ก็ได้แค่ชอบ

1771 คำ
“คุยกับใครอยู่เหรอกันต์” เสียงหวานถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในห้องแล้วเห็นกันต์ธีร์เพิ่งวางโทรศัพท์ลงข้างลำตัว “พาลินน่ะครับ” “รุ่นน้องคนนั้นเหรอ” “ใช่ครับ เขามีปัญหานิดหน่อยก็เลยต้องโทรมาปรึกษาครับ” “ดูเหมือนกันต์สนิทกับน้องเขามากเลยนะ มีอะไรมากกว่านั้นที่พี่ไม่รู้หรือเปล่า” “ไม่มีอะไรหรอกครับพี่อร ผมก็แค่สงสารครับ เขาอยู่ตัวคนเดียวพ่อแม่ก็ตายหมด มีอะไรที่ช่วยเหลือได้ผมก็อยากช่วยครับ” “ไม่ใช่ว่าแอบคบกันลับหลังพี่นะกันต์” “แค่น้องจริงๆ ครับ เขาเป็นผู้ชายผมก็ผู้ชายนะครับ พี่อรอย่าคิดมากเลยนะครับ” กันต์ธีร์ดึงรุ่นพี่เข้ามากอด สูดความหอมจากกายสาวด้วยความหลงใหล “ถึงจะเป็นผู้ชายด้วยกันพี่ก็ไม่ชอบให้กันต์ไปสนิทแบบนั้น เกิดน้องเขาไม่ได้คิดว่ากันต์เป็นแค่รุ่นพี่ละ” “เรื่องของเขาสิครับ สำหรับผมเขาคือน้อง” “แล้วพี่ล่ะเป็นอะไรสำหรับกันต์” “พี่อรเป็นทุกอย่างของผม ถ้าไม่มีพี่อรผมคงอยู่ไม่ได้แน่ๆ เลย” “ทำมาเป็นปากหวานนะ” “ก็หวานกับพี่อรคนเดียวครับ” กันต์ธีร์ยืนยันคำพูดของตนเองด้วยการประจบจูบลงไปอย่างเร่าร้อน อีกคนก็ตอบรับอย่างถึงใจ กันต์ธีร์มอบความสุขให้กับรุ่นพี่จนเธอได้แต่ร้องครวญครางอย่างสุขสม ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนแรกที่ชายหนุ่มเข้ามาทำงานที่นี่ ความเร่าร้อนของอรณิชาทำให้กันต์ธีร์ไม่คิดจะกลับไปหาพาลินอีกเลย แต่ที่ยังติดต่อก็ยังเห็นว่าชายหนุ่มรุ่นน้องพอจะมีประโยชน์อยู่บ้าง อย่างน้อยก็มีเงินให้เขาหยิบยืมเวลาที่เงินขาดมือ แต่ก่อนคิดว่าตัวเองคงรักใครไม่ได้อีกแล้วนอกจากพาลิน แต่มาเจอรุ่นพี่คนสวยเขาก็เปลี่ยนใจในทันที อรณิชาทั้งสวยและฉลาด และยังเป็นถึงหลานสาวของประธานบริษัท ถ้าเขาปล่อยผู้หญิงคนนี้หลุดมือไปก็คงจะโง่เต็มที กันต์ธีร์เดินมาสูบบุหรี่ที่ระเบียงห้องนอน มองเงินในบัญชีแล้วก็ยิ้ม ถึงแม้เขาจะทำงานและมีเงินเดือนแล้วแต่เพราะช่วงนี้ชายหนุ่มมักพารุ่นพี่ไปทานอาหารตามร้านหรู อยู่บ่อยๆ เงินจึงขาดมือไปบ้าง แม้ว่าอรณิชายินดีจะเป็นคนจ่ายแต่เขาก็ไม่อยากให้เธอมองว่าเขากำลังเอาเปรียบเธอ ชายหนุ่มคิดไปไกลกว่านั้น ช่วงนี้เขาจึงเป็นฝ่ายลงทุนก่อนเพราะมองเห็นอนาคตว่าตนเองจะสุขสบายแค่ไหน พรุ่งนี้หลังเลิกงานแล้วเขาคิดว่าจะพาอรณิชาไปเที่ยวหัวหินและค้างที่นั่นสักคืน ไม่ใช่เพราะอยากไปเที่ยวแต่กลัวว่าพาลินจะมาหาที่คอนโด กันต์ธีร์ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนเห็นแก่ตัว แต่มีใครบ้างที่ไม่เป็นแบบนี้ ทุกคนก็รักตัวเองกันทั้งนั้น เขามองไม่เห็นอนาคตของตัวเอง ถ้าหากยังคบกับหนุ่มรุ่นน้องอยู่แม้ที่ผ่านมาจะมีความสุข แต่มันเป็นความสุขของเขาเพียงคนเดียว เพราะทางบ้านของเขายังไม่รู้เรื่องนี้และกันต์ธีร์ก็คิดว่าคงไม่มีใครรับได้ ครอบครัวของเขาค่อนข้างหัวโบราณและมักจะพูดเสมอว่าเขาเป็นลูกผู้ชายคนเดียวในบ้าน เป็นหลานชายคนเดียวของตระกูลและอยากให้เขาหาผู้หญิงที่เหมาะสมเพื่อสร้างครอบครัว รวมถึงอยากให้เขามีลูกชายไว้สืบสกุล ชายหนุ่มบล็อกเบอร์โทรของพาลิน เขาไม่อยากรับสายของแฟนหนุ่มในช่วงที่เขาอยู่กับผู้หญิงอีกคน เรื่องความสัมพันธ์ในอดีตกันต์ธีร์จะให้อรณิชาหรือใครอื่นในบริษัทรู้ไม่ได้ เช้านี้พาลินตื่นเช้ากว่าทุกวัน เขาโทรหากันต์ธีร์จะถามว่าเรื่องรถเป็นยังไงบ้างเรียบร้อยดีไหม แต่ก็ติดต่อไม่ได้ แล้วก็โล่งใจเมื่อเห็นเขาส่งอีเมลมาบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีและกำลังเดินทางไปไซต์งานและอาจจะติดต่อไปได้อีกพักใหญ่เพราะที่นั่นค่อนข้างอับสัญญาณ ถ้าพาลินอยากติดต่อก็ให้ใช้การส่งอีเมลแทน หลังจากจัดการตัวเองแล้วพาลินก็ไปทำงานอย่างเคย วันนี้รุ่นพี่ที่ทำงานด้วยกันเอาบัตรเข้างานมอเตอร์โชว์มาให้พาลินตามที่ชายหนุ่มเคยพูดไว้ “อยากไปไม่ใช่เหรอ” “ครับพี่มิริน” “เหมือนไม่ดีใจเลยนะพาลิน” “ผมไม่แน่ใจว่าคนที่อยากไปด้วยจะกลับมาทันไหม งานเริ่มสัปดาห์หน้าใช่ไหมครับ” “จ้า ถ้าคนที่อยากไปด้วยเขาไม่ว่างก็ไปกับคนอื่นสิ ไม่เห็นเป็นไรเลย ไปกับเจมส์ไหมล่ะ พี่ได้ยินว่าเขาก็อยากไปอยู่เหมือนกันนะ” “ไม่ดีกว่าครับ” พาลินไม่กล้าไปกับหุ้นส่วนโรงเรียนอย่างแน่นอน เขาคงทำตัวไม่ถูกแน่ๆ ชายหนุ่มเก็บบัตรสองในลงกระเป๋าโดยสอดไว้กับสมุดโน้ตเล่มเล็กที่ด้านในเป็นแผนการสอนที่เขาเตรียมให้กับเบจิง พอถึงเวลาเลิกงานเขาก็มายังบ้านของเบจิง วันนี้เด็กชายไม่ค่อยร่าเริงเท่าไหร่ “เบจิงครับ ทำไมวันนี้ไม่ดีใจเลยที่พี่ลินมา ไม่อยากเรียนด้วยกันแล้วเหรอครับ หรือพี่ลินสอนไม่สนุก” “พี่ลินสอนสนุกค้าบ” “แล้วเป็นอะไรล่ะครับ บอกพี่ได้นะ” “เบจิงไม่อยากไปโรงเรียนใหม่” “ทำไมล่ะครับพี่ได้ยินมาว่าที่โรงเรียนใหม่ มีเพื่อนเยอะเลย มีของเล่นชิ้นใหญ่ ขนมก็อร่อยมากๆ ด้วยนะครับ” “มีขนมด้วยเหรอครับ” เด็กชายดีใจเพราะอยู่โรงเรียนเดิมไม่ค่อยทานขนมส่วนใหญ่อาหารว่างเป็นผลไม้เสียมากกว่า “ครับ พี่ลินได้ยินมาแบบนั้น แต่ไม่รู้จริงไหม อันที่จริงก็อยากเข้าไปเรียนโรงเรียนแบบนั้นเหมือนกันครับ” “พี่ลินไปเรียนกับเบจิงไหมครับ เบจิงจะบอกคุณแม่ให้” พอได้ยินว่าคุณครูจะไปเรียนด้วยเด็กน้อยก็ดีใจจนหน้าบาน “ไม่ได้หรอกครับ พี่ลินโตแล้วโรงเรียนเขาไม่ให้คนโตไปเรียนครับ เขาให้แต่เด็กๆ ไปเรียนครับ พี่เลยอยากให้เบจิงไปเรียนแล้วก็กลับมาเล่าให้พี่ลินฟังว่าเป็นยังไงบ้าง เบจิงทำได้ใช่ไหมครับ” “ทำได้ครับ เบจิงจะไปโรงเรียนใหม่ แล้วจะกลับมาเล่าให้พี่ลินฟังนะครับ” “ดีมากครับ ถ้าอย่างนั้นวันนี้เราไปเรียนกันดีกว่า เตรียมตัวสำหรับโรงเรียนใหม่เพื่อนใหม่ เบจิงว่าดีไหมครับ” “ดีครับ เบจิงไปเรียนแล้วนะครับคุณแม่” แพรรดาเห็นลูกชายร่าเริงก็เบาใจ วันนี้เธอเลิกงานเร็วกว่าทุกวัน เลยมีเวลาให้กับลูกชาย แต่ไม่คิดว่าการบอกเรื่องโรงเรียนใหม่จะทำให้เด็กชายต่อต้าน เธอกำลังคิดไม่ตกว่าจะทำยังไงเบจิงถึงยอม แต่ไม่คิดว่าพาลินพูดแค่ไม่กี่คำเด็กชายก็ยอมแต่โดยดี ตั้งแต่พาลินมาช่วยสอนเบจิงถึงวันนี้ก็เกือบจะสองเดือนแล้ว นับว่าเป็นคุณครูที่อยู่กับลูกชายของเธอนานกว่าคนไหน ที่ผ่านมาเธอเปลี่ยนครูมาแล้วก็หลายคน ไม่มีใครทนความแสบของลูกชายเธอได้นานเท่ากับพาลินเลย ถ้าหากพาลินเรียนจบและเขาได้ทำงานประจำเธอก็ยังมองไม่ออกแล้วว่าจะหาใครที่เข้าใจและรักเบจิงได้เหมือนกับพาลิน “พี่แพร วันนี้กลับบ้านเร็วนะครับ” เสียงทักทายของน้องชายดังมาก่อนที่เจ้าตัวจะเดินเข้านั่งลงข้างๆ พี่สาว “จ้ะ วันนี้งานไม่ยุ่งเท่าไหร่ แล้วเราล่ะ มีธุระอะไรหรือเปล่า มาบ้านพี่สามวันติดๆ แล้วนะ” แพรรดาพอเดาออกว่าน้องชายของตนเองกำลังสนใจคุณครูของเบจิงอยู่ “ไม่มีธุระมาไม่ได้เหรอครับ” “มาได้สิ แต่พักนี้มันแปลก พี่รู้นะว่าคิดอะไรอยู่” “ผมไม่ได้คิดอะไรเลย” “เอาความจริงสิโดม ชอบเหรอ” “ครับ แต่ก็ได้แค่ชอบครับ เขามีแฟนแล้ว” “รู้ว่าเขามีแฟนแล้วจะมาทำไมบ่อยๆ” แพรรดาไม่อยากให้น้องชายของตนเองเป็นมือที่สามของใคร “พี่แพรครับ ผมไม่ได้คิดจะแย่งคนรักของใครเลยผมก็แค่อยากคุยกับเขา อยากไปส่งเขาก็แค่นั้นเอง” “แล้วเขารู้ไหมว่าเราชอบเขา” “ไม่หรอกครับเด็กนั่นซื่อบื้อจะตาย” “ไปว่าเขาอย่างนั้นได้ยังไง” “ก็จริงนี่ครับ ทั้งซื่อบื้อทั้งซุ่มซ่ามเมื่อวานผมแค่บีบแตรเรียกตกใจจนล้มไปในพุ่มดอกเข็มที่เลยครับ” ดลธรรมนึกภาพเมื่อวานแล้วก้หัวเราอย่างอารมณ์ดี “ตายจริง แล้วเจ็บมากไหม” “ไม่หรอกครับแค่แผลถลอก ผมสงสารเลยขับรถไปส่ง หอเขาอยู่ใกล้ๆ คอนโดครับ” “พี่ไม่รู้เลยว่าพาลินต้องเดินออกไปขึ้นรถที่หน้าปากซอย” “แต่ก่อนแฟนเขาคงมารับครับ แต่ช่วงนี้เขาบอกว่าแฟนไม่ว่าง” “อย่าคิดจะเข้ามาแทรกกลางเชียวนะ พี่ยังอยากให้พาลินสอนเบจิงต่อ” “ผมไม่ใช่คนร้ายกาจแบบนั้นนะครับพี่ ผมกับเขาก็แค่พี่ชายน้องชาย” “เขาไม่รู้เหรอว่าโดมชอบผู้ชาย” “คิดว่าไม่รู้ครับ ผมก็ตีเนียนไปก่อน” “พี่ชักไม่ไว้ใจแล้วสิ” “โธ่พี่ครับ เชื่อใจผมเถอะ ถ้าเขาไม่เลิกกับแฟนผมก็ไม่มีทางเข้าไปยุ่งหรอกครับ” “ขอให้มันแน่เถอะ พี่เห็นสายตาเราแล้วไม่ไว้ใจเลย” ทำไมแพรรดาจะดูไม่ออกว่าน้องชายสนใจพาลินตั้งแต่วันแรกที่เจอ ถ้าได้พาลินมาเป็นคนในครอบครัวก็คงดีเพราะเธอเองก็อยากเห็นดลธรรมมีความสุข ไม่ใช่ลอยไปลอยมาแบบนี้ แต่ถ้าต้องไปแย่งของคนอื่นหรือทำให้คนรักต้องผิดใจกันเธอก็คงไม่เห็นด้วย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม