1
รักไวไฟ
ฝนปรอยเป็นละอองฝอย ในขณะที่แสงแดดจ้าทะลุผ่านม่านเมฆ พวงชมพูเด็กสาววัยสิบแปดปีสวมกระโปรงสีขาวยาวคลุมถึงข้อเท้า ฝ่ามือเล็กยื่นออกไปรองน้ำฝนนอกหลังคาป้ายรถเมล์
เธอกำลังจดจ่อรอใครบางคนอย่างเป็นกังวล ไม่ได้หวั่นว่าเขาจะเบี้ยวนัด แต่พวงชมพูไม่สบายใจที่โกหกผู้ปกครองเพื่อให้ได้ไปเที่ยวกับเขา ซึ่งตอนนี้ก็เลยเวลานัดมาสิบนาทีแล้ว พวงชมพูต่อให้อีกห้านาทีหากเขายังไม่มา เธอก็จะไม่รอแล้ว กลับบ้านไปหาพ่อแม่ให้ตัวเองสบายใจ อย่างน้อยก็ถือว่าโกหกไม่สำเร็จ
ท่ามกลางยานยนต์ที่วิ่งวุ่นวายในถนนสายใหญ่ของเมืองเชียงใหม่ ซูเปอร์คาร์คันสีเหลืองประดับตราสัญลักษณ์กระทิงจากค่ายรถอิตาลีก็แล่นตรงมาอย่างโดดเด่น ก่อนชะลอความเร็วเมื่อใกล้ถึงป้ายรถเมล์ พวงชมพูไม่รู้เลยว่าหลังพวงมาลัยนั้นเป็นผู้ใด จนกระทั่งกระจกรถลดต่ำลง
“ชมพูขึ้นมาเลยครับ” เสียงทุ้มตะโกนเรียกพร้อมรอยยิ้มฉีกกว้าง ดวงหน้าสวยพยักรับอย่างงุนงงก่อนเร้นกายเข้าไปนั่งข้างคนขับ จากนั้นรถหรูสัญชาติอิตาลีก็เคลื่อนตัวออกไปตามเส้นทางพลุ่กพล่าน
ธามหรือธนนท์ ชายหนุ่มวัยย่างเข้ายี่สิบปีเหลือบมองคนข้างกายที่กวาดตาทั่วห้องโดยสารด้วยสีหน้าที่จะเรียกว่าอึ้งก็คงใช่ เรียกว่างุนงงก็ไม่ผิดอะไร
“เป็นอะไรครับ ทำไมทำหน้าแบบนั้น”
“นี่รถพี่ธามเหรอคะ”
“เช่ามาน่ะครับ พี่และครอบครัวยังไม่ได้ย้ายมาอยู่เชียงใหม่เต็มตัว บ้านก็เพิ่งทำสัญญาซื้อไปเมื่อวันก่อน รถหรืออะไรต่อมิอะไรยังอยู่ที่กรุงเทพฯ วันนี้เรามีนัดเดตกันพี่ก็เลยหาเช่ารถมาขับซะหน่อย ไม่อยากยืมของพ่อ ขี้เกียจตอบคำถาม”
“จำเป็นต้องเช่าซูเปอร์คาร์เลยเหรอคะ คงรวยมากสินะคะ”
“ก็ไม่เท่าไหร่หรอกครับ พอมีพอกิน” ใบหน้าหล่อคมมอบยิ้มกว้างให้แฟนสาวแล้วกลับไปจดจ่อกับเส้นทางต่อ
ที่ผ่านมาพวงชมพูสงสัยว่าฐานะทางบ้านของเขาร่ำรวยระดับไหน แต่ก็ไม่เคยถามสักครั้งด้วยกลัวเป็นการเสียมารยาท รับรู้จากที่เล่าให้ฟังคร่าวๆ ว่าบ้านของเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรม ส่วนตัวเขาเองก็กำลังศึกษาอยู่ที่สหรัฐอเมริกา เป็นหลักสูตรปริญญาตรีด้านการบริหารโรงแรมโดยตรง ซึ่งรายละเอียดคร่าวๆ เพียงเท่านี้ก็พอให้พวงชมพูประจักษ์แล้วว่าแฟนหนุ่มที่เพิ่งคบกันได้สิบสี่วันมาจากครอบครัวที่ไม่ใช่แค่พอมีพอกิน
ไม่ต้องใช้สมองตรองดูก็รู้ว่าเขาและเธอไม่ใช่คนระดับเดียวกัน
ณ ตอนนี้พวงชมพูรู้สึกราวกับกำลังแหงนหน้าจนสุดท้ายทอย ทอดมองดวงดาวเปล่งแสงจ้าท่ามกลางดาวอีกหลายล้านดวง พวงชมพูเติบโตจากครอบครัวข้าราชการ บิดายึดอาชีพตำรวจ ยศปัจจุบันคือพันตำรวจตรี ส่วนมารดาเป็นแม่บ้าน มีงานอดิเรกปลูกผักออแกนิคขาย พวงชมพูไม่ใช่ลูกคนเดียว เธอมีพี่ชายหนึ่งคนที่กำลังเรียนต่อปริญญาโท ซึ่งเท่ากับว่าตอนนี้บิดายังเป็นเสาหลักเพียงเสาเดียวของครอบครัว
“ชมพูเป็นไรอะ ดูไม่เอนจอยเลย เพราะพี่มาช้าใช่มั้ย ขอโทษนะ พี่ตื่นสายเอง ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ เลย”
แม้ธนนท์แบ่งจุดรวมสายตาไปที่เส้นทางข้างหน้า แต่ไม่ลืมสังเกตอารมณ์ของตุ๊กตาหน้ารถ นิสัยโดยปกติของพวงชมพูเป็นคนพูดน้อยกริยาเรียบร้อย แต่สีหน้าของเธอตอนนี้ราวกับเป็นศูนย์รวมของความกังวลทั้งจักรวาล
“พี่ธามมาสายจริงค่ะ ตั้งสิบนาทีแน่ะ แต่ไม่ได้โกรธหรอก ชมพูรู้สึกผิดที่โกหกแม่ว่ามาเที่ยวกับเพื่อน” ส่วนบิดาที่ขึ้นชื่อว่าหวงลูกสาวดุจไข่ในหินยังไม่ทราบแผนการหนีเที่ยวของเธอในวันนี้ เนื่องจากเขาเดินทางไปราชการที่ต่างจังหวัดตั้งแต่เย็นวานและมีกำหนดกลับเชียงใหม่คืนนี้
“ไม่เห็นต้องรู้สึกผิดเลย ยังไงพี่ก็พาเราไปส่งถึงบ้านโดยสวัสดิภาพอยู่แล้ว เราไม่ได้ค้างคืนกันซะหน่อย แค่ขับรถเล่นเช็กอินสถานที่สวยๆ ก็เท่านั้น” ธนนท์แบ่งมือจากพวงมาลัยมากุมมือสาวน้อยเมื่อเข้าสู่เขตนอกเมือง “เอนจอยนะครับ ไม่ต้องเครียด เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ก็ไม่อยู่ไทยแล้ว”
แทนที่คนฟังจะผ่อนคลาย แต่กลับห่อเหี่ยวลงกว่าเดิม กระนั้นเรียวปากชมพูวาวก็เลือกคลี่ยิ้มให้คนขับแทนการแสดงความเศร้าตรมในแววตา
รักแรกและแฟนคนแรกของเธอก็กลายเป็นรักระยะไกลเสียแล้ว สองสัปดาห์ในความสัมพันธ์ฉันแฟนเป็นช่วงเวลาที่ประเมินค่าไม่ได้ของพวงชมพู การที่เขาและเธอต้องลาห่างกันคนละซีกโลกก็ไม่รู้ว่าความรักจะคงอยู่ได้สักแค่ไหน
เวลาเท่านั้นที่จะตอบได้
พี่ธามของเธอเรียนอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ช่วงนี้ปิดเทอมจึงกลับมาเยี่ยมบ้านที่เมืองไทย เดิมทีครอบครัวของธนนท์ตั้งรกรากอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ต่อมามีแผนย้ายมาอยู่เชียงใหม่เพื่อดูแลกิจการที่นี่ พวงชมพูทราบจากที่แฟนหนุ่มเล่าให้ฟังคร่าวๆ เพียงเท่านี้ และเธอก็ไม่กระสันถามเพิ่มด้วยเกรงจะเป็นการละลาบละล้วงข้อมูลเชิงลึกเกินไป
เขาและเธอไม่ได้รู้จักกันดีขนาดนั้น เพิ่งรู้การมีตัวตนของกันและกันเมื่อหนึ่งเดือนนี้เอง โดยผ่านแอปพลิเคชั่นแชทชื่อดัง ธนนท์เป็นฝ่ายเจอเธอโดยบังเอิญจากเพจร้านค้าแฟชั่นที่ได้พวงชมพูเป็นนางแบบ ใบหน้าเรียวดวงตาหวานซึ้ง ริมฝีปากรูปกระจับ แต่ปากบนเรียวเล็กอย่างมีเอกลักษณ์ ผิวขาวผ่องบอบบาง พอประกอบเข้ารวมกันจึงได้ลุคของผู้หญิงอ่อนโยนน่าทะนุถนอม สะดุดตาสะกดใจธนนท์จนเลื่อนผ่านโฆษณาของร้านค้านั้นไม่ได้ ถูกใจถึงขั้นที่ตามสืบเสาะจนพบแอคเคาน์จริงของหญิงสาว พอส่งคำขอเป็นเพื่อนและได้รับการตอบรับ นับตั้งแต่นั้นมาก็แชทคุยกันอย่างสม่ำเสมอ
เมื่อแรกการสนทนาเป็นไปในลักษณะถามคำตอบคำ ก่อนที่ความสนิทสนมจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อธนนท์เล่าถึงการเรียนต่อต่างประเทศ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่การสนทนาลื่นไหลขึ้น บางครั้งก็กินเวลายาวนานข้ามวันข้ามคืน พวงชมพูสนใจคุยกับเขาเพราะมีความฝันอยากไปเรียนต่อต่างประเทศ แม้ส่วนใหญ่ของบทสนทนาพาไปทางการศึกษา ทว่าธนนท์ก็ไม่เคยเบื่อเลย กลับยิ่งมองว่าเธอน่ารักน่าสนใจ และเมื่อได้โอกาสมาเชียงใหม่ก็ไม่รอช้ารีบนัดหมายเจอเธอ
ยิ่งกว่าตรงปก!
นั่นคือเสียงรีวิวที่ดังก้องในใจนับตั้งแต่วินาทีที่สบตากันในโลกแห่งความจริง ดวงหน้าพริ้มเพราไร้เครื่องสำอาง ริมฝีปากบนหยักแหลมเป็นกระจับ เธอก้มหน้ากวาดตามองอักขระจากหนังสือที่ถืออ่านอยู่ในร้าน เขาและเธอนัดเจอกันภายในร้านหนังสือที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังของเชียงใหม่ ธนนท์ยังไม่ทันส่งข้อความแจ้งว่ามาถึงแล้ว ก็บังเอิญสะดุดตาเข้ากับดวงหน้ารูปไข่ที่ล้อมกรอบด้วยไรผมดำสนิท ความสวยโผล่ให้เห็นวับแวมผ่านช่องว่างของชั้นหนังสือประวัติศาสตร์
ธนนท์รู้ได้ทันทีว่านี่คือผู้หญิงที่กำลังรอคอย ยิ่งวินาทีที่ดวงตาสุกสกาวราวน้ำผึ้งใสในรวงสะท้อนแสงแดดเงยขึ้นสบ หัวใจของเขายิ่งสั่นไหวราวกับถูกจู่โจมด้วยลมพายุ
ธนนท์คลี่ยิ้มอย่างเป็นมิตร ทว่าเด็กสาวกลับหลุบตาเบือนหน้าหนี พับหนังสือวางลงที่เดิมแล้วเร้นหายออกไป เขารีบเรียกไว้พร้อมระบุว่าตนคือพี่ธามบุคคลที่อยู่ในแผนการนัดหมายวันนี้ ไม่ใช่ผู้ชายโรคจิตอย่างที่เธอระแวง
พวงชมพูจำเขาไม่ได้ตามคาด แต่เมื่อรู้ความจริงก็คลายใจ และหลังจากหมดแสงอาทิตย์ของวันนั้น รุ่งเช้าถัดมาธนนท์ก็ขอคบกับพวงชมพูอย่างเป็นทางการ
นั่นคือจุดเริ่มต้นของความรัก 14 วัน...รักของวัยรุ่น ...รักที่หากเรียกว่าไวไฟก็คงไม่ผิดนัก แต่ในมุมมองของธนนท์เขาใช้เวลาดูใจกับเธอมานานนับเดือนตั้งแต่สนทนาผ่านเครือข่ายที่โยงใยกันทั่วโลก