“คุณลองไปปรึกษาคุณพ่อดูก่อนไหมครับ”
“...”
“ตอนนี้คุณอาจจะตัดสินใจคนเดียวไม่ได้”
“...”
“ผมจะรอ”
มือหนาของเหมันต์ยกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม ท่วงท่าสบายของเหมันต์เช่นเดียวกับใบหน้าที่ผ่อนคลายของเขาต่างจากเธอที่มีแต่ความกังวลอัดแน่นอยู่ข้างใน ฟางข้าวหลุบสายตาลงมองจานอาหารตรงหน้า ดวงตาคู่สวยกลอกไปมาอย่างใช้ความคิด
20.00 น.
“อ...อะไรนะ เหมันต์ขอลูกแต่งงานเหรอ!!!”
เกริกไกรแผดเสียงออกมาหลังจากที่ลูกสาวบุญธรรมกลับจากดินเนอร์ ภายในห้องโถงนั่งเล่นของบ้านสิงหโภคิน ตอนนี้ทุกคนในครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ผู้นำตระกูลอย่างเกริกไกร ชมนาด และพะแพงที่กำลังจ้องไปที่ใบหน้าสวยของฟางข้าว
“ค่ะ แต่หนูคิดว่ามันเร็วเกินไป หนูว่ามันแปลกนะคะคุณพ่อ”
“แปลกแล้วยังไง? ตอนนี้สิ่งเดียวที่เราทำได้คือเอาความลับสำคัญเรื่องธุรกิจของเดชราชันย์ไปบอกคุณคนนั้นให้เร็วที่สุด!!”
ดวงตาของเกริกไกรเบิกโพลง ถุงใต้ตาเหี่ยวย่นดำคล้ำเพราะเครียดกับเรื่องวิกฤตที่เกิดขึ้นจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ธุรกิจที่สร้างมาตั้งแต่รุ่นพ่อจะพังลงในน้ำมือของเขา เกริกไกรยอมไม่ได้ เพราะเขาคงไม่มีหน้าไปพบเจอบรรพบุรุษตอนตายหากธุรกิจและวงค์ตระกูลเขายังรักษาเอาไว้ไม่รอด
“แต่งงานกับเหมันต์ซะ มันเสนอมาให้ขนาดนี้ จะยังลังเลอะไร!!”
“แต่คุณพ่อไม่สงสัยเหรอคะว่าทุกอย่างมันเหมาะเจาะไปหมด หนูคิดว่าเขามีแผนบางอย่างที่จะตลบหลังเรา”
“ใช่ค่ะ แพงไม่เชื่อว่าคุณเหมันต์จะรักคนอย่างพี่ข้าวจนถึงขั้นอยากแต่งงาน”
สายตามองขวางไปที่พี่สาว ฟางข้าวสบตากับพะแพง...ที่อีกฝ่ายพูดก็ถูก เธอไม่มีอะไรน่าดึงดูดถึงขั้นที่คนเพรียบพร้อมอย่าง เหมันต์ เดชราชันย์ จะขอแต่งงานเพียงแค่รู้จักกันหนึ่งเดือน
คิดยังไงก็เป็นไปไม่ได้เลย
“อย่าเถียงคุณพ่อสิ คุณพ่อพูดอะไรก็ต้องทำตาม”
ทว่าชมนาดก็เอ่ยขัดลูกสาวทั้งสอง อุปนิสัยของชมนาดที่เดินตามหลังสามีมาตลอดสามสิบกว่าปี แทบไม่มีความคิดเป็นของตัวเองและคิดอะไรเองไม่ได้ในทุกเรื่อง สามีว่าอย่างไรก็ว่าตามนั้น
และพะแพง ลูกสาวแท้ๆ เพียงคนเดียวที่ดูเหมือนจะฉลาด แต่ก็ไม่...ที่เธอแย้งออกมาไม่ได้เป็นเพราะสงสัยในตัวของเหมันต์ ทว่าพะแพงหวังเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทำยังไงก็ได้อย่าให้ฟางข้าวได้ดี
ยิ่งมารู้ว่าเหมันต์ คนที่ร่ำรวยล้นฟ้าอำนาจล้นมือขอฟางข้าวแต่งงาน จะด้วยเหตุผลอะไรก็ช่าง พะแพงก็ไม่พอใจ
ฟางข้าวกำมือแน่น เธอมองเกริกไกรทีนั่งอกผายไหล่ผึ่งบนโซฟากลางบ้าน เสียงสนั่นออกคำสั่งเด็ดขาดจนหญิงสาวไม่สามารถจะโต้แย้งอะไรได้
“แต่งงานกับเหมันต์ และแกจะได้เข้าใกล้เรื่องงานของมันมากขึ้น ความหวังที่เราจะได้ความลับนั่นใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว”
“...”
“และถ้าหากแกทำให้มันรักมันหลงกว่านี้ ธุรกิจที่รวยค้ำฟ้าของเหมันต์จะไปไหนได้ ยังไงก็ต้องตกเป็นของเราไม่มากก็น้อย”
“คุณพ่อ...”
“ท้องกับมันได้ไวๆ ยิ่งดี ฮ่าๆๆๆ เราจะรวยแบบมหาศาลแล้วล่ะคุณ”
เกริกไกลที่ดวงตาเบิกโพลงเหมือนคนเสียสติหันไปหัวเราะอย่างบ้าคลั่งให้กับภรรยา ชมนาดก็ยิ้มกว้างออกมาก่อนจะคาดหวังว่าเรื่องทั้งหมดต่อจากนี้จะเป็นไปตามที่สามีคาดการณ์ไว้ ท่ามกลางบรรยากาศที่ร้อนระอุด้วยบทสนทนาในเรื่องสำคัญ ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งก็เดินกุมมือเข้ามาในโถงห้องนั่งเล่น เขาคนนั้นคือหนึ่งในคนสนิทของเกริกไกร
สุชาติ ได้เดินนอบน้อมไปหยุดอยู่ข้างผู้นำตระกูลทันที
“คุณเกริกไกรครับ โทรศัพท์จากมิสเตอร์โจเซฟครับ”
“อืม งั้นวันนี้ก็แค่นี้ แยกย้ายกันได้แล้ว”
เกริกไกรเอ่ยกับภรรยาและลูก ก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟาเป็นคนแรกและเดินออกจากโถงห้องนั่งเล่น ตามด้วยคนสนิทอย่างสุชาติที่เดินออกตามไปติดๆ
“ฮัลโหล คุณเหมันต์ ผมสุชาตินะครับ ผมมีความคืบหน้าจะมาแจ้ง”
ลับหลังสายตาของทุกคนในตระกูล สุชาติที่เป็นคนสนิทของเกริกไกรมาหลายสิบปี ทว่าได้ผันตัวเป็นหนอนบ่อนไส้ และเป็นคนเดียวกับที่ติดต่อเหมันต์เพื่อขายความลับแลกกับเงินจำนวนมากเมื่อช่วงเดือนก่อน อดีตสุชาติเคยจงรักภักดีต่อเกริกไกร แต่บัดนี้อะไรๆ ก็เปลี่ยนไป ตระกูลนี้ไม่ได้ร่ำรวยเงินทองเหมือนในอดีตแล้ว แต่ลูกน้องชนชั้นล่างอย่างเขาต้องกินต้องอยู่ ต้องรับผิดชอบภาระครอบครัวที่หนักอึ้งเหมือนกัน ในเมื่อพักหลังเงินเดือนไม่ได้ตามที่ควรจะเป็น เกริกไกรใกล้จะล้มละลายจนค้างการจ่ายเงินเดือนพนักงานทุกคนไม่เว้นแม้แต่คนรับใช้ในบ้าน เขาก็ต้องเอาตัวรอดในทางอื่น
หลายวันต่อมา
วันนี้เป็นวันที่เหมันต์เดินทางมาที่บ้านตระกูลสิงหโภคินเพื่อทานมื้อค่ำ ทั้งสองฝั่งเตรียมตัวที่จะเป็นทองแผ่นเดียวกันในอีกไม่ช้า มาเฟียหนุ่มเดินทางมาทำความรู้จักกับครอบครัวของ ‘ว่าที่ภรรยา’ และวันนี้ก็เป็นฤกษ์งามยามดีที่จะได้พบหน้าคร่าตากันเป็นครั้งแรก
ร่างสูงกำยำอยู่ในชุดสูทภูมิฐานเพราะพึ่งกลับจากทำงานหมาดๆ มาเฟียหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติลงจากรถยนต์คันหรูของตัวเองหน้าประตูทางเข้าบ้านสิงหโภคิน บ้านหลังโตที่ค่อนข้างเก่าแก่ไม่ได้ต่อเติมหรือบำรุงรักษามาเป็นเวลานาน อดีตบรรพบุรุษทำไว้ยังไงบัดนี้ก็เป็นอยู่อย่างนั้น ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เก่าก็เก่าอยู่แบบนั้น บ่งบอกถึงความสามารถของผู้นำตระกูลรุ่นปัจจุบันเป็นอย่างดี เขาเงยหน้ามองบ้านหลังใหญ่ตรงหน้าด้วยสายตาแพรวพราว
ที่ดินที่เหมันต์เหยียบอยู่ตอนนี้ อนาคตเขามีแพลนจะทุบมัน และทำอะไรสักอย่างเพื่อแสวงหากำไร ถ้ามันอยู่ในมือเขาก็จะมีแต่ได้กับได้
มาเฟียไร้หัวใจอยากให้ถึงเวลานั้นจนใจแทบขาด
“พอฉันได้ทุกอย่าง สิ่งที่ฉันจะทำอย่างแรกคือทุบบ้านหลังนี้ไม่ให้เหลือแม้แต่ซาก”
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นกับคนด้านหลังที่ยืนกุมมือนิ่งเงียบอยู่นาน กวิน ลูกน้องคนสนิทมือขวาของเหมันต์
“นายท่านอยากจะทำอะไรครับ ผมจะดำเนินเรื่องให้ตั้งแต่เนิ่นๆ”
“ยังไม่ต้องรีบร้อนหรอก แต่ก็อีกไม่นาน”
นัยน์ตาแข็งกร้าวจ้องมองบ้านหลังเก่าพลางนึกถึงใบหน้าของฟางข้าว ผู้หญิงที่ตั้งใจจะเข้ามาหลอกเขา ผู้หญิงที่กล้าแม้แต่จะคิดเข้ามาทำให้ธุรกิจของเขาสั่นคลอน เป้าหมายของคนบ้านนี้รายชื่อคู่ค้าในโปรเจ็คสำคัญที่จะทำเงินมหาศาลให้กับเดชราชันย์ ทว่ามีพวกหน้าโง่ไม่กี่คนที่จ้องจะดักขา ล้วงความลับสำคัญของเขาไปให้ผู้ที่จะหนุนหลังมัน เหมันต์ยังไม่รู้ว่าใครคือผู้หนุนหลังคนนั้น แต่ถ้าให้เดา มันน่าจะเป็นผู้มีอิทธิพลมาก...ถึงขั้นกล้าให้พวกคนชั้นต่ำเข้าไปสืบเรื่องของเขาได้
เหมันต์ยังไม่รู้ว่าใครคือคนที่อยู่เบื้องหลัง แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาจะกำจัดคือคนในบ้านนี้...
“คุณเหมันต์ มากันแล้วเหรอครับ”
ฉับพลันเสียงของชายวัยกลางคนก็ดังขึ้นภายในตัวบ้าน เหมันต์รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เป็นชายหนุ่มที่เดินทางมาทานอาหารมื้อเย็นกับครอบครัวว่าที่ภรรยา ชายหนุ่มที่รักลูกสาวบ้านนี้จนอยากจะแต่งงานด้วย
วินาทีสวมหน้ากากจึงเริ่มต้นขึ้น
“สวัสดีครับ”