไปไหนมา พ่อกลับมาตั้งนานแล้วไม่เห็นเราสักที”
เมื่อลูกพลับเดินเข้ามาในบ้านพ่อของเธอก็เอ่ยถามขึ้นอย่างอารมณ์ดี
“พลับไปนอนกับเพื่อนมา”
ลูกพลับเอ่ยโกหกพ่อตัวเองออกไป ดีที่ก่อนถึงบ้านเธอแวะเข้าร้านยาและร้านสะดวกซื้อเพื่อปกปิดร่องรอยบนลำคอ
“เหรอ กินข้าวมาหรือยังล่ะ นี่พ่อซื้อของกินมาเต็มเลยนะ”
“พ่อเล่นได้เหรอ”
เธอถามขึ้น เพราะทุกครั้งที่พ่อเธอเล่นได้ก็มักจะเป็นแบบนี้ตลอด ทั้งของกิน ของใช้ และเงินที่ไว้ให้เธอใช้ แต่ที่ได้กับที่เสียมันเทียบกันไม่ได้เลยยังไงล่ะ ได้สองครั้งแต่เสียไปแปดครั้งมันคุ้มกันเหรอ
“ใช่ พอดีเจ้าของคาสิโนใจดีให้ทุนพ่อมาเพิ่มน่ะ แล้วสุดท้ายโชคก็เข้าข้างพ่อจนพ่อได้กลับมาแบบนี้ไง”
พ่อเธอพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีและมีความสุข ต่างกับลูกสาวที่มองพ่อพร้อมน้ำตาคลอเบ้า พ่อจะรู้ไหมว่าเงินที่พ่อได้มาจากเขาเมื่อวานมันแลกมากับความเจ็บปวดของเธอ พ่อจะรู้ไหมว่าหลังจากนี้ชีวิตของเธอต้องตกอยู่ในกำมือของเจ้าหนี้พ่อ
“พ่อเลิกเล่นมันได้ไหม”
ลูกพลับเอ่ยถามพ่อตัวเองออกไป ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกนะที่เธอขอพ่อเธอ แต่สุดท้ายพ่อเธอก็ติดไปแล้ว ติดจนถึงขั้นที่เลิกไม่ได้แล้ว ไม่ว่าจะหมดตัวยังไงก็ยังพยายามหาเงินเพื่อไปเล่นมันอีกจนได้
“เราจะพูดทำไม พ่อบอกแล้วว่าของแบบนี้มันมีได้มีเสีย เวลาพ่อได้เราก็เห็นว่าได้มาตั้งเท่าไหร่”
พ่อของเธอเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกขัดใจอีกครั้งเมื่อลูกสาวเอ่ยขอแต่เรื่องเดิม ๆ
“แล้วที่พ่อได้มันพอใช้หนี้ให้กับเขาไหม แล้วที่พ่อเล่นได้มันพอเอาบ้านหลังนี้กลับมาคืนหรือเปล่า”
ลูกพลับถามพ่อตัวเองออกไปพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“ระ...เรารู้ได้ยังไง”
พ่อของเธอเอ่ยถามลูกสาวเสียงสั่นทันที เพราะเขาไม่เคยบอกลูกเรื่องนี้ และคิดจะปิดเป็นความลับจนกว่าจะหาเงินไปใช้หนี้และเอาบ้านออกมาคืนให้ได้เอง
“ตอนนี้ของในบ้านเราไม่เหลืออะไรแล้ว พลับไม่คิดว่าพ่อจะยังเก็บบ้านไว้”
ลูกพลับยกมือขึ้นปาดน้ำตาก่อนจะปั้นคำโกหกพ่อออกไป เพราะเธอไม่อยากรู้ว่ารู้มาจากนาวา ผู้ที่เป็นเจ้าของคาสิโนที่พ่อไปเล่นนั่นเอง
“เราไม่ต้องห่วง ยังไงพ่อก็ต้องเอาบ้านหลังนี้กลับมาคืนได้อยู่แล้ว”
พ่อของเธอเอ่ยสัญญาออกมาอย่างมั่นอกมั่นใจ โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าการได้ของเขาแต่ละครั้งมันก็แค่กลเกมอย่างหนึ่งที่ทางคาสิโนทำให้ได้ใจเพื่อกลับไปเอาอีกนั่นเอง
“พลับเหนื่อย พลับไปพักก่อนนะ”
ลูกพลับไม่รู้จะพูดยังไงต่อเลยเลือกจะเดินหนีกับปัญหาตรงหน้าตอนนี้ไปก่อน เพราะตอนนี้เธอเองก็เหนื่อยมากจริง ๆ ทั้งร่างกายที่ถูกย่ำยีอย่างทารุณ และจิตใจที่โดดเดี่ยวและไร้ทางออก