ความลับที่เก็บมานาน

1513 คำ
ตรัยคุณส่งหลานสาวที่โรงเรียนเสร็จแล้วก็ไปทำธุระของตนเองก่อนจะมาหาตะวันที่ร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างตามที่ได้นัดกันไว้ว่าวันนี้เขาจะพาไปเจอกับแฟนสาวเพื่อคุยเรื่องเรือนหอ “กูเข้าไม่ใจมึงเลยว่ะตะวัน มึงก็เรียนมาเหมือนกูแล้วทำไมไม่ออกแบบเรือนหอเอง” “กูกลัวว่าจะออกแบบตามใจตัวเองเกินไป กูเลยอยากได้คนกลางเพื่อฟังความคิดเห็นของกูกับกานต์” “แล้ววันนี้แฟนมึงไม่ทำงานเหรอ” “ทำสิ แต่ทำแค่ช่วงเช้าช่วงบ่ายเขาลา” “คงไม่ลาเพื่อมาบรีฟแบบบ้านใช่ไหม” “เปล่าเขาลาไปอบรมน่ะ แต่กว่าเครื่องจะออกก็เกือบสี่โมงเย็นเลยมีเวลามาคุยเรื่องเรือนหอ” “มึงคบกับหมอกานต์มานานจนจะแต่งงานแล้วกูยังไม่เคยเจอแฟนมึงสักที” “ก็มึงงานยุ่งกานต์เขาก็งานยุ่ง” “แล้วแบบนี้จะมีเวลาให้มึงเหรอ” “มีสิ เขาก็มีวันหยุดเหมือนคนอื่นนั่นแหละแต่ช่วงที่ทำงานหรือเข้าเวรก็จะติดต่อยากหน่อยแค่นั้นเองแล้วโรงพยาบาลกับร้านกูก็อยู่ใกล้กันแค่นี้ถ้ามีเรื่องด่วนกูก็ไปหาเขาได้” ตะวันอธิบายให้เพื่อนฟัง “ดีนะอยู่ใกล้แบบนี้” “ดีสิ มึงก็รีบหาแฟนสักทีเถอะโสดมานานแล้วไม่เหงาเหรอ” “จะเอาเวลาที่ไหนมาเงาล่ะ งานที่ไร่ก็ยุ่ง” “มึงทำตัวให้ยุ่งเองมากกว่า คนงานที่ไร่ก็ออกเยอะแยะไม่เห็นจะต้องลงไปคุมเองเลย” “ก็บางอย่างมันไม่ได้ดั่งใจนี่” “แล้วงานร้านยาของลูกสาวอาจารย์เพิ่มศักดิ์ล่ะ มึงจะให้กูดูหรือจะดูเอง” ตะวันเป็นคนรับงานแต่ที่ถามตรัยคุณเพราะเห็นว่าเขาเป็นคนออกแบบ “อยู่ใกล้แค่นั้นกูช่วยดูก็ได้” “กูมีงานออกแบบอาคารสำนักงานในตัวอำเภออีกงานนะ เขาอยากให้มึงออกแบบ” “กูเห็นเขาเพิ่งเอาดินมาลงคงอีกนานกว่าจะได้เริ่ม” “รอกูกลับจากภูเก็ตนะกูจะนัดคุยเรื่องรายละเอียด” “ไม่ต้องมีการประมูลเหรอวะ” “เขารู้จักกับพ่อกูมาก่อนก็เลยเลือกให้ทำ แรกๆ กูไม่อยากทำแต่เขาก็ไม่ยอมเขาเลยเพิ่มเงินให้อีก กูก็งกด้วยสิรีบเก็บเงินแต่งงานก็เลยยอม” “เขาเรียกสินสอดแพงเหรอ” “เรียกก็ดีสิกูจะได้รู้ว่าเท่าไหร่ แต่เขาบอกว่าแล้วแต่กูก็เลยต้องเอาให้มากเข้าไว้ไม่อยากให้หมอกานต์น้อยหน้าใคร” “แล้วเจ้าตัวเขาว่าอะไรไหม” “ไม่ว่าเลยเขาบอกไม่มีสินสอดก็ได้ ยิ่งเขาพูดแบบนี้กูยิ่งเกรงใจ” “ยังไม่ทันแต่งก็กลัวเมียแล้วเหรอวะ” “เขาเรียกให้เกียรติต่างหาก มึงลองรักใครจริงๆ สิมึงจะยอมเขาและอยากทำทุกอย่างเพื่อเขาแม้ว่าเขาจะไม่ขอก็ตาม” “ดูมึงเข้าใจความรักดีนะ” “กูไม่ได้เข้าใจความรักแต่กูเข้าใจคนรักของกูต่างหาก” “มึงเปลี่ยนไปมากนะตั้งแต่มีแฟน” ตรัยคุณมองเพื่อนรักที่ครั้งหนึ่งเคยเห็นผู้หญิงเป็นเพียงของและคบไม่เลือกแต่ตอนนี้ตะวันเปลี่ยนไปเป็นคนที่จริงจังเรื่องความรักและกำลังจะสร้างครอบครัว ซึ่งตรัยคุณคิดว่ามันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีและเขาก็รู้สึกอยากมีใครสักคนมาสร้างครอบครัวด้วยกันเหมือนอย่างตะวัน ตรัยคุณนั่งคุยกับเพื่อนไม่นานเท่าไหร่คนรักของตะวันก็เดินเข้ามา เขามองเธอแล้วยิ้มเพราะจำได้ว่าเพิ่งจะเจอกันเมื่อวานที่งานวัด “คุณเป็นแฟนไอ้ตะวันเหรอ” “ค่ะ แล้วคุณก็คงเป็นเพื่อนที่จะมาออกแบบเรือนหอให้เราใช่ไหมคะ” “เดี๋ยวนะสองคนนี้รู้จักกันมาก่อนเหรอ” ตะวันมองหน้าคนรักสลับกับเพื่อนรักอย่างแปลกใจ “ไม่รู้จักหรอกค่ะ แต่เมื่อคืนกานต์เจอเขาที่งานวัดแล้วเขามาช่วยกานต์กับยัยพิมพ์ปาลูกโป่ง” “บังเอิญดีนะ เขาชื่อตรัยเป็นเพื่อนรักของผมที่ผมเคยเล่าให้คุณฟังบ่อยๆ วันนี้เขาจะมาช่วยออกแบบเรือนหอให้เรา กานต์อยากได้แบบไหนก็บอกได้เลยเขาเก่งที่สุดในรุ่นแล้ว” “ยินดีที่รู้จักนะครับหมอกานต์ผมได้ยินชื่อคุณมานานแล้วเพิ่งจะเคยเจอตัวจริงวันนี้” “ยินดีที่รู้จักเช่นกันค่ะแต่ก่อนที่กานต์จะบอกว่าอยากได้เรียนหอแบบไหนกานต์อยากจะถามคุณตรัยก่อนว่าเพราะอะไรเพื่อนของกานต์ถึงได้บอกว่าคุณตรัยคือคนงานที่มาส่งของ” “หนูพิมพ์เธอเข้าใจผิดนิดหน่อย” “คนส่งของอะไรวะตรัย” “ก็เมื่อวานกูติดรถส่งของไปลงที่บ้านหนูพิมพ์เข้าเขาก็เลยคิดว่ากูเป็นเด็กส่งของ” “แล้วทำไมมึงไม่บอกเขาล่ะ” “กูกลัวเขาเสียหน้าไงก็เลยปล่อยไปก่อน” “ปล่อยไปได้ยังไงคะนี่ถ้าเพื่อนของกานต์มารู้ทีหลังคงจะโกรธแน่ที่คุณไปหลอกเขา” “ผมหลอกที่ไหนครับเธอเข้าใจผิดไปเองแล้วตอนนั้นแดดมันก็ร้อนมากผมไม่อยากยืนอธิบายสู้รีบทำงานให้เสร็จดีกว่า” “จะปล่อยให้ยัยพิมพ์เข้าใจผิดไปแบบนี้ตลอดเหรอคะ” “ผมว่าอีกไม่นานเพื่อนคุณก็ต้องรู้แหละว่าเขาไม่ใช่คนงาน เพราะเขาต้องไปคุมคนงานทำร้านขายยาของเธอและบ้านเขาก็อยู่ติดกับบ้านเธอ” “ไม่อยากคิดเลยว่าถ้ายัยพิมพ์รู้จะโกรธมากแค่ไหน ยัยพิมพ์เป็นคนไม่ชอบการโกหกที่สุด กานต์ว่าคุณน่าจะทำงานลำบากแล้วล่ะคะ” “มันเรื่องเล็กน้อยเองนะครับ คุณพูดเหมือนมันผิดมาก” “คุณตรัยอาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่สำหรับคนที่เกลียดการโกหกอย่างยัยพิมพ์มันอาจจะเป็นเรื่องใหญ่ เผลอๆ อาจจะโกรธจนไม่มองหน้าเลยนะคะ” “ซวยแล้วสิ” “ไม่หรอกค่ะ แค่รีบไปบอกความจริงก่อนที่ยัยพิมพ์จะรู้จากปากคนอื่น” “ตกลงครับผมจะรีบบอกเธอเลย” ตรัยคุณรีบรับปากเพราะเขาไม่อยากให้พิมพ์พันดาวไม่ชอบตั้งแต่ยังไม่เริ่มจีบ เมื่อคุยเรื่องส่วนตัวจบแล้วตรัยคุณก็เริ่มคุยเรื่องเรือนหอและจดรายละเอียดทุกอย่างที่ตะวันและคนรักต้องการ “ใช้เวลานานไหมคะ” กานต์พิชชาถามเพราะเธอยากจะเห็นแบบว่าจะเหมือนที่ตนเองคิดไว้หรือเปล่า “ไม่นานครับ ระหว่างนี้ผมจะส่งแบบให้ดูเป็นระยะถ้าไม่ชอบจุดไหนก็บอกได้เลยไม่ต้องเกรงใจนะครับ เพราะถ้าบอกช้าหรือไม่ยอมบอกเพราะเกรงใจคุณเองจะเสียใจเพราะบ้านหลังนี้คุณจะต้องอยู่กับมันไปตลอด” “ขอบคุณนะคะ เวลาทำงานคุณตรัยดูเป็นคนจริงจังมากผิดกับเมื่อคืนเลยค่ะแล้วได้เอาตุ๊กตาไปให้สาวไหมคะ” “นี่แอบไปจีบสาวมาเหรอวะ” “ยังเลยครับ” “ทำไมล่ะคะ” “ก็ผมแอบชอบเธอแต่เธอยังไม่รู้ว่าผมชอบ” “ที่พูดนี่หมายถึงใครวะตรัย” “ก็คนที่กูแอบชอบตอนเรียนม.ปลายไง” “ชอบตอนเรียนม.ปลายป่านนี้เธอไม่แต่งงานไปแล้วเหรอคะ นี่คุณแอบชอบมานานขนาดนั้นได้ยังไงทำไมไม่บอกเธอไปล่ะ” “เธอยังโสด” “ถ้านับอายุก็คงเท่ากันสินะคะ” “ครับ” “ถ้าจะ 30 แล้วเธอยังโสดมันต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ หรือว่าเธอไม่สวยค่ะ” “สวยสิ สวยมากด้วยเธอเป็นถึงดาวโรงเรียน” “กูเพิ่งรู้ว่ามึงชอบดาวโรงเรียนนึกว่าชอบอีกคน” “อีกคนนั้นกูไม่ได้คิดอะไรกับเขา แต่เห็นเขาอยู่ห้องเดียวกันก็เลยคุยด้วย” “เท่าที่ฟังมากานต์ว่าผู้หญิงที่คุณตรัยชอบคือยัยพิมพ์ใช่ไหมคะ” กานต์พิชชาที่ฟังตรัยคุณพูดแล้วก็นึกออกเพราะเพื่อนของตนเองนั้นเป็นดาวโรงเรียนและสวยมากอีกทั้งยังโสดมาถึงตอนนี้ก็เหลือแค่พิมพ์พันดาวแค่คนเดียว “คุณกานต์เดาเก่งนะครับ” “อ้อ ถึงว่าพอรู้ว่าเขาจะกลับมาเปิดร้านก็รีบเสนอตัวเขียนแบบให้ฟรีๆ กูก็นึกว่ามึงทำเพราะเขาเป็นลูกสาวของอาจารย์เพิ่มศักดิ์” “ก็ทำเพราะอาจารย์ด้วยทำให้เขาด้วย” “น่ารักดีนะคะแอบทำอะไรให้คนที่เราชอบ แล้วคุณตรัยไม่คิดจะบอกยัยพิมพ์เหรอคะ” “ผมไม่รู้จะเริ่มยังไงครับ” “เริ่มจากไปรีบไปขอโทษเรื่องที่เข้าใจผิดก่อนค่ะ” “ก็นั่นแหละครับที่ทำให้ผมไม่กล้า”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม