ความรักไม่ต่างกับการลงทุน และการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ตั้งแต่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันวันนั้น ชีวิตรักเธอเหมือนแขวนบนเส้นด้ายตลอดเวลา…
'แต่งงานกันนะ พี่สัญญาจะดูแลดาวอย่างดีที่สุด’ เสียงกระซิบคำมั่นสัญญาหวานหู จุมพิตหลังมืออุ่นอ่อนทำให้เธอตอบตกลงอย่างง่ายดาย
ทว่าคำว่าดีที่สุดของทั้งคู่คงไม่เท่ากัน อิงดาวไม่ได้คาดหวังอะไรยิ่งใหญ่เกินตัว เธอชอบความสัมพันธ์เรียบเรื่อยธรรมดา แต่สม่ำเสมอ ทว่าตรีศูลกลับต่างออกไป ชีวิตเขาอยู่ท่ามกลางความสมบูรณ์พร้อม นั่นหมายความว่าเมื่อชายหนุ่มตัดสินใจลงหลักปักฐาน เขาย่อมคาดหวังความสำเร็จเช่นเดียวกับผู้คนในแวดวงสังคมเดียวกัน
เปรี้ยง!
เสียงฟ้าร้องปลุกคนที่นอนหลับบนโซฟาหลุดจากเรื่องราวเมื่อหลายปีก่อน มือนุ่มขยี้ตาสองข้างก่อนเหลือบมองนาฬิกาบนฝาผนังพบว่าใกล้เที่ยงคืนเข้ามาทุกที เธอรอเขาจนหลับ เฝ้าคอยจนเหนื่อย สุดท้ายจึงบิดขี้เกียจแล้วลุกยืน หอบผ้าห่มขึ้นชั้นสอง เพราะไม่เห็นประโยชน์ของการกระทำโง่เขลานี้
เหตุการณ์เดิม ๆ เกิดขึ้นซ้ำซาก นำพาความน้อยใจสู่หัวใจดวงน้อยครั้งแล้วครั้งเล่า ทว่ายังไม่ทันถอยเท้าเสียงประตูบานเลื่อนกลับเรียกร้องความสนใจให้หันไปมอง ความเหนื่อยล้าบนใบหน้าหล่อฉายชัดว่าตรีศูลคงเจอเรื่องสาหัสมาตลอดทั้งวัน
ในฐานะเมียที่ดีอิงดาวไม่ควรก่อกวนให้ชายหนุ่มอ่อนล้ากว่าเดิม แต่คนเป็นเมียย่อมมีความรู้สึกไม่ต่างจากผัว ดังนั้นร่างบางจึงไม่รอช้าเดินเข้าไปซักถามคนผิดสัญญาสืบเสาะหาความจริง
“พี่ตรีมีอะไรอยากพูดกับดาวไหม”
“อะไรล่ะดาว พี่มาเหนื่อยๆ ทำไมต้องทำหน้าเป็นยักษ์อย่างนี้ด้วย” ชายหนุ่มทำเสียงอ้อน จากนั้นจึงเอื้อมมือมากุมมือเธอ แววตาคู่นี้สามารถทำให้อิงดาวสยบยอมทุกเมื่อ แต่ใช้ไม่ได้ผลกับครั้งนี้
“วันนี้พี่ผิดนัด แถมตอนดาวโทร. ไปยังมีผู้หญิงอื่นมารับสาย พี่ไม่เห็นเบอร์ดาวเหรอคะทำไมถึงไม่ติดต่อกลับมา ปล่อยให้พ่อแม่ดาวรอเก้อเป็นตัวตลกอยู่ได้”
“อย่างี่เง่าได้ไหม พี่ยุ่ง ฝันเขาว่างเลยรับสายแทนมันก็แค่นั้น ไม่มีอะไรเลย ส่วนนัดพ่อแม่ดาววันอื่นก็ได้ไม่ใช่เหรอ” คนถูกตำหนิถอนหายใจระอา นัยน์ตาคมเข้มมองอย่างไรก็ไร้วี่แววสำนึกผิด
อิงดาวขบริมฝีปาก ตอนแรกบอกตัวเองว่าใจเย็นเถอะ เขาไม่ได้ตั้งใจหรอก ทว่าก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายกลับรุ่มร้อนราวถูกสุมด้วยสะเก็ดไฟ คำต่อว่าต่อขานเหมือนเชื้อเพลิงแห่งหายนะพัดกระพือความโกรธจนเธอควันออกหู
เขาเป็นคนผิดนัดก่อนแท้ๆ ทำไมคนผิดถึงกลายเป็นเธอแทน สรรพสิ่งรอบตัวตรีศูลสำคัญหมดยกเว้นเมียคนนี้อย่างนั้นหรือ
“พี่สนิทกับเขาถึงขั้นรับโทรศัพท์แทนกันได้ด้วยเหรอคะ ดาวเพิ่งรู้วันนี้” ริมฝีปากบางผุดยิ้มเศร้า
“ดาวอย่าลืมสิ พี่รู้จักฝันก่อนมารู้จักดาว พี่กับเขาแค่ทำงานด้วยกันเฉยๆ หรือดาวจะไม่ให้พี่อยู่ใกล้ใครเลย”
“ดาวไม่คิดเลยว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้จากคนที่ตัวเองรัก ทั้งที่พี่เป็นคนเบี้ยวนัดเองแท้ ๆ แต่กลับโยนทุกอย่างทิ้งไว้ที่ดาวคนเดียว” หน้าเธอชาดิกยิ่งกว่าถูกตบ น้ำคำจากปากเขาไหลทำลายหัวใจทีละน้อย เขาประกาศชัดว่าผู้หญิงคนนั้นมาก่อน เธอต่างหากที่มาทีหลัง
“พี่ยุ่งจนลืม แค่ข้าวมื้อเดียวเองทำไมดาวต้องทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ด้วย พี่เคยคิดนะว่าดาวคือผู้หญิงที่เข้าใจพี่มากที่สุด พี่ผิดหวังจริงๆ ที่ได้ยินคำพูดแบบนี้จากดาว”
“ดาวก็ผิดหวังเหมือนกันค่ะ เพราะถ้าพี่หัดคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองบ้าง พี่จะไม่พูดแบบนี้กับดาวแน่ ๆ การเป็นคนรอมันไม่สนุกนะคะ ขอให้พี่รู้ไว้เลย” หญิงสาวแค่นยิ้ม นับวันคำว่ารักยิ่งกัดเซาะความรู้สึกกันมากทุกที เราใกล้แค่นี้แต่กลับห่างไกลเหมือนคนละโลก
ทั้งความคิด วิถีชีวิต ไม่มีอะไรเหมือนกันเลย…
“พี่รู้ไหมที่ผ่านมาดาวพยายามเข้าใจพี่ทุกอย่าง…ดาวบอกตัวเองว่าทั้งหมดพี่ทำก็เพื่อครอบครัวของเรา แต่ตอนนี้พี่เหมือนไม่ใช่คนเดิมที่ดาวรู้จักเลยพี่ตรี” อิงดาวน้ำตารื้นขณะกลืนก้อนสะอื้นไว้ในลำคอ ถ้าวันใดวันหนึ่งหมดความอดทนขอให้รู้ไว้เธอพยายามแล้ว…
พยายามเข้าใจเขาที่สุดแล้วจริงๆ
“พี่เปลี่ยนไปจนบางทีดาวเผลอคิดนะว่าตัวเองหรือเปล่าที่ไม่เคยรู้จักตัวตนของพี่เลย”
หยาดน้ำตาคลอสองเบ้าตา เธอฝืนแข็งแกร่งแม้ใจดวงน้อยร้าวละเอียดไม่ต่างกับเม็ดทรายในท้องทะเล เอาเข้าจริงหากนับความเสียใจที่ผ่านมามันแหลกสลายยิ่งกว่าหินชิ้นเล็กชิ้นน้อยพวกนั้นอีก ตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ตรีศูลไม่เคยให้เกียรติ แต่อิงดาวยังยอมทน เพราะหน้าที่แม่และเมียสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด
“บางทีความรักมันก็น่ากลัวเหมือนกันนะคะ อะไรที่คิดว่าแน่นอนบางทีมันอาจจะไม่แน่นอนก็ได้ ไม่มีอะไรยั่งยืนจริงๆ ดาวเหนื่อย ขอตัวก่อน” ถ้อยคำตัดพ้อจากหญิงสาวที่ไม่เคยเรียกร้องกระทบจนตรีศูลแข็งทื่อราวหุ่นยนต์
ตกดึกคืนนั้นต่างคนต่างเมินเฉย ตรีศูลหนีปัญหาด้วยการนอนห้องรับแขก ส่วนอิงดาวก็กอดหมอนกลั้นเสียงสะอื้น เพราะกลัวเจ้าตัวเล็กรู้ว่าแม่ร้องไห้
รสชาติของชีวิตคู่ขมขื่นแบบนี้นี่เอง...
ติ๊ด! ติ๊ด!
สมาร์ตโฟนบนโต๊ะกลมแผดเสียงร้องจ้าขณะเจ้าของมือนุ่มนิ่มกำลังแพ็กของส่งให้ลูกค้าในช่วงสายของวันต่อมา เมื่อเช้าหลังตื่นนอนเธอไม่พบคนที่เปิดสงครามด้วยแม้แต่เงา ตรีศูลหายไปราวกับไม่เคยมีตัวตนอยู่ในบ้านหลังนี้ โต๊ะอาหารที่ปกติมักมีเสียงจอแจและบทสนทนาพูดคุยระหว่างสามคนพ่อแม่ลูกกลายเป็นเงียบเหงา เหลือเพียงอิงดาวและลูกสาวตัวน้อย
เสร็จจากนั้นอิงดาวขับรถไปส่งพิงใจดั่งทุกวัน เสียงหัวเราะและรอยยิ้มเจ้าเด็กแสบพลอยทำให้หญิงสาวหลงลืมเรื่องกลุ้มใจชั่วขณะ แต่พอกลับมาอยู่เพียงลำพัง ความเศร้าก็เล่นงานเธออีกครั้งจนเผลอปาดน้ำตาคนเดียว
หมายเลขคุ้นเคยโชว์หราบนหน้าจอคือ ‘นรี’ หรือพี่รี พี่เลี้ยงคนสนิทที่คอยดูแลอิงดาวช่วงประกวด อิงดาวเคยเป็นถึงดาวคณะแล้วโดดเด่นจนสามารถคว้ารางวัลระดับมหาลัยฯ มาครอบครอง
ความงดงามของเธอกลายเป็นที่เลื่องลือ หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่เลยพุ่งตัวมาขายขนมจีบ หัวกระไดไม่เคยแห้ง แต่น่าเสียดายสาวน้อยคนนี้มีเจ้าของแล้ว
‘ลูกสาวววว’ เสียงแหลมและคำทักทายแสนคุ้นเคยเล่นเอาคนหัวใจห่อเหี่ยวยิ้มออก แม้ภายนอกนรีดูร่าเริง แต่เวลาจริงจังกลับมีคำแนะนำเฉียบคมให้เธอเก็บกลับไปทบทวน เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาจนผ่านพ้นเรื่องยากๆ ทุกที พี่สาวคนนี้เรียกได้ว่าเป็นศิราณีประจำตัวเธอเลย
‘คิดถึงพี่ ช่วงนี้ดาวยุ่งๆ เลยไม่ได้ติดต่อไปเลยพี่สบายดีไหม’
‘สบายดีสิ นี่ฉันเข้ากรุงเทพฯ มาสองสามวันแล้วกำลังจะแวะไปหาแกที่บ้าน แกว่างหรือเปล่าตอนนี้หรือยุ่งๆ อยู่กับการดูแลผัว เดี๋ยวนี้ผัวแกดังใหญ่แล้วนะรู้ตัวเปล่า’ นรีแซว
‘ตอนนี้ดาวอยู่บ้านค่ะ พี่แวะมาเถอะ’
‘เสียงแบบนี้คืออะไร หงุดหงิดอะไรอีก’ ไม่ต้องเกริ่นให้มากความ คนสนิทอย่างหล่อนเดาออกหลังได้ยินเสียงถอนหายใจ
‘อีกครึ่งชั่วโมงจะถึงนะ ฉันซื้อส้มตำไปด้วยมีเรื่องอยากคุยกับแกเหมือนกัน’
‘ได้ค่ะพี่ อีกครึ่งชั่วโมงเจอกัน’
หลังกดตัดสาย หญิงสาวก็ดีดกายลุกขึ้นไปเตรียมขนมในครัวรอต้อนรับพี่สาวคนสวยใบหน้ายิ้มแย้ม ครึ่งชั่วโมงต่อมาแท็กซี่จึงชะลอจอดหน้ารั้วบ้าน
นรีหวีดร้องก่อนพุ่งกอดน้องสาว ไออุ่นของความคิดถึงล้อมกายทั้งคู่จนสัมผัสแน่นขึ้น เธอจำไม่ได้ว่าหัวใจสูบฉีดและยิ้มกว้างขนาดนี้ครั้งล่าสุดคือเมื่อไหร่ มันน่าเศร้าเหลือเกินที่หลังแต่งงานอิงดาวทุ่มเทเวลาให้ครอบครัวกระทั่งละเลยชีวิตตนเอง
กลิ่นหอมๆ จากไก่ย่างส้มตำตลบอบอวลห้องนั่งเล่น อิงดาวตักข้าวเหนียวเข้าปากตามด้วยคอหมูย่าง แล้วซดโค้กเย็นเจี๊ยบเสียงดังไม่รักษาภาพกุลสตรี
“เป็นไรยะหล่อน ตายอดตายอยากเวอร์” ส่วนนรีก็ดูดชามะนาวน้ำชงเมนูโปรดตั้งแต่วัยละอ่อน
“ดาวแค่เครียดๆ น่ะพี่ ไม่รู้สิ”
“เครียดอะไร ชีวิตหล่อนไปได้ดีแล้วไม่ใช่เหรอ เห็นแม่หล่อนบอกพี่ว่าร้านเสื้อผ้าออนไลน์ที่กำลังขายอยู่ตอนนี้ก็รุ่ง ส่วนลูกสาวก็ฉลาด วัยกำลังเจื้อยแจ้วน่ารัก”
“ดาวทะเลาะกับพี่ตรี” เสียงหวานสารภาพอย่างตรงไปตรงมา ตอนคบตรีศูลเริ่มแรกนรีเป็นคนเดียวที่ค้านหัวชนฝา แถมยังปักใจเชื่อว่าผู้ชายคนนี้จะสร้างปัญหาให้น้องสาวภายหลัง เพราะเส้นทางชีวิตทั้งคู่ต่างกันเกินไป อิงดาวมีความฝันอยากเป็นนางงามหาเลี้ยงปากท้องและช่วยเหลือสังคม ส่วนตรีศูลเกิดมาในครอบครัวผู้ดีเก่าที่ขนบความคิดค่อนข้างโบราณ
ชายหนุ่มมองอาชีพเหล่านี้ไม่ต่างกับการขายเรือนร่าง เต้นกินรำกิน จำได้ตอนปีสุดท้ายที่อิงดาวไปประกวดธิดาดารา ผู้ชายคนนั้นอาละวาดเสียจนหล่อนต้องช่วยคลี่คลายสถานการณ์ใหญ่โต
“อย่าคิดเยอะน่าแก ผัวเมียก็เหมือนลิ้นกับฟันทะเลาะก็ไม่แปลก” มือกระด้างตามประสาคนทำงานหนักลูบไหล่ปลอบใจสาวน้อยข้างกาย
“แปลกสิพี่ พี่ก็รู้ปกติดาวยอมพี่ตรีตลอดแต่รอบนี้พี่ไม่สงสัยเหรอทำไมดาวถึงไม่ยอม”
“แกยอมเพราะแกรักไงดาว ไม่เห็นต้องคิดอะไรเยอะแยะ”
“พี่ตอนนี้ดาวรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเป็นของตายยังไงไม่รู้ ดาวยอมเขา ทำเพื่อเขาตลอด แล้วเขาล่ะทำอะไรเพื่อดาวบ้าง พี่รู้ไหมเมื่อวานพ่อกับแม่มาหาดาว เรานัดกันไปกินข้าวแต่เขาดันลืม พอดาวโกรธเขาก็มาหาว่าดาวงี่เง่า มันแฟร์เหรอพี่”
“โอ๊ยลูกสาว…แกรู้ไหมชีวิตคู่จะอยู่รอดได้เพราะอะไร”
“พี่อยากบอกอะไรดาว”
“ในเมื่อแกเลือกผู้ชายคนนี้แล้วแกต้องเข้าใจ ต้องเห็นใจเขามากที่สุด ความรู้สึกคนน่ะเปลี่ยนแปลงได้ตลอด ความรักก็เหมือนกัน มันพร้อมหมดลงทุกเมื่อ แต่ความเข้าใจความเห็นอกเห็นใจต่างหากจะทำให้ครอบครัวแกอยู่รอด”
“ดาวก็พยายามอยู่ แต่เหมือนดาวยื้อเขาอยู่ฝ่ายเดียว” ความเศร้าเจือผ่านนัยน์ตาผู้พูด ย้อนกลับไปก่อนรัก อะไรก็หวานดีงามไปหมด แต่พอได้ครอบครองทุกอย่าง ทั้งตัวและหัวใจคนที่เคยสัญญากลับเปลี่ยนผัน เหมือนหลงในภวังค์แสนสั้นไม่นานก็ลืมเลือน
แต่คนถูกรับปากกลับจดจำไปจนตาย อิงดาวน้ำตาตกใน ยินยอมพร้อมใจเพราะความรัก ทว่าตรีศูลกลับไม่สามารถทำให้เธอเชื่อมั่นได้เลย ครอบครัวเขายกย่องเชิดชูผู้หญิงคนนั้นออกหน้าออกตา ส่วนเมียอย่างเธอกลับหลบซ่อนราวกับเป็นตราบาปน่าอับอาย
หรือเพราะจน…
เพราะไม่อาจสนับสนุนเขาได้อย่างหลังบ้านที่ดีพึงกระทำ
“ดาว…”
“พี่รีดาวเหนื่อย เหนื่อยมากจริงๆ ตลอดเวลาดาวรักเขาจนดาวลืมไปหมดแล้ว…ดาวลืมไปหมดแล้วว่าดาวคนก่อนเป็นยังไงเคยมีความสุขแค่ไหน”
“…”
“ทำไมคนที่ทุ่มเทเสียสละกว่า ถึงได้รับผลตอบแทนแบบนี้ ไม่ยุติธรรมเลย”