JJ Casino
เสียงเจื้อยแจ้วของนักลงทุนด้านการเสี่ยงดวงดังไม่ขาดสาย ผู้คนในนี้ต่างมาด้วยจุดประสงค์เดียวกันคืออยากได้เงินกลับบ้าน แต่ทว่าปลายทางย่อมต่างกัน คือบางคนดีใจที่ได้เงินกลับไป แต่กับบางคนก็แทบจะร้องไห้คลานออกไปเพียงเพราะเงินก้อนสุดท้ายที่หวังมาต่อทุนมลายหายไปจนหมดสิ้น
“นายท่านครับ ผลประกอบการ 1 เดือนดีกว่าที่เราคิดไว้ครับ ตอนนี้เงินจากการคิดดอกเบี้ยพวกที่มากู้ก็เกินเป้าที่กำหนดแต่ก็อาจจะมีบางคนที่ไม่ยอมจ่ายบ้างครับ”
โตมรผู้จัดการคาสิโนแห่งนี้เอ่ยบอกผู้เป็นนาย เขาเป็นลูกน้องคนสนิทของชายวัย 30 กว่าปีที่ตัวเองเรียกว่านายท่าน ที่เป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของศิรันธนากรกรูป และเบื้องหลังยังเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียใหญ่อย่างแก๊งอาคเนย์ซึ่งสืบทอดตำแหน่งมาจากผู้เป็นพ่อที่เสียไป เบื้องหน้าการอยู่ในเมืองไทยของเขาคือคราบนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ แต่เบื้องหลังกลับทำทั้งธุรกิจสีเทาหรือไปถึงสีดำ
“ใครไม่ยอมจ่ายก็ฆ่ามันทิ้งซะ ชีวิตพวกมันไม่ได้มีค่าอะไรมากหรอก”
ชายหนุ่มวัย 30 เอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบราวกับว่าการฆ่าใครสักคนเป็นเรื่องปกติอย่างกับผักปลา จนคนที่เป็นลูกน้องแบบโตมรยังอดที่จะหวาดกลัวไม่ได้ แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ชินกับมันไปซะแล้ว
“ครับ… แล้วกรณีที่มีคนเสนอเอาตัวของหลานมาขัดดอกล่ะครับ”
พอนึกถึงชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่บอกว่าตัวเองไม่มีเงินแต่มีหลานชายที่สามารถทำได้ทุกอย่างแม้แต่หาความสุขจากร่างกายอีกฝ่ายได้จะเอามาขัดดอกแทน
“หลาน... ถ้ามันสามารถทำเงินคืนได้ก็เอามาเพราะสิ่งที่ฉันต้องการไม่ใช่คนแต่เป็นเงินจำนวนที่มันต้องคืนให้ฉัน และฉันต้องได้”
“ครับนายท่าน”
“นายออกไปเถอะ เออจริงสิสั่งให้คนเตรียมดิไซเนอร์มือดีไปวัดชุดแต่งงานให้ ย้ำว่าช่างฝีมือดีงบไม่จำกัด”
พอนึกถึงงานแต่งงานของเขากับหญิงคนรักที่คบหาดูใจกันมานานใกล้มาถึง ชายหนุ่มก็อดที่จะมีความสุขไม่ได้ ขอแค่มีเธอชีวิตของเขาก็มีความสุขแล้ว เขาจะไม่ยอมให้ใครมาพรากเธอไปจากเขาเด็ดขาด ไม่มีวัน !
“ได้ครับนายท่าน”
“งั้นเรื่องที่เหลือนายจัดการไปเลยนะ ฉันจะกลับไปหาปริมสักหน่อย”
“ครับ”
พูดจบร่างสูงก็เดินออกจากห้องทำงานตัวเองทันที ก่อนจะกดโทรศัพท์หาคนรักเพื่อเช็กว่าเธออยู่ที่บ้านหรือเปล่าเขาจะได้ไปหาถูกที่
คฤหาสน์ตระกูลศิรันธนากร
“พายุคะ ? พรุ่งนี้ปริมว่าจะไปวัดสักหน่อยค่ะ”
พายุหรือพายุ ศิรันธนากร เงยหน้าจากเอกสารบนโต๊ะแล้วมองไปที่คนรักของตัวเองด้วยแววตาอ่อนโยน คงไม่คาดคิดว่าหัวหน้าแก๊งมาเฟียใหญ่และผู้บริหารที่เคร่งขรึมของศิรันธนากรกรูปหรือ SRT group จะมีแววตาแบบนี้ให้คนอื่นได้ แววตาที่อ่อนโยน
“มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าคนดี”
พายุลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะเดินตรงมาหาคนรักที่นั่งรออยู่บนโซฟาแล้วจูบลงที่หน้าผากมนของเธออย่างแผ่วเบา
“เมื่อคืนปริมฝันไม่ค่อยดีเลยค่ะ ฝันว่าตัวเองถูกตัดคอ”
แววตาของปริมเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเมื่อนึกถึงความฝันเมื่อคืน ในฝันเธอกำลังวิ่งตามคนรักที่กำลังเดินหายลับตาไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกของเธอ ก่อนที่จะมีเงาปริศนาโผล่มาข้างหน้าและฟันคอของเธอจนขาด
“โธ่ ~ คนดี มันก็เป็นแค่ความฝันอย่ากลัวเลยนะ”
พายุเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมมือหนาแตะลงบนแก้มนุ่มเบาๆ เป็นการปลอบโยน ก่อนจะอุ้มเธอขึ้นและวางลงบนตักของตัวเองเมื่อเห็นสีหน้าของคนรักยังไม่ดีขึ้น
“แต่มันน่ากลัวมากเลยนะคะพายุ ในฝันปริมเรียกเท่าไรพายุก็ไม่สนใจปริมเลย”
“งั้นยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยครับ พายุไม่มีทางที่จะไม่สนใจปริมอยู่แล้ว”
พายุซบใบหน้าลงบนอกกว้างของว่าที่ภรรยาเบา ๆ อีกแค่ 2 อาทิตย์เขาและเธอก็จะเข้าพิธีแต่งงานด้วยกันในอีกไม่นาน
“ปริมรักพายุนะคะ”
หญิงสาวพูดพร้อมโอบกอดชายหนุ่มคนรัก เธอกับพายุคบกันมา 10 ปีแล้ว ตอนนั้นเธอเป็นแค่พนักงานตัวเล็ก ๆ ในเครือSRT กรูป ใครจะไปคิดล่ะว่าวันหนึ่งเธอดันไปถูกตาต้องใจท่านประธานเข้า หลังจากคบกันได้ 5 ปี เธอก็ได้รู้ว่าเขาเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียใหญ่ที่ทรงอิทธิพลมีบ่อนคาสิโน คลับ และอะไรอีกมากมายภายใต้เครือข่ายของมังกรแดง ครั้งแรกที่รู้เธอก็รู้สึกหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย แต่เพราะรักเขามากเลยยอมปล่อยผ่านหลายครั้งที่เธอตกอยู่ในอันตรายแต่เขาก็มาช่วยเธอไว้เสมอนั่นเลยทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยและอยากฝากชีวิตไว้กับเขา
“พายุก็รักปริมนะครับ หลังจากแต่งงานกันเสร็จเรามีเจ้าตัวเล็กด้วยกันสัก 10 คนเลยนะครับคนดี”
“ปริมไม่ใช่แม่หมูนะ”
เสียงหัวเราะของชายหนุ่มและหญิงสาวดังขึ้นทั่วทั้งห้องกว้างอย่างมีความสุข เสียงหยอกล้อกันของทั้งคู่ทำให้บรรยากาศภายในห้องเต็มไปด้วยความหวาน แต่ใครจะไปคิดล่ะว่านี่คือเสียงหัวเราะสุดท้ายระหว่างพวกเขา