ตอนที่7

1355 คำ
“คุณลองไปปรึกษาคุณพ่อดูก่อนไหมครับ” “...” “ตอนนี้คุณอาจจะตัดสินใจคนเดียวไม่ได้” “...” “ผมจะรอ” มือหนาของเหมันต์ยกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม ท่วงท่าสบายของเหมันต์เช่นเดียวกับใบหน้าที่ผ่อนคลายของเขาต่างจากเธอที่มีแต่ความกังวลอัดแน่นอยู่ข้างใน ฟางข้าวหลุบสายตาลงมองจานอาหารตรงหน้า ดวงตาคู่สวยกลอกไปมาอย่างใช้ความคิด 20.00 น. “อ...อะไรนะ เหมันต์ขอลูกแต่งงานเหรอ!!!” เกริกไกรแผดเสียงออกมาหลังจากที่ลูกสาวบุญธรรมกลับจากดินเนอร์ ภายในห้องโถงนั่งเล่นของบ้านสิงหโภคิน ตอนนี้ทุกคนในครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ผู้นำตระกูลอย่างเกริกไกร ชมนาด และพะแพงที่กำลังจ้องไปที่ใบหน้าสวยของฟางข้าว “ค่ะ แต่หนูคิดว่ามันเร็วเกินไป หนูว่ามันแปลกนะคะคุณพ่อ” “แปลกแล้วยังไง? ตอนนี้สิ่งเดียวที่เราทำได้คือเอาความลับสำคัญเรื่องธุรกิจของเดชราชันย์ไปบอกคุณคนนั้นให้เร็วที่สุด!!” ดวงตาของเกริกไกรเบิกโพลง ถุงใต้ตาเหี่ยวย่นดำคล้ำเพราะเครียดกับเรื่องวิกฤตที่เกิดขึ้นจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ธุรกิจที่สร้างมาตั้งแต่รุ่นพ่อจะพังลงในน้ำมือของเขา เกริกไกรยอมไม่ได้ เพราะเขาคงไม่มีหน้าไปพบเจอบรรพบุรุษตอนตายหากธุรกิจและวงค์ตระกูลเขายังรักษาเอาไว้ไม่รอด “แต่งงานกับเหมันต์ซะ มันเสนอมาให้ขนาดนี้ จะยังลังเลอะไร!!” “แต่คุณพ่อไม่สงสัยเหรอคะว่าทุกอย่างมันเหมาะเจาะไปหมด หนูคิดว่าเขามีแผนบางอย่างที่จะตลบหลังเรา” “ใช่ค่ะ แพงไม่เชื่อว่าคุณเหมันต์จะรักคนอย่างพี่ข้าวจนถึงขั้นอยากแต่งงาน” สายตามองขวางไปที่พี่สาว ฟางข้าวสบตากับพะแพง...ที่อีกฝ่ายพูดก็ถูก เธอไม่มีอะไรน่าดึงดูดถึงขั้นที่คนเพรียบพร้อมอย่าง เหมันต์ เดชราชันย์ จะขอแต่งงานเพียงแค่รู้จักกันหนึ่งเดือน คิดยังไงก็เป็นไปไม่ได้เลย “อย่าเถียงคุณพ่อสิ คุณพ่อพูดอะไรก็ต้องทำตาม” ทว่าชมนาดก็เอ่ยขัดลูกสาวทั้งสอง อุปนิสัยของชมนาดที่เดินตามหลังสามีมาตลอดสามสิบกว่าปี แทบไม่มีความคิดเป็นของตัวเองและคิดอะไรเองไม่ได้ในทุกเรื่อง สามีว่าอย่างไรก็ว่าตามนั้น และพะแพง ลูกสาวแท้ๆ เพียงคนเดียวที่ดูเหมือนจะฉลาด แต่ก็ไม่...ที่เธอแย้งออกมาไม่ได้เป็นเพราะสงสัยในตัวของเหมันต์ ทว่าพะแพงหวังเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทำยังไงก็ได้อย่าให้ฟางข้าวได้ดี ยิ่งมารู้ว่าเหมันต์ คนที่ร่ำรวยล้นฟ้าอำนาจล้นมือขอฟางข้าวแต่งงาน จะด้วยเหตุผลอะไรก็ช่าง พะแพงก็ไม่พอใจ ฟางข้าวกำมือแน่น เธอมองเกริกไกรทีนั่งอกผายไหล่ผึ่งบนโซฟากลางบ้าน เสียงสนั่นออกคำสั่งเด็ดขาดจนหญิงสาวไม่สามารถจะโต้แย้งอะไรได้ “แต่งงานกับเหมันต์ และแกจะได้เข้าใกล้เรื่องงานของมันมากขึ้น ความหวังที่เราจะได้ความลับนั่นใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว” “...” “และถ้าหากแกทำให้มันรักมันหลงกว่านี้ ธุรกิจที่รวยค้ำฟ้าของเหมันต์จะไปไหนได้ ยังไงก็ต้องตกเป็นของเราไม่มากก็น้อย” “คุณพ่อ...” “ท้องกับมันได้ไวๆ ยิ่งดี ฮ่าๆๆๆ เราจะรวยแบบมหาศาลแล้วล่ะคุณ” เกริกไกลที่ดวงตาเบิกโพลงเหมือนคนเสียสติหันไปหัวเราะอย่างบ้าคลั่งให้กับภรรยา ชมนาดก็ยิ้มกว้างออกมาก่อนจะคาดหวังว่าเรื่องทั้งหมดต่อจากนี้จะเป็นไปตามที่สามีคาดการณ์ไว้ ท่ามกลางบรรยากาศที่ร้อนระอุด้วยบทสนทนาในเรื่องสำคัญ ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งก็เดินกุมมือเข้ามาในโถงห้องนั่งเล่น เขาคนนั้นคือหนึ่งในคนสนิทของเกริกไกร สุชาติ ได้เดินนอบน้อมไปหยุดอยู่ข้างผู้นำตระกูลทันที “คุณเกริกไกรครับ โทรศัพท์จากมิสเตอร์โจเซฟครับ” “อืม งั้นวันนี้ก็แค่นี้ แยกย้ายกันได้แล้ว” เกริกไกรเอ่ยกับภรรยาและลูก ก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟาเป็นคนแรกและเดินออกจากโถงห้องนั่งเล่น ตามด้วยคนสนิทอย่างสุชาติที่เดินออกตามไปติดๆ “ฮัลโหล คุณเหมันต์ ผมสุชาตินะครับ ผมมีความคืบหน้าจะมาแจ้ง” ลับหลังสายตาของทุกคนในตระกูล สุชาติที่เป็นคนสนิทของเกริกไกรมาหลายสิบปี ทว่าได้ผันตัวเป็นหนอนบ่อนไส้ และเป็นคนเดียวกับที่ติดต่อเหมันต์เพื่อขายความลับแลกกับเงินจำนวนมากเมื่อช่วงเดือนก่อน อดีตสุชาติเคยจงรักภักดีต่อเกริกไกร แต่บัดนี้อะไรๆ ก็เปลี่ยนไป ตระกูลนี้ไม่ได้ร่ำรวยเงินทองเหมือนในอดีตแล้ว แต่ลูกน้องชนชั้นล่างอย่างเขาต้องกินต้องอยู่ ต้องรับผิดชอบภาระครอบครัวที่หนักอึ้งเหมือนกัน ในเมื่อพักหลังเงินเดือนไม่ได้ตามที่ควรจะเป็น เกริกไกรใกล้จะล้มละลายจนค้างการจ่ายเงินเดือนพนักงานทุกคนไม่เว้นแม้แต่คนรับใช้ในบ้าน เขาก็ต้องเอาตัวรอดในทางอื่น หลายวันต่อมา วันนี้เป็นวันที่เหมันต์เดินทางมาที่บ้านตระกูลสิงหโภคินเพื่อทานมื้อค่ำ ทั้งสองฝั่งเตรียมตัวที่จะเป็นทองแผ่นเดียวกันในอีกไม่ช้า มาเฟียหนุ่มเดินทางมาทำความรู้จักกับครอบครัวของ ‘ว่าที่ภรรยา’ และวันนี้ก็เป็นฤกษ์งามยามดีที่จะได้พบหน้าคร่าตากันเป็นครั้งแรก ร่างสูงกำยำอยู่ในชุดสูทภูมิฐานเพราะพึ่งกลับจากทำงานหมาดๆ มาเฟียหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติลงจากรถยนต์คันหรูของตัวเองหน้าประตูทางเข้าบ้านสิงหโภคิน บ้านหลังโตที่ค่อนข้างเก่าแก่ไม่ได้ต่อเติมหรือบำรุงรักษามาเป็นเวลานาน อดีตบรรพบุรุษทำไว้ยังไงบัดนี้ก็เป็นอยู่อย่างนั้น ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เก่าก็เก่าอยู่แบบนั้น บ่งบอกถึงความสามารถของผู้นำตระกูลรุ่นปัจจุบันเป็นอย่างดี เขาเงยหน้ามองบ้านหลังใหญ่ตรงหน้าด้วยสายตาแพรวพราว ที่ดินที่เหมันต์เหยียบอยู่ตอนนี้ อนาคตเขามีแพลนจะทุบมัน และทำอะไรสักอย่างเพื่อแสวงหากำไร ถ้ามันอยู่ในมือเขาก็จะมีแต่ได้กับได้ มาเฟียไร้หัวใจอยากให้ถึงเวลานั้นจนใจแทบขาด “พอฉันได้ทุกอย่าง สิ่งที่ฉันจะทำอย่างแรกคือทุบบ้านหลังนี้ไม่ให้เหลือแม้แต่ซาก” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นกับคนด้านหลังที่ยืนกุมมือนิ่งเงียบอยู่นาน กวิน ลูกน้องคนสนิทมือขวาของเหมันต์ “นายท่านอยากจะทำอะไรครับ ผมจะดำเนินเรื่องให้ตั้งแต่เนิ่นๆ” “ยังไม่ต้องรีบร้อนหรอก แต่ก็อีกไม่นาน” นัยน์ตาแข็งกร้าวจ้องมองบ้านหลังเก่าพลางนึกถึงใบหน้าของฟางข้าว ผู้หญิงที่ตั้งใจจะเข้ามาหลอกเขา ผู้หญิงที่กล้าแม้แต่จะคิดเข้ามาทำให้ธุรกิจของเขาสั่นคลอน เป้าหมายของคนบ้านนี้รายชื่อคู่ค้าในโปรเจ็คสำคัญที่จะทำเงินมหาศาลให้กับเดชราชันย์ ทว่ามีพวกหน้าโง่ไม่กี่คนที่จ้องจะดักขา ล้วงความลับสำคัญของเขาไปให้ผู้ที่จะหนุนหลังมัน เหมันต์ยังไม่รู้ว่าใครคือผู้หนุนหลังคนนั้น แต่ถ้าให้เดา มันน่าจะเป็นผู้มีอิทธิพลมาก...ถึงขั้นกล้าให้พวกคนชั้นต่ำเข้าไปสืบเรื่องของเขาได้ เหมันต์ยังไม่รู้ว่าใครคือคนที่อยู่เบื้องหลัง แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาจะกำจัดคือคนในบ้านนี้... “คุณเหมันต์ มากันแล้วเหรอครับ” ฉับพลันเสียงของชายวัยกลางคนก็ดังขึ้นภายในตัวบ้าน เหมันต์รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เป็นชายหนุ่มที่เดินทางมาทานอาหารมื้อเย็นกับครอบครัวว่าที่ภรรยา ชายหนุ่มที่รักลูกสาวบ้านนี้จนอยากจะแต่งงานด้วย วินาทีสวมหน้ากากจึงเริ่มต้นขึ้น “สวัสดีครับ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม