บทที่2 ส่งลูกสาวมาขัดดอก 1/2

965 คำ
ปลายฟ้ากลับบ้านอย่างท้อใจ เพราะวันนี้ยอดขายไม่ค่อยดีเลย “กลับมาแล้วเหรอยัยตัวดี กลับเอาเสียเช้าแล้วนั่นถืออะไรมา” สุนทรีแม่เลี้ยงของเธอเอ่ยทักทันทีที่ลูกเลี้ยงเข้าบ้าน “ไปขายของมา” ปลายฟ้าตอบสั้นๆ เพราะไม่อยากเสวนาด้วย “ขายอะไร เมื่อไหร่จะได้เงินมิสู้จับผู้ชายรวยๆ ไม่ดีกว่าหรือ” สุนทรีพูดเผื่อนางจะคิดได้ แล้วช่วยให้ที่บ้านได้กลับมาเฟื่องฟูเช่นเดิม หน้าตาของปลายฟ้านับว่าเป็นคนสวยคนหนึ่ง แต่ติดที่เธอไม่ใช่ลูกแท้ๆของสุนทรีพูดมากไปก็ไม่ดีนัก ปลายฟ้าไม่อยากฟังอะไรต่อ จึงเดินเข้าห้องนอนไป วางเคสโทรศัพท์ไว้ในห้องแล้วขึ้นเตียงทรุดลงนอน มันง่วงและเครียดเกินกว่าจะถ่างตาได้ เธอหลับลงด้วยความเหนื่อยล้า สุนทรีเมื่อใกล้ได้เวลานัดระหว่างเธอและโอฬาร เธอจึงรีบออกไปพบเขาโดยไม่ลืมลากนิติกรพ่อของปลายฟ้าไปด้วย สุนทรีเข้าห้องไปด้วยความตื่นกลัว เพราะไม่มีคำตอบที่ดีให้กับโอฬาร “มากันแล้วเหรอ นั่งสิ” โอฬารที่กำลังรอลูกหนี้อย่างสุนทรี นึกแปลกใจที่คราวนี้ควงสามีหน้าโง่มาด้วย “พวกเรามีข้อเสนอมาต่อรอง” สุนทรีเริ่มเปิดก่อน ไม่รอให้โอฬารได้สักถาม “ว่ามา” “พวกเราขอพลัดผ่อนสักระยะ จะรีบหาเงินมาคืนแน่นอน” “พลัดมากี่ครั้งแล้วคุณสุนทรี” โอฬารควักปืนขึ้นมาเช็ดเบาๆ แล้วก็วางลงเบาโต๊ะ ปึง!!! “คุณโอฬารใจเย็นๆ ก่อนนะคะ” สุนทรีรีบเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นปืนมาวางตรงหน้า “ผมว่าผมใจเย็นกับพวกคุณมานานแล้วนะ หากว่าใจร้อนป่านนี้พวกคุณคงไม่มานั่งพูดแบบนี้หรอก” โอฬารใช้สายตาเฉียบคมมองไปยังทั้งคู่ที่นั่งอยู่ตรงข้าม “คุณโอฬารครับ ผมยังมีบ้านอยู่ แต่ว่าต้องใช้เวลาในการประกาศขาย ยังไงคุณโอฬารช่วยยืนระยะเวลาออกไปอีกสักนิดนะครับ” นิติกรที่ฟังอยู่อดรนทนไม่ไหว ยื่นข้อเสนอสุดท้ายขึ้น บ้านเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขาคิดจะเก็บไว้ให้ลูกสาวคนเดียวของเขา เนื่องจากเขาสร้างในช่วงมีเงินบ้านจึงค่อนข้างใหญ่ แต่บัดนี้เหลือเพียงบ้านกับเฟอร์นิเจอร์ไม่กี่ชิ้นที่จำเป็น ทุกสิ่งล้วนนำออกขายนำเงินไปให้กับสุนทรีย์จนหมด “หลักประกัน” โอฬารพูดสั้นๆ หากเป็นบ้านใช่แต่มันมีมูลค่าเกินกว่าจำนวนเงินที่กู้ไป อีกอย่างเรื่องนี้นิติกรไม่จำต้องช่วยเหลือ เขาก็จะไม่ยุ่งอยู่แล้ว เขาเพียงแต่อยากให้ผู้หญิงตรงหน้าได้รับรู้รสชาติความเห็นแก่ตัวจนทำให้ครอบครัวพังพินาศ แต่ไม่คิดว่าผู้ชายคนนี้ยังดึงดันเก็บเธอไว้ “ลูกสาว เราเอาลูกสาวมาให้ทำงานกับคุณก่อนได้ไหมคะ” สุนทรีนึกขึ้นได้ หากขายบ้านไปเธอจะอยู่อย่างไร แล้วอีกอย่างบ้านเปรียบเสมือนหน้าตาทางสังคมของเธอที่ยังคงรักษาไว้ได้ หากขายบ้านทุกคนก็รู้ว่าเธอถังแตกแล้ว คงไม่มีหน้าไปออกงานอีก “ไม่ได้คุณ ปลายฟ้ายังเด็ก” นิติกรไม่ยอมให้ลูกสาวมาตกระกำลำบากแน่นอน “คุณคะ” สุนทรีรีบปรามให้นิติกรเลิกพูด “หากลูกสาวเราอยู่ในมือคุณ คุณก็ไม่ต้องกลัวว่าเราจะเบี้ยว ยังไงเราก็จะหาเงินมาคืนคุณแน่นอน” สุนทรีพูดเป็นต่อยหอยโน้มน้าวให้โอฬารเชื่อ “ลูกสาว!!” โอฬารมองหน้านิติกรเพื่อจะถามว่าแน่ใจหรือ “ใช่ค่ะ” สุนทรีย์รีบบอก “ผมไม่ได้ต้องการคำตอบจากคุณ” โอฬารตะหวาดแม่เลี้ยงใจร้ายอย่างสุนทรี ที่คิดเอาตัวรอดโยนให้คนอื่นมารับกรรมแทน “ลูกสาวผมอายุเพียงสิบเก้าเองครับคุณโอฬาร ถ้าคุณกรุณาผมอยากให้เธอได้เรียนต่อ อย่าเอาเธอไปเลยนะครับ” นิติกรที่ยังไม่อยากให้ลูกสาวมาเกี่ยวพันกับเรื่องนี้ โอฬารพยักหน้าให้คนหาข้อมูลเกี่ยวกับลูกสาวของนิติกร ไม่นานนักลูกน้องคนสนิทก็ส่งแท็บแลตให้เขาดูหน้าตาของปลายฟ้า ลูกสาวของนิติกร เขามองสลับกับมองนิติกร นึกอนาถใจแทนผู้ชายคนนี้ แถมลูกสาวยังสวยเสียด้วย “ตกลง” โอฬารรีบตกลงทันทีเพราะว่าเขารู้มาว่า สุนทรีเริ่มเข้าไปพัวพันกับพวกแม่เล้าที่ส่งเด็กสาวให้กับคนมีชื่อเสียงและคนร่ำรวย ที่อยากได้เด็กๆ ไปเป็นทาสบำเรอเพื่อความสุข หากปล่อยให้ปลายฟ้าอยู่กับสุนทรีย์และพ่อที่หัวอ่อนอย่างนิติกร ไม่แคล้วเด็กสาวคนนี้คงได้เป็นเหยื่อแม่เลี้ยงใจร้ายอย่างสุนทรีแน่นอน เขาถอนหลายใจอย่างไม่เข้าใจนัก เหตุใดแค่ความรักทำให้คนตาบอดเพียงนี้เชียวหรือ ยิ่งไล่ดูไทม์ไลน์ในเฟสบุ๊คและไอจีของเธอ ล้วนแต่โพสขายสิ้นค้าโน้นนี่สารพัด แต่มีพ่อไร้สติแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกันกรรมแท้ๆ “พรุ่งนี้ให้เธอเก็บข้าวของมาที่บ้านของฉัน ทำงานรับใช้ฉันทุกอย่างจนกว่าคุณจะเอาเงินมาคืนจนครบ เธอจึงจะออกไปได้ แต่ผมไม่คิดว่าจะให้เธออยู่เป็นคนงานตลอดไป สามเดือนระหว่างนี้คุณต้องหาทางเอาเงินคืนมาให้ได้ หากไม่นอกจากลูกสาวคุณผมจะไม่คืนให้แล้ว คุณทั้งสองคนยังต้องชดใช้หนี้ผมเป็นสองเท่า” โอฬารขู่ดักไว้ก่อน คนอย่างสุนทรีไม่มีทางที่จะหาเงินมาคืนง่ายๆ หากไม่มีข้อตกลง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม