บทที่ 4 คุณจะต้องยกมือไหว้ฉัน! 3

821 คำ
“ถ้าพวกคุณยังก่อกวนลูกค้าของทางร้านเราไม่เลิก เราคงต้องเชิญพวกคุณออกไป” ผู้จัดการสาวพูดจบก็เรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยที่อยู่หน้าร้านมาไล่แขก ทั้งโมฬีและจารวีถูกชายสองคนรูปร่างกำยำสูงใหญ่ทั้งผลักทั้งฉุดลากออกไปอย่างหยาบคาย จารวีที่สวมส้นสูงจึงเสียหลักล้มเข่ากระแทกพื้นหน้าร้านโครมใหญ่ โมฬีที่ถูกผลักออกนอกจากร้าน แต่ยังพอทรงตัวได้รีบปราดเข้ามาช่วยพยุงเพื่อนสาวให้ลุกขึ้น ก่อนจะชี้หน้าต่อว่าพนักงานอย่างดุเดือด “พวกคุณทำกับลูกค้าแบบนี้มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ ฉันมีสิทธิ์ฟ้องทางร้านเรียกค่าเสียหายได้เลยนะ” “ก็ฟ้องสิ ฉันจะได้ฟ้องกลับว่าเธอกับเพื่อนเป็นฝ่ายหาเรื่องก่อน และเป็นพยานให้ทางร้านเอง” วราภัคลอยหน้าท้าทาย คนจริงอย่างโมฬีไม่พูดมาก จ้องตาวราภัคแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแจ้งความทันที “สวัสดีค่ะคุณตำรวจ ดิฉันต้องการแจ้งความคดีทำร้ายร่างกายที่ร้าน...” สนทนาจนวางสายแล้ว ก็เอ่ยกับคนที่ยืนลำพองโดยไม่รู้เงาหัวตัวเองว่า “ถึงคุณจะใช้นามสกุลมาเบ่งแย่งโต๊ะของฉันไป แต่ฉันมีหลักฐาน SMS แสดงให้เห็นว่าพวกเราโทร. เข้ามาจองคิวกับทางร้านจริงๆ ในเมื่อคุณบอกว่าผู้หญิงคนนี้เธอจองก่อน งั้นก็เอา SMS มายืนยันเวลากันไปเลยอีกอย่างกล้องวงจรปิดที่หน้าร้านก็น่าจะบันทึกภาพเอาไว้ว่าพวกฉันมาถึงก่อนพวกคุณด้วยซ้ำ ทีนี้ใครผิดใครถูกจะได้รู้กันสักที” ผู้จัดการหน้าถอดสีทันที โมฬีกล่าวไม่ผิด ด้วยความโด่งดังและกำลังเป็นที่นิยม มีลูกค้าเข้ามาอุดหนุนที่นี่แน่นขนัดทุกวัน จึงต้องโทร. มาจองก่อนตั้งแต่เนิ่นๆ ส่วนคนที่ไม่ได้จองและเดินดุ่มๆ มาที่หน้าร้านอย่างวราภัคจะเอา SMS ที่ไหนมายืนยันได้ล่ะ เอาจริงๆ หล่อนไม่มีทางได้เหยียบเข้าร้านเสียด้วยซ้ำ นี่เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่มัดตัวหล่อนจนดิ้นไม่หลุดว่าบกพร่องต่อหน้าที่ จงใจลัดคิวให้ลูกค้าคนอื่นก่อน หากผู้เป็นนายใหญ่รู้เข้าละก็... หล่อนซวยแน่! “คุณลูกค้าใจเย็นๆ ก่อนนะคะ เป็นความผิดพลาดของทางเราเอง ทางร้านต้องขออภัยเป็นอย่างสูง เชิญลูกค้าทั้งสองท่านทานอาหารในร้านได้เลยค่ะ มื้อนี้ทางเราขอเลี้ยงอาหารคุณลูกค้าแทนคำขอโทษนะคะ” ผู้จัดการสาวพลิกลิ้นเอ่ยประนีประนอมกับโมฬีเสียงอ่อน “นี่เธอ! พูดแบบนี้ได้ไง ไหนว่ายกโต๊ะให้ฉันแล้วไงล่ะ” วราภัคหันมาแว้ดใส่ผู้จัดการร้านอย่างเดือดดาลที่จู่ๆ มาเทหล่อนทิ้งกลางคัน ทว่าคนฟังทำเป็นไม่สน รีบประจบคู่อริหัวใจต่อชนิดไม่ไว้หน้าหล่อนเลย “เชิญคุณลูกค้าด้านในเลยค่ะ” หล่อนเรียกพนักงานเสริ์ฟมาคอยบริการนำโมฬีกับจารวีไปที่โต๊ะ ส่วนตัวเองก็หันมาจัดการกับลูกค้าสาวนามสกุลดังอีกคนที่เกือบนำความซวยมาเยือน “คุณผู้หญิงท่านนี้ไม่ได้โทร. เข้ามาจองก่อน ตอนนี้ร้านเราโต๊ะเต็มหมดแล้วค่ะ รบกวนมาใช้บริการใหม่ครั้งหน้านะคะ” “กรี๊ดดดด! พวกแกทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้นะ ฉันไม่ยอม!” วราภัคที่ถูกขัดใจและหักหน้ากระทืบเท้าหวีดร้องดังลั่นห้าง ชี้หน้าด่าทอพนักงานอย่างสาดเสียเทเสีย บางคำที่พ่นออกมาทำเอาผู้คนแถวนั้นถึงกับงง ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงที่น่าตาสะสวยและดูดีมีการศึกษาเช่นหล่อนจะหยาบคายราวกับไม่เคยได้รับการอบรม “อีบ้า! อีพวกขี้ข้า! แต่เป็นคนจนแท้ๆ พวกแกมีสิทธิ์อะไรมาไล่ฉัน...หา!!!” คุณหนูสาวยืนกรี๊ดเต้นเร่าๆ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ โมฬีที่ยังไม่เดินเข้าไปเพราะอยากดูโชว์สนุกๆ จึงเอ่ยปากบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองนายว่า “ขอบคุณนะคะคุณตำรวจ พอดีผู้หญิงคนนี้เธอดูสติไม่ค่อยดีน่ะค่ะ มาร้องเอะอะโวยวายอยู่ตรงนี้ตั้งนานแล้ว ดิฉันกลัวจะเป็นอันตรายกับคนอื่น เลยอยากจะขอให้คุณตำรวจช่วยพาเธอไปสงบสติอารมณ์หน่อยค่ะ” นายตำรวจทั้งสองพยักหน้ารับทราบ “ขอบคุณที่แจ้งเหตุนะครับ” ก่อนจะหันไปควบคุมตัววราภัคที่ยิ่งอาละวาดด่าทอหนักกว่าเก่า กำลังจะลากตัวออกไปขังที่สถานีตำรวจ ก็มีเสียงทุ้มถามแทรกขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้น?” รัชชัยแยกไปเข้าห้องน้ำ เลยตามคู่หมั้นสาวและเพื่อนของหล่อนมาทีหลัง มาถึงก็เห็นกลุ่มคนยืนออท่าทางวุ่นวาย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม