“น้องแดน หรือเด็กชายแดนไทย หลานชายของฉัน แค่แปดเดือนจะเรียกลุงได้ไง เด็กคนไหนๆ เขาก็เรียกพ่อ เรียกแม่ก่อนทั้งนั้น” เดือนนาราถามเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจ
เดวิดเลิกคิ้วสูง “เจ้าอ้วนมันอ้อแอ้ ร้องแอ้ๆ และออกเสียงเหมือนอัง อัง ฉันคิดว่าอังเคิลที่แปลว่าลุง” เพราะเขาสอนดิโน่ทุกวัน ยังไงก็ต้องพูดคำว่าลุงได้ก่อนพ่อกับแม่
เดือนนาราอ้าปากค้าง “นั่นเด็กทารก ไม่ใช่นกขุนทอง คุณคิดไปเอง เอาหลานฉันคืนมาเลย” อีตาคนนี้เป็นอะไรเวลาพูดถึงหลานเธอดวงตาคู่คมดุวาววับขึ้นมาทันที
“จู่ๆ จะมาขอคืนง่ายๆ อย่างนั้นเหรอ ฉันจะเชื่อเธอดีไหมว่าเธอเป็นน้าของเจ้าอ้วนนั่นจริงๆ ”
เดวิดยังไม่อธิบายต่อว่าเขากำลังรอให้แดเนียลกลับมาเพื่อตรวจดีเอ็นเอกับดิโน่ก่อน หากว่าเป็นลูกของแดเนียลจริง เขาก็จะส่งให้หมอนั่นเอาไปเลี้ยง หากไม่ใช่ เขาก็จะเลี้ยงต่อไป
“จริงสิ ถ้าไม่ใช่ฉันจะรู้ได้ยังไงว่ามีผู้หญิงเอาเด็กมาให้คุณ” เดือนนารายืนยัน
“ฉันไม่คืนให้เธอหรอก เธอไม่ใช่แม่ของเด็ก แค่คำพูดของเธอไม่กี่คำไม่ทำให้ฉันเชื่อได้หรอก อีกอย่างน้องชายฉันยังไม่กลับมา ตอนนี้ดิโน่อยู่ในความดูแลของฉันแล้ว ใครหน้าไหนก็เอาไปไม่ได้ ยกเว้นแม่ของเด็ก”
เดือนนารานิ่งงันไปเพราะไม่เข้าใจว่าทำไม ‘อรนารา’ พี่สาวของเธอถึงได้ทอดทิ้งลูกชายให้คนอื่นง่ายๆ แบบนี้ ตอนนั้นที่อรนาราคลอดลูกออกมา เธอสมัครเป็นผู้เข้าร่วมโคงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม มีหน้าที่ดูแลลูกๆ ของโฮสแฟมิลี่ที่อาศัยอยู่ด้วย หรือเรียกสั้นๆ ว่าออแพร์ เธออยู่ที่นิวยอร์กก่อนจะย้ายมาที่รัฐโอเรกอนเธอมาเยี่ยมพี่สาวที่ยังนอนพักฟื้นจากการคลอดลูก พี่สาวของเธอบอกว่าพ่อของลูกคือแดเนียล แบรดลีย์ เธอรู้แค่นั้นและไม่ได้ซักถามอะไรอีก เพราะพี่สาวไม่ยอมบอกอะไร เท่าที่รู้พี่สาวเธอมีคนมาชอบมากมายแต่อรนาราหลงรัก คลั่งไคล้ แล้วพร่ำบอกเธอเสมอว่า
‘คนที่ฉันจะมอบพรหมจรรย์ให้ มีแค่เขา’
‘แดเนียล แบรดลีย์’
“พี่อรบอกว่าพ่อของลูกชื่อแดเนียล แบรดลีย์ ฉันก็ทราบเรื่องทั้งหมดแค่นั้น พอๆ กับคุณ พี่อรคงมีปัญหากับ เอ่อ...” เธอไม่กล้าพูดว่าน้องชายของผู้ชายตรงหน้าตรงๆ เพราะเขาดูเหมือนคนอารมณ์ขึ้นง่าย ดีไม่ดีถูกฆ่าหมกใต้ต้นแอปเปิล กลายเป็นปุ๋ยโดยไม่มีใครรู้ใครเห็นก็เป็นได้
“น้องชายฉัน” เดวิดตอบแทน
“ใช่” เดือนนารายอมรับ “พี่อรคงเข้าใจผิดเพราะพวกคุณหน้าตาเหมือนกัน เลยเอามาทิ้งไว้ให้คุณ แต่ตอนนี้ฉันจะมารับหลานฉันกลับ คุณเป็นผู้ชายเลี้ยงดูแกไม่ดีเท่าฉันหรอก คืนแกให้ฉันเถอะ”
เดวิดกระตุกยิ้มร้าย “เอามาให้ง่ายๆ แต่มาเอาคืนง่ายๆ ไม่ได้ บอกแล้วไงไม่ได้ยินเหรอ ดิโน่อยู่ในความดูแลของฉัน อยากได้คืนให้พี่สาวเธอมาเอาเอง”
เดือนนาราพยายามสะกดกลั้นน้ำเสียงสั่นพร่าเมื่อกล่าวถึงพี่สาวผู้โชคร้าย “พี่อรถูกรถชนเสียชีวิตไปแล้ว ก่อนตาย พี่อรโทร.มาหาฉันก่อนเกิดอุบัติเหตุว่าจะมารับลูกชายที่อยู่กับคุณกลับไปอยู่ด้วย พี่อรบอกว่าเธอทำผิดที่เอาน้องแดนไปทิ้งไว้กับคุณ”
เดวิดหัวเราะขบขัน “แต่งเรื่องไม่เก่งเลยนะ บังเอิญเกินไปหรือเปล่า ฉันจำเป็นต้องเชื่อคำพูดลอยๆ ของเธอด้วยหรือไง แอปเปิลเธอยังขโมยได้ ทำไมเธอจะคิดขโมยเด็กไม่ได้”
อันที่จริง เขาไม่ได้ปักใจเชื่อว่าเธอเป็นคนร้ายอย่างที่กล่าวหา แต่ก็ยังไม่เชื่อเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเธอคือน้าสาวของดิโน่ เขาอยากรู้ที่มาที่ไปของดิโน่ให้แน่ชัด ไม่ใช่ว่าพอมีคนส่งเด็กมาให้ เขาก็รับไว้โดยไม่ตรวจสอบ แดเนียลก็ไม่อยู่ แต่ก็พอดีที่แม่สาวปริศนาคนนี้มาเฉลยคำตอบในสิ่งที่เขาอยากรู้ แต่ยังไงก็ให้ไปไม่ได้ ต้องรอพิสูจน์ให้ชัดเจนทุกด้านเพื่อความปลอดภัยของเด็ก แล้วอีกอย่าง แค่เดือนเดียวที่แสนวุ่นวายแต่บังเกิดสายใยเส้นบางๆ ที่นานวันชักจะเริ่มผูกพันกันมากขึ้นเรื่อยๆ
เดวิดรีบบันทึกไว้ในความทรงจำว่าแม่ของดิโน่ชื่ออรนารา อย่างน้อยรู้ชื่อแล้วคงไม่ยากที่จะสืบหาความจริงกันต่อไป แต่ไอ้น้องชายตัวแสบของเขามีผู้หญิงรอบเอว มันจะจำได้ไหมว่าอรนาราเป็นใคร เคยมีพันธะสวาทกับมันหรือเปล่า แล้วดิโน่จะใช่ลูกของแดเนียลจริงหรือไม่
“ฉันอยากได้หลานคืน ฉันเคยเป็นออแพร์มาก่อน ยังไงซะฉันดูแลแกได้ดีกว่าคุณแน่นอน” เธอรู้ว่าเขาร่ำรวยแค่ไหน แต่อย่างไรที่นี่ไม่ใช่ที่ของหลานชายเธอ
“ไม่ง่ายแบบนั้นหรอกคนสวย คิดว่าเข้ามาในสวนของฉันแล้วอยากได้อะไร ก็จะเอาออกไปง่ายๆ อย่างนั้นเหรอ นี่เด็กทั้งคน ไม่ใช่แอปเปิลหนึ่งที่เธอขโมยไปกิน”
เดือนนาราถอนใจ “ก็แค่หิวจนตาลาย เลิกย้ำสักทีเถอะว่าฉันขโมย แอปเปิลแค่ไม่กี่ลูกเอง เอาแบบนี้แอปเปิลพวกนั้นขายเท่าไหร่ ฉันจะจ่ายเงินให้คุณเดี๋ยวนี้เลย”
หญิงสาวล้วงมือไปหยิบเงินในกระเป๋าเพื่อจะจ่ายให้จบเรื่องจบราว ทว่าต้องชะงักกึกเมื่อได้ยินเดวิดกล่าวเสียงห้วน
“เดี๋ยว” ใบหน้าหล่อเหลาแบบเถื่อนๆ จ้องหน้าหวานใส พลางเลิกคิ้วให้ด้วยมาดกวนประสาทสุดๆ “หนึ่งแสนดอลลาร์จ่ายมาสิ”
เดือนนาราอ้าปากค้าง ยอมรับว่าเคยกินแอปเปิลมามาก แต่ไม่เคยเจอแอปเปิลที่ทั้งกรอบและหวานฉ่ำ หอมฟุ้ง ลูกโต อร่อยจนหยุดไม่ได้เท่าลูกที่กลืนลงท้องไป แต่ว่าแอปเปิลบ้าบออะไรราคาแพงกว่าทองคำอีก เธอจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายเขาเ ธอไม่มีเงินถึงแสนดอลลาร์
“เกินไปแล้ว แอปเปิลอะไรของคุณ นี่ไม่ใช่สวนอีเดนนะ และมันก็ไม่ใช่แอปเปิลวิเศษของพระเจ้าถึงจะขายแสนดอลลาร์ ฉันจะไปฟ้อง...”
“จะไปฟ้องใครก็เชิญเลย ทำไมจะคิดแสนดอลาร์ไม่ได้ แอปเปิลที่เธอกินเข้าไปมีต้นเดียวในโลก แล้วพึ่งออกผลผลิตปีแรกแค่สิบลูกแรกในโลก”
“ต้นเดียวในโลก! บ้าไปแล้ว อย่ามาหลอกฉันให้ยากเห็นฉันโง่หรือไง”
เดวิดยิ้มหยัน เรื่องอื่นเขาอาจพูดหลอกแต่เรื่องนี้ไม่ได้พูดเล่น เขาจบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านการเกษตรอันดับหนึ่งของอเมริกา สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในมหาวิทยาลัยแห่งนี้คือมีห้องแล็บเพาะเมล็ดพันธุ์สำหรับการศึกษาการเกษตรที่ใหญ่ที่สุด เดวิดจึงมีความสามารถโดดเด่นเรื่องการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ปรับปรุงพันธุ์พืชมาตั้งแต่สมัยเรียน และนำความรู้มาปรับใช้กับสวนแอปเปิลและฟาร์มม้า ซึ่งมีเขากับน้องชายเป็นทายาท แต่เจ้าแดเนียล หมอนั่นมันถนัดธุรกิจด้านซอฟต์แวร์ไม่ชอบงานแบบนี้ผิดกับเขาที่ชอบอาบเหงื่อ ตากแดดทำการเกษตรอยู่ที่นี่