“พอใจในคำตอบหรือยัง” หลังจากที่พนักงานสาวเดินออกไปไนท์ก็หันกลับมาถามพายุอีกครั้ง
“อืม… มึงย้ายยัยนั่นมาอยู่ที่สาขานี้เลยได้ไหม”
“ทำไมมึงสนใจเธอจัง”
พายุไม่ได้ตอบคำถามของไนท์ ตอนแรกเขาแค่จะมาดื่มกับไนท์สนุก ๆ แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าระหว่างที่จะเดินมาเขาก็เจอกับหญิงสาวร่างคุ้นตาเดินใส่ชุดเด็กเสิร์ฟของร้านอยู่
ก็ดีอย่างน้อยก็ไม่ต้องตามหาให้วุ่นวาย
เขากำลังคิดอยู่เลยว่าจะเข้าไปตีสนิทอย่างไรโดยไม่ให้อีกฝ่ายสงสัย
“ถ้ากูบอกว่าสนใจมันและอยากได้ มึงจะช่วยไหม”
“เพิ่งรู้ว่ามึงมีสเปกชอบผู้หญิงสไตล์นี้ด้วย” ไนท์ขมวดคิ้วเข้าหากัน เท่าที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กพายุไม่เคยชอบผู้หญิงดูแรง แต่ชอบหวาน ๆ แบบคนรักที่ตายไปต่างหาก
“กูแค่อยากนอนแก้เหงา” พายุเลือกที่จะไม่บอกความจริงเรื่องที่ต้องการแก้แค้นหญิงสาวคนนี้กับเพื่อนตัวเอง เขาขี้เกียจฟังมันบ่น
“งั้นมึงยิ่งไม่ควรไปยุ่งกับเธอนะ ขืนพลาดแล้วท้องมาจะยุ่ง”
ไนท์พูดด้วยความไม่เข้าใจเพื่อนตัวเองว่ากำลังเล่นอะไร
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ท้องมาก็ดีสิกูจะได้มีลูก”
คำว่าลูกมันทำให้พายุนึกถึงคนรักของตัวเอง เขาเคยวาดฝันเอาไว้ว่าจะมีลูกน่ารัก ๆ ด้วยกัน แต่มันกลับพังทลายเพราะคนพวกนั้น ตอนนี้เขาแก้แค้นคนที่ยุ่งเกี่ยวไปเกือบหมดทุกคนแล้ว ไม่เพียงแค่คนที่เกี่ยวข้อง พวกบอดีการ์ดที่ละเลยในหน้าที่วันนั้นเขาก็ฆ่าไม่เหลือ ก็เหลือแค่เด็กสาวคนนี้ที่เป็นคนนำยาพิษให้คนรักของเขา เธอคนนั้น น้ำหนึ่ง !
ก่อนที่เขาจะฆ่าเธอทิ้งก็ขอในสิ่งที่ต้องการก่อนแล้วกันเพราะเขาไม่คิดจะมีคนใหม่นอกจากปริม ไม่คิดจะหาใครมาเทียบเท่าปริม แต่เขาก็ต้องการทายาทสืบทอด ให้เธอเป็นได้แค่แม่พันธุ์เท่านั้น เธอคงเหมาะเป็นได้แค่นี้ พายุคิดพร้อมดูถูกเหยียดยามน้ำหนึ่งที่ดูเหมือนอ่อยแขก
ถ้าเลี้ยงให้ลูกเกลียดแม่ คนเป็นแม่จะเจ็บแค่ไหนกันนะ เขาอยากเห็นเสียจริง ๆ
“ไอ้พายุ มันไม่ใช่เรื่องสนุกนะ ชีวิตของคน 2 คนเลยนะ ถ้ามึงไม่ได้คิดจริงจังอย่าเข้าไปยุ่งดีกว่า” ไนท์เห็นแววตาและสีหน้าของเพื่อนเลยเอ่ยเตือนมันขึ้นมา ถึงแม้ว่าเพื่อนเขาคนนี้เป็นมาเฟียที่มักจะเห็นคนเป็นผักเป็นปลาก็ตาม ใครไม่มีประโยชน์หรือคิดจะทำร้ายมัน มันก็ฆ่าตายไม่เหลือ และเขารู้ดีว่าพายุไม่มีทางจริงจังกับผู้หญิงคนนั้นแน่เพราะคนที่เพื่อนรักสุดหัวใจมีแค่ผู้หญิงที่ตายจากไป ปริม…
“เดี๋ยวกูมา”
พายุไม่ฟังคำเตือนของไนท์ เขาพูดจบก็ลุกเดินออกไปทันที ทำเอาไนท์ที่มองตามอดถอนหายใจไม่ได้ ปกติเพื่อนเขาคนนี้ไม่ใช่คนที่จะเห็นชอบยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิง และคิดจะทำร้ายผู้หญิงแน่ ๆ ถึงมันจะเป็นมาเฟียแต่กับผู้หญิงถ้าไม่ถึงที่สุดคงไม่ทำ การที่คิดจะทำแบบนี้คงต้องมีอะไรแน่ ๆ ไนท์สงสัยก่อนจะมองตามหลังเพื่อนตัวเองด้วยความหนักใจ
เสียงอึกทึกจากเสียงเพลงดังไปทั่วคลับ
“น้อง น้อง ๆ พี่มีอะไรจะถาม” เสียงเรียกดังขึ้นแทรกเสียงเพลง ทำให้น้ำหนึ่งที่กำลังเอาออเดอร์ไปส่งลูกค้าหันกลับไปหาเผื่อว่าลูกค้าต้องการอะไรเพิ่มเติม
“ค่ะ คุณลูกค้า”
“อ้าว !! น้องน้ำบังเอิญจัง… ใช่น้ำหนึ่งใช่ไหม จำพี่ได้หรือเปล่า”
น้ำหนึ่งเพ่งมองคนที่เรียกตัวเองอย่างสนิทสนมจากแสงไฟสลัว ๆ พอเห็นหน้าของอีกฝ่ายชัด ๆ เท่านั้นแหละเธอก็จำได้ทันทีว่าคือคุณพายุ ก็แหมคนหล่อแบบนี้ หน้าตาดีแบบนี้ มันไม่ได้จำยากขนาดนั้นสักหน่อย
“อ๋อ คุณพายุนี่เอง ฉันจำคุณได้ค่ะ” น้ำหนึ่งพยักหน้าตอบรับพร้อมมองหน้าอีกฝ่ายอย่างสงสัย
“ทำงานที่นี่เหรอ พอดีพี่มาเที่ยวน่ะ”
พายุยิ้มกว้างให้คนตรงหน้า ทำเอาน้ำหนึ่งถอนหายใจยาวเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพยายามที่จะตีสนิทกับเธอเกินไป ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเจอกันไม่กี่ครั้ง
“ใช่ค่ะ ว่าแต่คุณพายุมีอะไรจะถามเหรอคะ”
“คือพี่อยากสูบบุหรี่ ที่นี่มีขายไหม” มันก็แค่ข้ออ้าง
“ที่นี่งดสูบบุหรี่ค่ะเลยไม่มีขาย แต่ถ้าออกไปข้างนอกมีร้านสะดวกซื้อน่าจะมีขายค่ะ” น้ำหนึ่งอธิบายพร้อมกับแนะนำร้านที่ขายบุหรี่
“งั้นเหรอ แล้วมันอยู่ตรงไหน พี่ไม่รู้จักทาง” พายุยังคงตื๊อต่อด้วยสีหน้ามึนงง
“เดินตรงออกไปเลี้ยวขวาก็จะเจอร้านค่ะ”
แวบหนึ่งในแววตาที่พายุมองน้ำหนึ่งไปที่เต็มไปด้วยความแข็งกร้าว แต่ก็เพียงแค่แวบเดียวก็แปรเปลี่ยนเป็นสดใสและอารมณ์ดีเหมือนเคย
“น้องหนึ่งนี่พยายามเลี่ยงพี่จังเลยนะครับ”
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ แต่ตอนนี้เป็นเวลางานอยู่ยังไงฉันก็ขอตัวไปทำงานต่อนะคะ”
“เดี๋ยว…”
ก่อนที่น้ำหนึ่งจะหมุนตัวเดินกลับไปทำงานต่อ มือแกร่งก็จับแขนของเธอไว้เพื่อไม่ให้เดินหนีไป
“มีหรืออะไรคะ”
“ถ้างั้นน้ำเลิกงานแล้วพี่จะคุยด้วยได้ใช่ไหม”
แววตาเป็นประกายของอีกฝ่ายทำให้น้ำหนึ่งอดที่จะถอนหายใจยาวไม่ได้
“ค่ะ… ถ้าคุณรอได้”
“งั้นพี่จะรอ”
คราวนี้พายุยอมปล่อยแขนน้ำหนึ่งให้เดินออกไปทำงานของตัวเองต่อ ส่วนเขาก็กลับมาที่โต๊ะตัวเอง
“มึงชอบเด็กคนนั้นเหรอ” ไนท์ตั้งคำถามกับเพื่อนสนิททันทีที่อีกฝ่ายนั่งลง
“ไม่… กูเกลียดยัยนั่น”
“มึงคิดจะทำอะไรกันพายุ ไหนบอกอยากนอนด้วยแต่บอกว่าเกลียด”
ดูเหมือนว่าคราวนี้พายุจะพูดความจริงสินะ แววตาของพายุตอนนี้มันเต็มไปด้วยความเกลียดชังจนไนท์อดที่จะห่วงพนักงานคนนั้นของตัวเองไม่ได้
“เปล่า…”
“ถ้างั้นกูเปลี่ยนคำถาม เด็กนั่นมันทำอะไรให้มึง”
ไม่มีคำตอบออกจากปากพายุสักคำนั่นทำให้ไนท์ถึงกับถอนหายใจยาวอีกรอบ ดูท่าทางพนักงานร้านเขาคนนี้คงจะเจอเรื่องที่ทำให้ชะตาขาดอีกไม่นานแน่
“น้ำกลับดี ๆ นะ”
ระหว่างที่กำลังเดินออกจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของพนักงาน หวานพนักงานหญิงที่อยู่สาขาเดียวกับน้ำหนึ่งก็พูดขึ้นเมื่อกำลังจะแยกย้ายกันกลับบ้าน ตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบตี 3 แล้ว ที่จริงพวกเธอต้องออกจากเวรงานตั้งแต่ตี 1 แต่เพราะลูกค้ายังเยอะอยู่ผู้จัดการเลยให้พวกเธออยู่ทำโอทีต่อ ยังดีที่มีค่าโอที ไม่งั้นไม่มีแรงทำจนเกือบเช้าเป็นแน่
“ขอบคุณนะ แล้วนี่หวานกลับยังไงเหรอ” น้ำหนึ่งเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงเพราะเห็นว่าช่วงนี้มันไม่มีรถแล้ว
“หวานโทร.ให้แฟนมารับน่ะ… นั่นไงพูดถึงก็มาพอดีเลย”
หวานพูดจบก็ชี้ไปทางแฟนตัวเองที่กำลังเดินเข้ามาหา ทำให้น้ำหนึ่งหันไปมองชายหนุ่มที่กำลังเดินมา แฟนของหวานเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยของเธอ เลยทำให้รู้จักกัน
“พี่วีสวัสดีค่ะ”
“อ้าว ! น้ำสบายดีนะ”
“สบายดีค่ะ”
“ขอบใจนะที่ช่วยดูแลหวานในหลาย ๆ เรื่อง... หวานเราไปกันเลยไหมครับ”
“ค่ะ เราไปก่อนนะน้ำ”
วีทักน้ำหนึ่งเสร็จก็หันไปคุยกับคนรักตัวเองต่อ ไม่นานทั้ง 2 คนก็เดินออกไป ส่วนน้ำหนึ่งก็เดินออกไปทางหน้าร้านเพื่อเรียกแท็กซี่ บางทีเธอก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเธอซื้อมอเตอร์ไซค์สักคันไว้ขับไปทำงานคงสะดวกกว่านี้ แต่ถ้าซื้อจริงลุงกับป้าคงบ่นอีกแน่และที่สำคัญเธออาจจะไม่ได้ใช้มัน นึกถึงลุงกับป้าแล้วอดไม่ได้ที่จะนึกถึงจิญาติของเธอ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายหายไปไหน จนตอนนี้ก็ยังหาไม่เจอ ขณะที่เธอคิดอยู่นั้นก็มีเสียงเรียกเธออยู่ข้างหลัง
“เลิกงานแล้วใช่หรือเปล่าน้องหนึ่ง”
“ว้ายยย !! คุณ”
น้ำหนึ่งตกใจเมื่อจู่ ๆ เสียงของใครบางคนก็ดังขึ้น พอหันกลับไปมองก็เห็นว่าคนที่เธอเพิ่งเจอในคลับก่อนหน้าและเป็นคนที่เคยช่วยเหลือเธอ เขากำลังยืนสูบบุหรี่อยู่
คนเรามันสูบบุหรี่แล้วหล่อได้ขนาดนี้เลยเหรอ เธอเผลอมองพร้อมกับใจกระตุกอย่างไม่ทราบสาเหตุ